นายวีระ ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรีพร้อมครอบครัวเดินทางไปรักษาโรคมะเร็งที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และเมื่อเดินทางไปถึงสนามบินนครฮุสตัน มลรัฐเท็กซัส ได้มีกลุ่มพันธมิตรมาประท้วงแล้วชูป้ายด่าทอที่มีข้อความว่า 'เวรกรรม ไม่ต้องรอชาติหน้า'และพันธมิตร Houston (ไม่) ต้อนรับอ้ายคนขายชาติ ซึ่งถือเป็นการกระทำที่หมิ่นเกียรติอดีตนายกฯเป็นอย่างมาก และถือว่าเป็นการทำลายภาพลักษณ์ของประเทศด้วย ทั้งที่ นายสมัครก็มีอาการป่วยที่ย่ำแแย่อยู่แล้ว แต่กลุ่มพันธมิตรฯยังซ้ำเติมและแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวอย่างไร้จิตสำนึก
นายวีระ ยังกล่าวตำหนิประชาชนกลุ่มที่สนับสนุนพันธมิตรฯกลุ่มนี้ว่ารับข่าวสารเพียงด้านเดียว แต่ไม่เคยรับรู้เลยว่าบุคคลที่ตนสนับสนุนอยู่นั้นได้กระทำหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ กรณีที่นำโกเต๊กหรือผ้าอนามัยใช้แล้วเปื้อนประจำเดือนของสตรีไปวางรอบฐานพระบรม ราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่หยาบช้า และหลบหลู่สิ่งที่ปวงชนชาวไทยเคารพนับถือกันทั้งบ้านทั้งเมือง ตนจึงอยากเรียกร้องให้กลุ่มที่สนับสนุนพันธมิตรฯเปิดหูเปิดตารับความจริง และควรเลิกเห็นผิดเป็นชอบสักที
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวว่า กลุ่มพันธมิตรฯยังไม่เลิกก่อความวุ่นวายหลังจากไม่ยอมเปิดเส้นทางทางการจราจร ถนนราชดำเนินบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ที่ตามกำหนดจะใช้เป็นเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินในช่วงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ วันที่ 14-19 พ.ย.นี้ จนตำรวจต้องเปลี่ยนเส้นทางไปใช้ถนนหลานหลวงแทน ตนจึงอยากถามว่าทำไมงานที่ประชาชนทั่วประเทศให้ความสำคัญ และเป็นงานของสถาบันพระมหากษัตรย์ ตำรวจยังต้องยอมกลุ่มพันธ์มิตรฯทั้งที่มีอำนาจจัดการอยู่ในมือ การกระทำของกลุ่มพันธมิตรฯที่เหิมเกิมเช่นนี้ หากตำรวจไม่ดำเนินการให้เด็จขาดแล้ว"ใคร?"ที่สามารถยุติพฤติกรรมนี้ได้ตนหวังว่าจะได้เห็นคนที่บอกจงรักภักดีต่อสถาบันทั้งหลาย ออกมาทำอะไรมากกว่า"ยอม"แบบนี้