WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, November 5, 2008

ฟ้าสีทอง

คอลัมน์ : บทบรรณาธิการ

ฟ้าหลังฝน มักจะมีความสว่างสดใส มองเห็นสิ่งต่างๆ ได้ชัดเจน อากาศดี ไม่มีฝุ่นผงมาปกคลุมให้รำคาญลูกตา สภาพอากาศในประเทศไทยขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงที่เรียกว่า ปลายฝน ต้นหนาว คือ เริ่มจะหมดฤดูฝน และกำลังจะย่างก้าวเข้าสู่ฤดูหนาว ลมหนาวเริ่มโชยมาแตะผิวกายเข้าให้แล้ว หากจะเปรียบเทียบกับสถานการณ์ทางการเมืองไทย หลังจากที่อึมครึมมานาน 2-3 ปี กับสถานการณ์การเมืองไทย วันนี้บอกได้ว่าเป็นบรรยากาศของฟ้าหลังฝนอย่างแท้จริง
เพราะหลายคนเริ่มรู้และตระหนักกับคำว่า “ประชาธิปไตย” มีความสำคัญกับการดำรงชีวิตของคนไทย ตั้งแต่เกิดจนถึงตาย ไม่มีวันหยุดพัก แถม อยู่กับคนเราตลอด 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว เอาง่ายๆ นั่นคือ ตั้งแต่ นอนหลับ ไปจนถึงตื่นนอน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ายาสีฟัน แปรงสีฟัน ค่าน้ำมันพืช ค่าไข่ ค่าข้าว ค่าน้ำมันรถ ค่ารถเมล์ ฯลฯ จิปาถะทั้งหลายเหล่านี้ ล้วนแต่มาจากการเมืองในระบอบประชาธิปไตยทั้งสิ้น ที่สามารถสั่งการบันดาลให้ราคาถูกหรือราคาแพง และจะกระทบกับผู้คนไปทั่วทุกหย่อมหญ้า

นี่คือความสำคัญของ การเมืองในระบอบประชาธิปไตย ที่บางคนอาจจะหลงลืมในความสำคัญข้อนี้ไปเสีย เพียงเพราะการ ปลุกระดม ยุยงปลุกปั่น ของคนบางพวกบางฝ่าย ที่ยังหลงงมงายใน คุณไสย และไสยศาสตร์
หลังจากการวัดกำลังของ “คนเสื้อเหลือง” และ “คนเสื้อแดง” ยกแรก ได้ผ่านพ้นไป ท่ามกลางการจับตาของนักข่าว นักหนังสือพิมพ์ ทั้งในและนอกประเทศ หากไม่เอียงกระเท่เร่จนเกินไปนัก เราจะรู้ว่า “คนเสื้อแดง” หรือ “คนเสื้อเหลือง” ใครมีจำนวนมากกว่ากัน?

คนเสื้อเหลือง ใช้ทุกกระบวนท่า เรียกว่า แก้ผ้า...ล่อนจ้อน ออกมาให้เห็น

สร้างวาทกรรมทางการเมืองใหม่
สร้างละครทางการเมืองใหม่ให้มีความน่าเชื่อถือ
สร้างการต่อสู้เชิงสัญลักษณ์อันจอมปลอมหลอกลวงผู้คน
สร้างปฏิบัติการแห่งความรุนแรง

หวังจะเรียกร้องความสนใจจากผู้คนให้สงสาร และออกมาสวมใส่เสื้อสีเหลืองกันเป็นเรือนแสน เรือนล้าน เพื่อโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามครรลองในระบอบประชาธิปไตย โดยยึดอำนาจการปกครองไปให้กับพรรคการเมืองที่วันๆ ไม่คิดทำอะไรให้ประชาชนเป็นชิ้นเป็นอัน นอกจากรอ “ส้มหล่น”

ขณะที่คน “เสื้อแดง” ใช้เพียงแค่กระบวนท่าเดียว นั่นคือ เปิดความจริงอีกด้าน ที่สังคมไม่เคยรับรู้ มาให้รับรู้ แค่นี้ก็ดิ้นกันพล่าน

เพราะธรรมชาติของคนส่วนใหญ่ต้องการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร ความจริง ยิ่งปกปิดยิ่งต้องขุดคุ้ย ยิ่งบิดเบือนข่าวสาร ยิ่งมีข่าวลือที่สุดกลายมาเป็นข่าวจริง ยิ่งสร้างความไม่ชอบธรรมให้เกิดขึ้น กระแสกดดันเหล่านี้มีสูงมากในสังคมไทย และ พร้อมระเบิดออกมาอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว!!! นี่...คือเหตุผลที่ทำให้ ประชาชนจำนวนเรือนหมื่นเรือนแสนของจริง!!! จึงได้เดินทางมาชุมนุมร่วมกันจากทั่วทุกสารทิศ พลังเสื้อสีแดงที่เกิดขึ้นในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2551 แปลความได้ว่า เป็นพลังบริสุทธิ์ของผู้รักชาติรักประชาธิปไตย ใครหน้าไหนคิดจะมาปฏิวัติทั้งทางตรงและทางอ้อม ขโมยประชาธิปไตยไป เขาเหล่านี้จะไม่ยอมและออกมาต่อต้านทุกรูปแบบ

การเมืองไทยเข้าสู่ช่วง “ฟ้าหลังฝน” ความอึมครึมทั้งหลายทั้งแหล่จางหายไปหมดแล้ว แสงตะวันกำลังสาดส่องอยู่ที่ขอบฟ้าเบื้องหน้า บรรเจิดจ้าสีทองส่องแพรวพราวระยิบระยับไปสุดลูกหูลูกตา ดังบทกวีของ “วิสา คัญทัพ” ที่ว่า

ไม่มีอำนาจใดในโลกหล้า
ผู้ปกครองต่างมาแล้วสาบสูญ
ไม่มีใครล้ำเลิศน่าเทิดทูน
ประชาชนสมบูรณ์นิรันดร์ไป
เมื่อยืนหยัดต่อสู้ผู้กดขี่
ประชาชนย่อมมีชีวิตใหม่
เมื่อฟ้าสีทองผ่องอำไพ
ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน...ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน!!!