ส.ส.พลังประชาชนระบุหากเสื้อแดงเชียงใหม่51ถูกจ้างร่วมงาน‘ความจริงวันนี้’จริงให้TPBSออกแฉได้เลย ถ้าไม่จริงให้ออกมาแก้ข่าวขอโทษด่วน เพราะถือเป็นการดูถูกปชช. ด้าน'ก่อแก้ว'แนะไม่ควรใช้กำลังปิดล้อมหวั่นบานปลาย-รุนแรง
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคพลังประชาชน อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าวสำนักข่าวประชาทรรศน์ถึงกรณีที่มี กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ไปรวมตัวกันที่หน้าสถานีไทยพีบีเอส จังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากไม่พอใจที่มีการเสนอข่าวว่ากลุ่มคนรักเชียงใหม่ 51 มีการจ้างวานคนมาร่วมชุมนุมงาน‘ความจริงวันนี้’ ว่า ตนทราบมาว่ากลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ก็ได้แจ้งว่าเดินทางมากกว่า 2,000 คน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการประกาศแล้วจะไม่มีการขนคนเข้ามา เพื่อพิสูจน์ว่ามีคนรักประชาธิปไตยจำนวนเท่าไหร่ ซึ่งทุกคนที่มาก็มาด้วยใจ และกลุ่มคนรักเชียงใหม่ 51 ก็ได้จัดกิจกรรมระดมทุนเพื่อเดินทางกันมาเองในครั้งนี้
“สถานีโทรทัศน์ออกอากาศว่ามีการจ้างวานก็ทำให้ประชาชนรู้สึกเจ็บปวด และตราบใดที่ทางสถานีหาข้อพิสูจน์ไม่ได้ ก็ต้องออกมาขอโทษประชาชน เพราะการให้ข่าวสารข้อมูลที่ผิดจะส่งผลให้การชุมนุมไม่น่าเชื่อถือ”ส.ส.พปช. กล่าว
นายจตุพรยังกล่าวอีกว่าตนได้พูดคุยกับทั้ง2 ฝ่ายทั้งฝ่ายประชาชนและฝ่ายสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ซึ่งหากมีการพิสูจน์ได้ว่ามีการจ้างวานมาร่วมชุมนุมจริงก็ให้ทางสถานีออกมาแฉได้เลย แต่ในทางกลับกันหากไม่สามารถพิสูจน์ได้ ก็ต้องออกมาแก้ข่าวให้กับประชาชนเพราะเป็นการสร้างความเสียหายให้กับประชาชนอย่างมาก
ด้านนายสุทิน คลังแสง ส.ส.พรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่าเรื่องชาวบ้านที่ออกมาชุมนุมที่สนามราชมังคลาฯที่ผ่านมานั้น เพราะว่ามีความสนใจและรักในประชาธิปไตยรวมทั้งอยากรู้ความเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะบุคคลที่ชื่นชอบโดยไม่จำเป็นต้องมีการขนคนและแจกเงิน
ทั้งนี้ เรื่องที่มีการออกมาบอกว่ามีการแจกเงินให้กับผู้ชุมนุมนั้นถือเป็นการดูถูกประชาชน และเป็นการเสนอข่าวเท็จ อย่างไรก็ตามหากมีการจัดขึ้นอีกเป็นครั้งที่ 3 อยากให้ทุกคนโดยเฉพาะ TPBS มาติดตามเฝ้ารายงานข่าวจะได้รู้ว่าคนที่มาชุมนุมนั้นมากกว่าเดิมโดยไม่ต้องเสียเงินแม้แต่สตางค์เดียว เพราะที่ประชาชนออกมานั้นต้องการแสดงพลังว่ารักในประชาธิปไตย
ขณะที่นายก่อแก้ว พิกุลทอง ผู้ร่วมดำเนินรายการ ความจริงวันนี้ กล่าวว่า กรณีนี้เป็นความรู้สึกของประชาชนที่ไม่พอใจในการเสนอข่าวที่ไม่ถูกต้องบิดเบือนข้อเท็จจริง เพราะประชาชนเกิดความรู้สึกไม่เป็นธรรม แต่โดยส่วนตัวไม่เห็นด้วย และเห็นว่า กลุ่มคนรักเชียงใหม่ ไม่ควรกระทำเช่นนั้น เนื่องจากจะทำให้เกิดความรุนแรงบานปลาย ซึ่งหากเห็นว่าไม่เป็นธรรมก็ควรเรียกร้องหรือเคลื่อนไหวด้วยวิธีอื่น
อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้กลุ่มคนรักเชียงใหม่ มีการเข้ายึดสถานีโทรทัศน์ TPBS เพราะจุดยืนของคนเสื้อแดงทุกคนรับสงบและยึดแนวทางสันติวิธี หรือเรียกร้องความเป็นธรรมโดยปราศจากอาวุธ ซึ่งต่อไปประชาชนจะสามารถรับรู้ได้เองว่า การเสนอข่าวของ TPBSขณะนี้เริ่มไม่เป็นกลางและเอนเอียงเข้าหาฝ่ายพันธมิตร ดังนั้นเชื่อว่ากลุ่มคนเสื้อแดงไม่ควรแสดงออกด้วยวิธีรุนแรง
ขณะที่ นายวิวัฒน์ชัย สมคำ หัวหน้าศูนย์ข่าวสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ภาคเหนือ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้รับทราบข่าวแล้วว่า จะมีกลุ่มรักเชียงใหม่ 51ฯ นำกำลังมาชุมนุมปิดล้อม เนื่องจากไม่พอใจในการนำเสนอข่าวเรื่องการรับเงิน เพื่อเข้าร่วมชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ในเบื้องต้นขอชี้แจงว่า การนำเสนอข่าวในวันดังกล่าวเป็นการนำเสนอข่าวของสถานีที่กรุงเทพฯ โดยเป็นการสัมภาษณ์นักการเมืองรายหนึ่ง ไม่ใช่เป็นการนำเสนอข่าวส่งตรงลงมาจากพื้นที่จังหวัดเชีงใหม่ แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ได้ประสานไปยังผู้บริหารสถานีที่กรุงเทพแล้ว โดยเบื้องต้นจะมีนายอนุวัฒน์ ชัยฤทธิ์ บรรณาธิการบริหารสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส กำลังเดินทางมาพบปะ และเจรจากับผู้ชุมนุม และในส่วนของผู้สื่อข่าวและผู้ปฏิบัติหน้าที่กว่า 20 คน แม้ว่าจะถูกขู่และปิดล้อมสถานีฯ แต่ก็ยังทำงานกันตามปกติ แต่ขณะนี้ม๊อบแจ้งว่าให้ออกจากศูนย์ข่าวให้หมด ไม่เช่นนั้นจะปิดไม่ให้ออก ซึ่งได้เร่งปรึกษาผู้บริหารปรับแผนในการรับมือม๊อบต่อไป
พล.ต.ต.สุเทพ เดชรักษา ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ กล่าวว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้ส่งกำลังตำรวจเข้ารักษาความสงบเรียบร้อยแล้วจำนวน 60 นาย แต่หลังจากที่กลุ่มผู้ชุมนุมได้พังรั้วเข้าไป จึงได้สั่งเพิ่มกำลังอีกจำนวน 60 นาย และได้สั่งการให้ชุดควบคุมฝูงชนอีกกว่า 10 นาย เตรียมความพร้อม หากเกิดเหตุรุนแรงขึ้นก็จะเข้าสลายความรุนแรงได้ภายในเวลา 30 นาที
ทั้งนี้ จากการคาดการณ์แล้ว ไม่น่าจะเกิดเหตุรุนแรงขึ้น และกลุ่มเสื้อแดงจะไม่มาเพิ่มเติมอย่างแน่นอน ส่วนเรื่องการเจรจานั้นเป็นหน้าที่ของปกครองจังหวัดจะเป็นผู้เจรจา
'คนเสื้อแดง' บุกทีพีบีเอส'
ก่อนหน้านั้นผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มมวลชนเสื้อแดงในจังหวัดเชียงใหม่กว่า 200 คนได้รวมตัวกันที่หน้าสถานีโทรทัศน์ทีวีไทย หรือ TPBS จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่เวลา 11.00 น. เพื่อขอให้ชี้แจงกรณีการนำเสนอข่าวโจมตีกลุ่มเสื้อแดงที่เดินทางไปร่วมงานความจริงวันนี้สัญญจร ว่ามีการจ่ายเงินค่าเดินทาง 3 พันบาท ซึ่งสถานีโทรทัศน์ทีพีบีเอสได้นำออกอากาศในช่วงข่าวค่ำวานนี้
ทั้งนี้ กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ได้แสดงความไม่พอใจการนำเสนอข่าวบิดเบือนข้อเท็จจริงของสถานีโทรทัศน์แห่งนี้ และต้องการหาตัวคนรายงานข่าว รวมทั้งต้องการให้สถานีออกแถลงการณ์ขอโทษ ไม่เช่นนั้นจะทำการปิดล้อมสถานีเพื่อไม่ให้มีการนำเสนอข่าว
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทางสถานีฯได้ขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดูแลรักษาความปลอดภัยแล้ว โดยทีมข่าว TPBS เชียงใหม่ ระบุว่า ไม่ได้นำเสนอข่าวนี้ แต่เป็นข่าวที่นำเสนอจากส่วนกลาง
โดยรายงานข่าวชิ้นนี้ มีเนื้อหาระบุว่าได้รับการเปิดเผยจากนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่ง โดยมีการกล่าวหาว่าชาวเชียงใหม่ได้รับเบี้ยเลี้ยงในการเดินทางไปร่วมงาน "ความจริงวันนี้สัญจร" ที่จัดขึ้นที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน กทม. ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับประชาชนชาวเชียงใหม่อย่างร้ายแรง
ขณะที่ล่าสุด ผู้บริหารของทีวีไทยได้เดินทางโดยเครื่องบินเพื่อไปชี้แจงกับกลุ่มผู้ชุมนุมแล้ว
นอกจากนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมได้ประกาศว่า หากภายในเวลา 15.00 น. วันนี้ (3 พ.ย.) ยังไม่ได้รับการชี้แจงที่ชัดเจน ก็จะร่วมกันปิดสถานีโทรทัศน์ทีวีไทย ไม่ให้มีการออกอากาศ
ก่อนหน้านี้ วิทยุชุมชนแห่งหนึ่งได้ออกอากาศชักชวนประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการนำเสนอข่าวไปร่วมชุมนุม โดยยืนยันจะปักหลักต่อเนื่องจนกว่าทางสถานีทีวีไทยจะแสดงความรับผิดชอบต่อการนำเสนอข่าวชิ้นนี้
'ชมรมคนรักอุดร'ยันไม่มีจ้างฟัง'ทักษิณ'
ขณะที่ สมาชิกชมรมคนรักอุดรได้โต้ออกอากาศทาง FM 97.50 MHz หลังจากที่มีผู้ไม่หวังดีปล่อยข่าวว่า การเดินทางไปร่วมงานความจริงวันนี้สัญจรเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้รับเงินคนละ 500-1,000 บาท เป็นค่าจ้าง ทั้งนี้เรื่องดังกล่าว นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร เปิดเผยว่า เรื่องที่ได้รับเงินจากคณะผู้จัดให้เป็นค่าจ้างคนละ 500-1,000 บาทตามที่เป็นข่าวนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะสมาชิกที่ร่วมเดินทางได้ช่วยออกเงินกันเองตามกำลังศรัทธา และมีผู้ใจบุญในจังหวัดอุดรธานีได้ร่วมกันออกค่าน้ำมันรถให้
นอกจากนี้ นายขวัญชัย ยังกล่าวถึงกรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ที่มีข่าวว่าจะเดินทางมาทอดกฐินสามัคคีที่ จ.อุดรธานี ว่า ตนพร้อมสมาชิกชมรมคนรักอุดร พร้อมให้การต้อนรับนายสนธิ