"เสธ.แดง" ไล่จวก สน.พันธมิตรฯ ระบุแกนนำเข้าขั้นโรคประสาท ชี้จ้างคนเร่ร่อน-เด็กเสิร์ฟร้านอาหารนอนเฝ้าม็อบ เตือน!ผู้ชุมนุมระวังตัว หวั่นมีเหตุรุนแรงจากการปลุกปั่นมวลชน ยันเหตุระเบิดเช้านี้ เชื่อฝีมือคนเกลียดชังพันธมาร
พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ให้สัมภาษณ์ "สำนักข่าวประชาทรรศน์" กรณีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ทำตัวเป็นนักเลงโดยใช้อาวุธไล่ทำร้ายผู้ที่ไม่เห็นด้วย ซึ่งเรื่องนี้เห็นว่ากลุ่มคนในพันธมิตรโดยเฉพาะแกนนำและการ์ด มีอาการเป็นโรคประสาทกันไปหมดแล้ว หลังจากโดนยิงโดนถล่มเพราะความชั่วและการกระทำที่ไม่ถูกต้องของตัวเอง
"อยากจะบอกให้พี่น้องประชาชนทุกคนตาสว่าง ว่ากลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯที่อยู่กันจนดึกดื่น ความจริงแล้วได้ว่าจ้างให้ผู้หญิงที่ทำงานในห้องอาหารมาร่วมชุมนุมด้วย ส่วนคนที่สูงวัยเป็นกลุ่มคนที่ทำมาหากินบริเวณสนามหลวง ด้านทหารและตำรวจเองก็เบื่อ สำหรับกลุ่มนักรบศรีวิชัยที่ขณะนี้มีความเก่งกล้า สามารถและเหิมเกริมได้ขนาดนี้ ต้องขอบคุณผู้บัญชาการทหารที่ส่งกำลังสารวัตรทหารมาคุ้มกัน แต่ไม่ทราบว่าจะส่งมาคุ้มกันนักรบเหล่าทำไม"
ส่วนกรณีที่ นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพัธมิตรฯ เตรียมออกใบอนุญาตพกอาวุธให้กับการ์ด และมีแกนนำ พธม.แอบอ้างพื้นที่ชุมนุมเป็น สน.พันธมิตร ในเรื่องนี้ พล.ต.ขัตติยะ ระบุว่า กลุ่มพันธมิตรฯขณะนี้บ้าไปแล้ว โดยเฉพาะนายสุริยะใส คิดได้อย่างไรเอาอวัยวะส่วนไหนไปคิดแทนการใช้สมอง ตั้งแต่ 1. การขอใบอนุญาติพกพาอาวุธเพื่อให้คนในกลุ่มตัวเองก่อความเดือดร้อนให้กลับบ้านเมือง 2. การทำตัวเป็นมาเฟียรวมตัวรวมกลุ่มเป็นสร้างปัญหา ทะเลาะวิวาทกับคนนั้นคนนี้ 3.ด่าทอว่ากล่าวถึง ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ซึ่งเป็นคนรับใช้ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทฯ ในกรณีที่แสดงออกว่าต้องการให้เกิดความปรองดอง อยากถามว่าเป็นสิ่งที่ควรแล้วหรือไม่
"ขอให้ทุกคนที่มีฐานะเป็นลูกเป็นหลานมีพ่อ แม่ พี่ ป้า น้า อา ที่ร่วมชุมนุมอยู่ในกลุ่มพันธมิตรฯนั้น ให้พาตัวบุคคลเหล่านั้นกลับบ้านโดยด่วน เนื่องจากหลายฝ่ายเริ่มรู้สึกแล้วว่ากลุ่มพันธมิตรฯสร้างความเดือดร้อนให้กับบ้านเมือง รวมถึงอาจมีมาตราการขั้นรุนแรงเกิดขึ้น" พล.ต.ขัตติยะ กล่าว
นอกจากนี้ พล.ต.ขัตติยะ ได้กล่าวถึงกรณีลอบระเบิดที่เวทีพันธมิตรฯนั้น ตนไม่คิดว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มพันธมิตรฯ แต่เชื่อว่าเป็นการกระทำของประชาชนที่เกลียดและไม่เห็นด้วยกับพันธมิตร ที่ถูกต้องพันธมิตรฯควรจะโดนหนักมากกว่าการปาหรือวางระเบิด แต่โชคดีที่ได้รับการคุ้มครองจากกองกำลังสารวัตรทหารที่ทางกองทัพส่งไปดูแล ซึ่งความจริงกองทัพควรจะถอนกำลังออกไปได้แล้ว เพราะผลจากการที่กองทัพคุ้มกันอยู่พันธมิตรฯจึงกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง และปักหลักอยู่ยาว สร้างความเดือดร้อนอยู่เช่นนี้โดยที่ ทหาร ตำรวจ ไม่มีปัญญาทำสิ่งใดได้เลย
ทหารโอดเฝ้า'ม็อบมาร'ครอบครัวลำบาก
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยบริเวณทำเนียบรัฐบาลเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา มีประชาชนเข้าร่วมชุมนุมประมาณ 1,000 คน บรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงาเนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนัก
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามทหารนายหนึ่ง ที่อยู่ในกองพันทหารสารวัตรที่ 11 ซึ่งดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับกลุ่มพันธมิตรฯ บริเวณสี่แยกมหานาค ได้กล่าวถึงความรู้สึกว่า กลุ่มพันธมิตรฯยังไม่มีท่าทีชัดเจนในการเปิดเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินในงานพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งทาง กลุ่มพันธมิตรฯ ควรเปิดเส้นทางให้เสด็จพระราชดำเนิน เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางเสด็จที่ถือว่าเป็นหน้าเป็นตาของประเทศ จึงไม่ควรที่นำยางมาปิดกั้นทำให้ภาพออกมาดูไม่สวยงามและถวายการอารักขายาก
และเมื่อสอบถามถึงความรู้สึกที่ต้องมาดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับกล่มพันธมิตรฯนั้นเขายอมรับว่าไม่อยากมา แต่ต้องทำตามคำสั่ง ตอนนี้ครอบครัวลำบากมากเพราะไม่มีใครดูแล ซึ่งพันธมิตรฯอ้างว่าไม่ต้องการให้ตำรวจดูแล ขอให้ทหารมาดูแลแทน ตนมองว่าอีกไม่นานทหารก็จะเป็นจำเลยของสังคมว่าเข้าข้างกลุ่มพันธมิตรฯ ทั้งนี้ไม่เห็นด้วยที่กลุ่มพันธมิตรฯปักหลักชุมนุมยืดเยื้อที่ทำเนียบรัฐบาลเพราะทำให้คนส่วนใหญ่ได้รับความเดือดร้อน และตนเองก็ได้รับความเดือดร้อนเช่นกัน
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้พันธมิตรฯได้ยินยอมเปิดเส้นทางบางส่วน จาก แยกจปร.จนถึงยูเอ็น เพื่อเปิดเส้นทางเสด็จ ซึ่ง สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามกุฎราชกุมาร ที่จะเสด็จพระราชดำเนินมายูเอ็นในวันพรุ่งนี้
ตร.ยันยังไม่รู้ตัวมือมืดบึ้มพธม.ที่สะพานอรทัย
พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วยพ.ต.อ.วิบูลย์ยุทธ สันทัดเวช ผกก.สน.นางเลิ้ง ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับเหตุระเบิดบริเวณสะพานอรทัยข้างทำเนียบรัฐบาล แยกเทวกรรม ถนนลูกหลวง แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต เมื่อเวลาประมาณ 01.45 น. ว่าตรงจุดที่เกิดเหตุมีทั้งทหารและการ์ดพันธมิตรฯอยู่ตรงนั้นด้วยแต่ทั้งหมดไม่เห็นว่าระเบิดมาจากทางด้านไหน
พ.ต.อ.วิบูลย์ยุทธ ยังกล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุตนได้เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุพบเป็นหลุมกว้างประมาณ 20 เซนติเมตร คาดเป็นระเบิดเพราะมีสะเก็ดตกอยู่แต่ไม่ทราบว่าเป็นระเบิดชนิดไหน เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่กลุ่มพันธมิตรฯสร้างสถานการณ์ขึ้นเอง พ.ต.อ.วิบูลย์ยุทธ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถตอบได้เพราะไม่มีหลักฐาน ส่วนกรณีที่การ์ดพันธมิตรฯพกอาวุธปืนนั้น พ.ต.อ.วิบูลย์ยุทธ กล่าวว่า ตำรวจไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบเพราะเจ้าหน้าที่ดูแลได้เฉพาะรอบนอก
เมื่อถามว่า เป็นเพราะกลุ่มพันธมิตรฯตั้งรัฐอิสระขึ้นหรือไม่จึงทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปในทำเนียบได้ พ.ต.อ.วิบูลย์ยุทธ กล่าวว่า ก็ไม่ถึงขนาดนั้น แต่ก็ต้องประสานกับกลุ่มพันธมิตรฯก่อน
ด้านพล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงกรณีที่พันธมิตรฯยังไม่ให้ความชัดเจนในการเปิดเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ว่า ถึงแม้พันธมิตรฯจะเปิดเส้นทางดังกล่าวให้ ก็ยากที่จะถวายอารักขาความปลอดภัย และไม่มีความสง่างาม จึงคาดว่าน่าจะใช้เส้นทางเดิมที่เลี่ยงออกไป ทั้งนี้ พันธมิตรฯ ยังไม่มีท่าที่ที่จะเปิดถนนให้ โดยอ้างว่ารักษาความปลอดภัยได้ยาก