ที่มา ประชาทรรศน์
รัฐบาลพรรคปชป.ฮึ่ม!ล้างบางขั้วอำนาจเก่า เก้าอี้'ผบช.น.'สั่นครอนส่อเค้าเด้ง'สุชาติ'กรณีมีเอี่ยวเหตุการณ์ 7 ตุลาฯ พร้อมเล็งเชือดนายตำรวจปล่อย'คนเสื้อแดง'บุกป่วนรัฐสภาวันโหวตเลือกนายกฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศภายในกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ภายหลังกระแสข่าวจัดตั้งคณะรัฐบาล ภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 27 และมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ นั่งเก้าอี้รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ว่า เป็นไปด้วยความเงียบเหงา มีเพียง พล.ต.ต.เอกรัตน์ มีปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ( รอง ผบช.น.) ที่เติบโตมาจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ทำหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่แทน พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ( ผบช.น.) ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่น นรต.26 ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ลากิจ 2 วัน เพื่อไปเป็นพยานศาลคดีฆ่าอดีตผู้พิพากษาที่ จ.ภูเก็ต
ขณะที่ พล.ต.ต.เอกรัตน์ ยังทำหน้าที่เป็นประธานประชุมประเมินสถานการณ์และวางกำลังตำรวจรับมือกลุ่มเสื้อแดงแบบวันต่อวัน ส่วนนายตำรวจระดับ รอง ผบช.น. ที่รับผิดชอบภาระหน้าที่ด้านอื่นๆ ต่างก็มีกิจต้องออกไปปฏิบัติหน้าที่ไม่อยู่ ณ ที่ตั้งแต่อย่างใด ท่ามกลางเสียงวิพากวิจารณ์ของบรรดาสื่อมวลชนประจำ บช.น.ว่า รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคประชาธิปัติย์นั้นจะนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ภายใน บช.น.อย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกด้วยว่าประเด็นที่น่าจับตามองที่สุดคือตำแหน่ง ผบช.น.ที่กำลังสั่นครอน เป็นผลพวงจากเหตุการณ์ความรุนแรงยิงแก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมวันที่ 7 ต.ค.2551 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต ซึ่งรัฐบาลพรรคประชาธิปัติย์เตรียมหลักฐานข้อมูลเอาผิดนายตำรวจที่ควบคุมสั่งการการปฏิบัติตามลำดับชั้น เรียกได้ว่า ล้างบางขั้วอำนาจเก่าก็เป็นได้ ประกอบกับเหตุการณ์ความรุนแรงบริเวณหน้ารัฐสภาวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่หลายฝ่ายมองว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลความสงบเรียบร้อยต่างเพิกเฉยกับการกระทำดังกล่าวทั้งที่มีกำลังตำรวจมากกว่าผู้ชุมนุมแต่กลับไม่เข้าห้ามและควบคุมผู้ชุมนุมให้อยู่ในพื้นที่ที่จำกัดได้ ซึ่งจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเอาผิดทางวินัยและอาญากับผู้บัญชาการเหตุการณ์ที่ควบคุมสั่งการปฏิบัติในพื้นที่รับผิดชอบจากเหตุการณ์ทั้งสองวันดังกล่าวแน่นอน