คอลัมน์ : สิทธิประชาชน
โดย จรัล ดิษฐาอภิชัย
ว่าจะไม่เขียนถึงการชุมนุมของครอบครัว “ความจริงวันนี้” เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนแล้ว เพราะใครๆ ก็เขียนถึงพูดถึง โดยเฉพาะหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ทุกฉบับทุกช่องลงภาพข่าวการชุมนุมของมวลประชามหาชนเสื้อแดงเต็มสนามราชมังคลากีฬาสถาน ดูเป็นเรือนแสน มีแต่บรรดาแกนนำและผู้ปราศรัยบนเวทีพันธมิตรฯ เท่านั้นที่หลับตาพูดว่า สองหมื่น สามหมื่นคน และที่สำคัญ คนฝ่ายพันธมิตรฯ ทุกกลุ่ม ตั้งแต่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ สมาชิกวุฒิสภาสรรหา นักวิชาการ รวมทั้งสื่อมวลชนจำนวนหนึ่งยังโจมตีการชุมนุมครั้งนี้ว่าเพื่อคนๆ เดียว ทำให้ความขัดแย้งแตกแยกล้ำลึกลงไป และดึงสถาบันเบื้องสูงมาเกี่ยวข้องกับการเมือง ผมจึงขอแสดงความคิดเห็นต่อสถานการณ์การชุมนุมอันมีความหมายทางประวัติศาสตร์นี้ด้วยคน
คงไม่ต้องบอกว่า ผมไปร่วมชุมนุม 1 พฤศจิกายนด้วย แล้วก็หลายคนได้เห็นและทักทายกับผม ราวๆ ทุ่มกว่าๆ นักข่าวต่างประเทศหลายคนถามผมว่า มวลชนอันมหาศาลเต็มสนามกีฬาวันนี้ สะท้อนและต้องการสื่อสารอะไรเป็นสำคัญ ผมวิเคราะห์อย่างสรุปให้พวกเขาฟังว่า สถานการณ์ที่ผู้คนใส่เสื้อแดงมาชุมนุมร่วม “รายการความจริงวันนี้ สัญจร” อย่างล้นหลาม มีสาเหตุและจุดมุ่งหมายหลายประการ
ประการแรก ในระยะ 2 เดือนที่ผ่านมา เกิดสถานการณ์ทางการเมืองที่ทำให้ประชาชนผู้รักประชาธิปไตย ประชาชนฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล และแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) รู้สึกอัดอั้นตันใจ ผิดหวัง หงุดหงิด และโกรธแค้น ตั้งแต่พันธมิตรฯ ปฏิบัติการยึดสถานีโทรทัศน์ NBT ยึดทำเนียบรัฐบาล กรณีการปะทะ คืนวันที่ 2 กันยายน การประกาศภาวะฉุกเฉินเป็นหมัน ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ นายสมัคร สุนทรเวช พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพราะจัดรายการโทรทัศน์ “ชิมไปบ่นไป” กรณี 7 ตุลาคม ถึงการตัดสินจำคุกอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร ทั้งๆ ที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ผิดกฎหมาย ไร้ความยุติธรรมและเป็นธรรม แต่ทำไมไม่มีใคร รัฐบาล รัฐสภา พรรคการเมือง ทหาร ตำรวจ ทำอะไรได้ เมื่อมีการจัดรายการความจริงวันนี้สัญจร ครั้งที่ 1 วันที่ 11 ตุลาคม ที่เมืองทองธานี พวกเขาจึงไปกันหลายหมื่น วันนี้จึงเป็นแสนเพื่อรวมพลังสื่อสารความเบื่อหน่ายพันธมิตรฯ และผิดหวังกับการเมือง
ประการที่สอง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวลือ ข่าวปล่อย และข่าวการวิเคราะห์ว่าทหารกลุ่มหนึ่งจะทำรัฐประหารแทบทุกวัน จนทำให้เกิดกระแสคัดค้านและเตรียมต่อต้านรัฐประหาร นปช. จึงจัดชุมนุมในโอกาสครอบ 2 ปี ของการเสียสละชีวิตของ นวมทอง ไพรวัลย์ เมื่อวันที่ 30 และ 31 ตุลาคม ที่ท้องสนามหลวง ร่วมประกาศสืบทอดเจตนารมณ์ต่อต้านรัฐประหารของท่านผู้นี้ ก่อนหน้านั้น หลายกลุ่มหลายองค์กรได้พูดคุย อภิปราย ตระเตรียมทางความคิดจิตใจเพื่อต่อต้านรัฐประหาร เมื่อ “รายการความจริงวันนี้ สัญจร” ประกาศเป้าหมายและชูคำขวัญนี้ ประชาชนผู้รักประชาธิปไตยที่ต้องการต่อต้านรัฐประหาร ไม่ชอบระบอบเผด็จการทหาร จึงใส่เสื้อแดงจากทั่วสารทิศมารวมพลังเพื่อส่งสัญญาไปถึงทหารกลุ่มอำมาตยาธิปไตย อย่าทำรัฐประหาร หากทำ จะถูกต่อต้านจากพวกเขา ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ประชาชนเรือนแสนเรือนล้านลุกขึ้นมาต่อต้านรัฐประหารตั้งแต่ยังไม่เกิด นี่คือความหมายประการหนึ่งของการชุมนุม 1 พฤศจิกายน
ประการที่ 3 ผมตั้งข้อสังเกตให้นักข่าวต่างประเทศฟังว่า ประชาชนผู้มาชุมนุมภายใต้ธงของความจริงวันนี้เกินครึ่งเป็นพลังเงียบที่มีใจอยู่กับฝ่ายประชาธิปไตย สนับสนุนรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง นิยมชมชอบอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ส่วนใหญ่เป็นคนชั้นกลางและไม่เคยไปชุมนุมที่สนามหลวง การปรากฏตัวของ “รายการความจริงวันนี้” ของสามเกลอหัวแข็งทำให้พลังเงียบค่อยๆ เผยตัว บางคืนมีโฟนอินจากพวกเขานับหมื่น 11 ตุลา พวกเขาไปแสดงตัวที่ธันเดอร์โดม 1 พฤศจิกายน มานั่งเต็มราชมังคลากีฬาสถาน พลังเงียบสำแดงพลังแล้ว
ไม่ว่าฝ่ายพันธมิตรฯ จะแหกปากโวยวาย ใส่ร้ายป้ายสีและบิดเบือนอย่างไร ก็ไม่สามารถปิดบังความจริงและสื่อสารประชาธิปไตยของมวลชนเรือนแสนในวันที่ 1 พฤศจิกายนได้