WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Saturday, December 20, 2008

ชำแหละ!!!

ที่มา ประชาทรรศน์

ดร.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ฉีกหน้าคณาจารย์ภายใต้ชื่อ “สันติประชาธรรม” ระหว่างการแถลงข่าว วงแตกกระเจิง!!! เมื่อเจอชำแหละ “กลุ่ม 2 ไม่เอา” ขี้ขลาดพึ่งกระแสสังคมเพราะกลัวพันธมิตรฯ จนไม่กล้าออกแถลงการณ์ชี้นำ จนทำให้เหิมเกริม ยึด 2 สนามบิน ยันความคิดประชาชนไปไกลกว่าแล้ว จี้ให้กล้าตอบ “ตุลาการภิวัตน์” ขัดหลัก “นิติรัฐ” หรือไม่ ขณะที่นักวิชาการไม่กล้าชี้แจง ได้แต่...ม้วนอาย... ลงจากเวทีไปไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

ปัญหาการเมืองหรือปรากฏการณ์พันธมิตรฯ นั้นที่มันวุ่นวายอยู่ทุกวันนี้ นักวิชาการควรรู้ว่ามันไม่ได้เกิดขึ้นได้ภายในวันสองวัน ที่เกิดขึ้นทุกวันนี้มันมีอะไรหลายๆ อย่าง ท่านลองนึกดูสิครับว่าไอ้ฐานะของนักวิชาการ แล้วจุดยืนแบบนี้ มันมีส่วนที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์แบบนี้ได้ ปรากฎการณ์ที่มีคนเป็น 10 ล้านคน เลือกรัฐบาลเข้ามาแล้วคุณมาทำแบบนี้ การที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เหิมเกริมได้จนถึงทุกวันนี้ เพราะว่านักวิชาการแบบนี้แหละที่ทำให้มันเหิมเกริมในสังคมได้ คุณพูดแทนใครก็ได้

ผมไม่ได้หาเรื่องนะ แต่ว่าควรจะมองรอบๆ ตัวเอง ให้ผมพูดก่อนในบรรดาอาจารย์ที่ลงชื่อในแถลงการณ์นี้ถึงแม้ผมจะมีความเคารพในระดับแตกต่างมากน้อยอย่างไรก็แล้วแต่ นั่นเป็นเรื่องธรรมดา แต่ว่าในความเคารพที่ผมเคารพมาก ผมเลยอยากจะด่าอย่างที่พูดข้างต้น

คือประเด็นใหญ่ทำไมต้องมาอาศัยศาสตราจารย์ หรือ ดอกเตอร์ มาลงชื่อแถลงข่าว ใครที่เขามีปัญหา หรือมีความคิดที่เปิดอ่านในเว็บไซต์รู้ว่าความคิดเขาไปไกลกว่าข้อเสนอนี้ตั้งนานแล้ว แหลมคมกว่านี้ ถูกต้องกว่านี้ ไปไกลกว่านี้ตั้งนานแล้ว แต่ทำไมไม่ลงข่าวพวกเขาล่ะ เพราะว่าเขาเป็นสีแดงมากเกินไป หรือว่าเป็นชาวบ้านเกินไป ไม่ใช่นักวิชาการไม่ใช่ดอกเตอร์ใช่หรือเปล่าล่ะ ผมว่าที่คุณอ้างว่าเป็นนักวิชาการ อ้างความเป็นประชาธิปไตยคุณต้องดูเรื่องนี้ให้ดี

นอกจากนี้ทำไมคุณเป็นนักวิชาการ เป็นดอกเตอร์ ถึงออกแค่แถลงการณ์แห้งๆ แบบนี้ ทำไมผมถึงบอกว่ามันแห้งเพราะมันกระจอกมาก คุณพรีเซนต์ตัวเองว่านี่เป็นแถลงการณ์ต่อเนื่องจากครั้งที่แล้ว แถลงการณ์ครั้งที่แล้วข้อเรียกร้องของคุณมีอยู่ 3 ข้อ คือ
1.ขอให้ทั้งสองฝ่ายหยุดสร้างเงื่อนไขที่ทำให้เกิดการปะทะกัน
2.หยุดให้ท้ายพันธมิตรฯ
3.หยุดการยั่วยุให้เกิดการรัฐประหาร
ผมท่องขึ้นใจเลยนะ แล้ววันนี้คุณมีแถลงการณ์มา 2 ข้อ ดูข้อ 1 ให้ดีนะ
1.สังคมไทยจะต้องไม่ยินยอมให้พันธมิตรฯ อยู่เหนือกฎหมายอีกต่อไป เจ้าหน้าที่รัฐจะต้องหามาตราการดำเนินการกับกลุ่มพันธมิตรฯ ให้ยุติม็อบ

ผมถามว่าทำไมไม่รวมข้อนี้ไว้ในแถลงการณ์ครั้งที่แล้ว และที่สำคัญคือแถลงการณ์ครั้งนี้มันก้าวกระโดดกว่าครั้งที่แล้ว แต่สิ่งที่ทำให้ผมสะดุดใจมากคือทำไมไม่เอาแถลงการณ์ครั้งนี้ออกมาเมื่อครั้งที่แล้ว ครั้งที่แล้วพันธมิตรฯ ไม่ได้วางตัวอยู่เหนือกฎหมายหรือ คราวที่แล้วพันธมิตรฯ ยึดทำเนียบอยู่เป็นเดือนๆ ไม่ได้ทำตัวอยู่เหนือกฎหมายหรือใช้อาวุธใช้อะไรต่างๆ มันเพราะอะไร เพราะมันเกิดเหตุการณ์สุวรรณภูมิหรือ ใช่ ตอนนี้กระแสสังคมมันด่ากันหมด ข้าพเจ้ามาแล้วครับ ขี่ม้าขาวมาแล้วครับ ตอนนี้กระแสสังคมให้แล้วครับ คือจะต้องการไปทำไม จะมีไปทำไม หากต้องให้กระแสสังคมมันมาก่อน ถึงเวลาที่คุณควรจะออกมา จะพูดฟันธงออกไปนี่ แสดงความคิดเห็นออกไป อู๊วๆๆๆ ต้องรอกระแสสังคมก่อน กลัวคนนั้นคนนี้จะว่าอย่างนั้นอย่างนี้ กลัวจะถูกหาว่าเข้าข้างฝ่ายนั้นฝ่ายนี้ กลัวจะเสียความเป็นกลางอย่างนี้ พอกระแสสังคมมา ทำเป็นขี่ม้าขาวออกมานัดนักข่าวมาแถลง “สังคมไทยจะต้องไม่ยินยอมให้พันธมิตรฯ ทำตัวเหนือกฎหมาย”

ถามว่าข้อเรียกร้องนี้เมื่อครั้งที่แล้วหายไปไหนครับ ข้อสำคัญมันอยู่ตรงไหน อยู่ตรงที่ข้อความข้างล่างอีก 2-3 บรรทัดนะ ดูประโยคนี้นะ “ที่ผ่านมาฝ่ายต่างๆ ได้ปล่อยปละละเลยให้กลุ่มพันธมิตรฯ เคลื่อนไหวในลักษณะละเมิดกฎเกณฑ์บ้านเมืองตลอดมา เสมือนว่ากลุ่มพันธมิตรฯ อยู่เหนืออภิสิทธิ์ชนที่อยู่เหนือกฎหมาย”

ฝ่ายต่างๆ นี้รวมถึงกลุ่มพวกคุณด้วยหรือเปล่าที่ไม่รวมข้อเรียกร้องแบบนี้เข้าไป นี่...ผมถามอย่างซีเรียสนะ คือ คุณเป็นนักวิชาการที่สังคมเขาสร้างขึ้นมาให้มาคิดแทน ให้คุณเสนอ ไม่ใช่ให้คุณกลัว ไม่ใช่ว่ากลัวเสนอไปแล้วเป็นการเลือกข้าง ถ้ากลัวคุณไม่ต้องมาเสนอครับ ไม่ต้องมาอ้างตัวว่าเป็นนักวิชาการ ไม่ต้องใช้อภิสิทธิ์ที่สังคมเขามอบให้คุณ ข้อเรียกร้องเหล่านี้ทำไมไม่เสนอตั้งแต่ครั้งที่แล้ว และการที่คุณไม่เสนอในครั้งที่แล้วนั้นไม่ถือว่าเป็นการให้ท้ายหรือ ใช่ไหมครับ

ทีนี้มันสำคัญอย่างไรในประเด็นนี้ โอเค... คุณเสนอว่าให้ทำตามหลักนิติรัฐ นี่เป็นคำกำกวมที่จงใจใช้อย่างมากๆ เลยครับ “นิติรัฐ” แปลว่าอะไรของคุณ ผมเสนอของผมได้ “นิติรัฐ” จริงๆ นั้นครั้งสุดท้ายที่มีในสังคมไทยมันมีคือ ก่อน 19 กันยายน 2549 ใช่ไหม?

พวกคุณกล้าไหมล่ะออกมาในสถานการณ์แบบนี้ให้ออกมาบอกว่าให้ใช้นิติรัฐในช่วงก่อน 19 กันยายน 2549 หรือว่าไม่กล้าเพราะว่ากระแสสังคมมันยังไม่มี หรือต้องรอให้สังคมมันแย่กว่านี้ รอให้พันธมิตรฯ มันเหิมเกริมมากกว่านี้ หรือรอให้รัฐประหารก่อนถึงจะออกมาว่าต้องเอานิติรัฐก่อน 19 กันยายน 2549 คุณใช้คำกำกวมอย่างนี้แล้วที่มันกินใจผมมากเลยรู้ไหม

คำว่าเลือกตั้งมันหายไปไหนไม่เคยมีในแถลงการณ์ ไม่เคยมีในฉบับนี้ และฉบับที่แล้วด้วย ในปี 2549 ตอนที่รัฐบาลเสนอให้ใช้การเลือกตั้งมาตัดสิน โดยการยุบสภาให้เลือกตั้งตัดสิน ตอนนั้นทุกคนด่า คนที่ให้ท้ายพันธมิตรฯ ส่วนใหญ่คือพวกคุณนี้แหละ ไม่เชื่อไปดูในแถลงการณ์ได้เลย ตอนที่ทักษิณ (พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี) ยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ บอกว่าทักษิณ ฟอกตัวเองด้วยการเลือกตั้ง นี่แหละ...คือการให้ท้ายพันธมิตรฯ ให้ท้ายมา 2 ปี พอถึงเวลา 2 ปี จนบัดนี้คุณไม่กล้าที่จะยืนยันว่าการเลือกตั้งควรจะเป็นตัวตัดสินอำนาจรัฐบาล ซึ่งเป็นช่วงที่พันธมิตรฯ มันออกมาเรียกร้องมาโดยตลอด

สุดท้าย โอเค จะใช้อะไรก็ได้ ใช้คำกำกวมอะไรก็ได้ กล้าจริงหรือเปล่าล่ะ เรื่องใช้นิติรัฐ นี่แหละ แล้วไอ้ “ตุลาการภิวัตน์” เนี่ยมันถูก “หลักนิติรัฐ” หรือเปล่า แล้วถ้ามันไม่ถูก พวกคุณกล้าที่จะออกมาเรียกร้องให้พวกที่มันทำให้เกิด “ตุลาการณ์ภิวัตน์” ออกมารับผิดชอบไหม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อต้นเดือนตุลาคม มันถูกหลัก “นิติรัฐ” ไหม พวกคุณกล้าที่จะบอกให้บุคคลที่รับผิดชอบในเหตุการณ์นั้นมารับผิดชอบต่อหลักนิติรัฐหรือเปล่า ถ้าไม่ ผมขอทีเถอะ เลิกทำตัวเป็นพวก “พีอาร์” เสียเถอะ และทำตัวให้เป็น “ปัญญาชน” จริงๆ ขอบคุณครับ