ที่มา ประชาทรรศน์
00 หนังสือพิมพ์ประชาทรรศน์ สื่อทางเลือกของประชาชน เพื่อประชาธิปไตย ฉบับวันศุกร์วันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ.2551 เอกฉัตร เข้าเวรรายงานข่าว ในห้วงเวลาที่หลายคนเริ่มมั่นใจการเมืองไทยมีทางออก แม้จะเป็นทางตีบตัน แต่ถ้าคนไทยช่วยกัน ก็พอจะดันให้ผ่านพ้นวิกฤติไปได้ แต่อย่าไปตั้งความหวังให้สวยหรู เกินความเป็นจริง เห็นข้อเสนอขององค์กรต่างๆ จะเอาโน่นเอานี่ ให้แก้ปัญหาสารพัด คล้ายกับว่าประเทศไทยเพิ่งได้รับเอกราช ไม่เคยมีรัฐบาลมาก่อน น่าเป็นห่วง หากรัฐบาลทำไม่ได้ตามที่หวัง คะแนนนิยมจะตีกลับ
00 หลังจากที่รับ พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 27 สมใจอยาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ยังคงเอกลักษณ์เอกบุรุษไม่เปลี่ยนแปลง พูดจาเหน็บแนมทิ่มซ้ายทิ่มขวา อุตส่าห์ทำใจตั้งนานเพื่อเอาใจช่วย แต่พอฟังถ้อยแถลงหมดใจที่จะเอาใจช่วย ดีใส่ตัวชั่วให้คนอื่น เลิกไม่ได้จริงๆ กับพฤติกรรมที่สั่งสมกันมาเป็นทอดๆ ของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เปลี่ยนสีผมพระแม่ธรณีบีบมวยผมเป็นสีแดงแจ๋ ก็ช่วยไม่ได้
00 ใครก็รู้วันนี้ ฯพณฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ไฉนต้องพูดว่า จะทำงานเพื่อประชาชนทั้งประเทศ ไม่ว่าจะรักหรือจะเกลียด จะเลือกหรือจะไม่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ คำพูดที่ว่า แค่อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ ใครฟังก็รู้ว่า เหน็บแนมถากถาง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รอวันนี้มานานโอกาสเปิดให้แล้ว สามารถกระหน่ำให้จมดินได้ เต็มที่อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องพูดถากถาง ซ้ำเติมคนเสื้อแดงที่ยังรักปักใจอดีตนายกฯ ทักษิณ ซึ่งดูสภาพที่มารวมพลกันที่ท้องสนามหลวง แต่ละคนสภาพหงุดหงิดคุกรุ่นพร้อมที่จะทำอะไรก็ได้ เพราะคิดว่าเก้าอี้นายกรัฐมนตรีถูกพรรคประชาธิปัตย์ วิ่งราวไปต่อหน้าต่อตา และที่น่าเป็นห่วงยกกำลังสอง คือ ม็อบเสื้อแดงวันนี้ ไม่มีเจ้าของ
00 ต่างจากม็อบเสื้อเหลืองมีแกนนำชัดเจน แค่ ศาสดาโกตั๊บ ณ โกเต๊กซ์ คนเดียว สามารถสะกดวิญญาณสั่งซ้ายหันขวาหันได้ สั่งได้แม้แต่การทำลายชาติ โดยการบุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิ ก็แสดงให้เห็นกันมาแล้วมิใช่หรือ เอกฉัตร ไม่บังอาจสอนหรือสั่งให้ ฯพณฯ หุบปาก แต่จำใจเขียนถึง เพราะเป็นห่วงประเทศชาติ ไม่อยากจะเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีใหม่บ่อยๆ ให้เครดิตประเทศป่นปี้
00ตัวอย่างมีให้ดู น่าจะชำเลืองดูบ้าง ตั้งแต่เปิดตัวเดินเกมชิงจัดตั้งรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ผู้จัดการรัฐบาลคนใหม่ เปลี่ยนบุคลิกและการพูดจา แทบจะไม่เหลือความเป็น เทพเทือกคนเดิม แต่ไม่รู้จะเก็บอาการได้นานแค่ไหน
00 เป็นผู้จัดการรัฐบาลในยุคที่คะแนนเสียงผลุบๆ โผล่ๆ เห็นชัดว่า เทพเทือก เหนื่อยสุดๆ วิ่งประสาน เช็กจำนวน ส.ส. ที่เป็นคำตอบสุดท้าย ก่อนสภาเปิด เมื่อได้จัดตั้งรัฐบาลสมใจอยาก ในการจัดสรรโควตารัฐมนตรี ว่ากันว่า เหนื่อยกว่าวิ่งประสานขอเสียง ส.ส. สนับสนุนตั้งรัฐบาลเสียอีก ยังดีหน่อย ไม่ต้องต่อรองจำนวนเก้าอี้รัฐมนตรีกับพรรคร่วมรัฐบาล เทพเทือก รับบท พี่มีแต่ให้ พรรคร่วมรัฐบาลเดิม เคยนั่งเก้าอี้ตัวไหน จะให้เก้าอี้ตัวเดิม แม้แต่ พรรคเพื่อแผ่นดิน ยังได้โควตาเดิม แม้เสียงแตกในวันโหวตลงมติ เพราะ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน หลงเคลิบเคลิ้มกับข้อเสนอของนักปั้นนายกรัฐมนตรี นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช จะดันให้เป็นนายกรัฐมนตรี เหมือนที่เคยดันให้เป็นอธิบดีกรมตำรวจสำเร็จมาแล้ว
00 อดอยากปากแห้งมานาน 8 ปี เอ้ย เป็นฝ่ายค้านมานาน เมื่อจับพลัดจับผลูได้เป็นรัฐบาล ทำให้ผู้จัดการรัฐบาลหนักใจ ไม่รู้จะจัดสรรอย่างไรให้รัฐมนตรีในส่วนของพรรคพระแม่ธรณีบีบมวยผมลงตัว โดยเฉพาะ ส.ส. ในพื้นที่ภาคใต้ แต่ละคนอาวุโสไล่เรี่ยกัน และบทบาทแต่ละคนไม่ด้อยกว่ากันจนเห็นได้ชัด จะจัดสรรให้เหมือนเมื่อครั้งจัดตั้งรัฐบาลเงา น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
00 อย่าง นายนิพนธ์ บุญญามณี รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เป็น ส.ส.สงขลา รุ่นเดียวกับที่นายกรัฐมนตรีเป็น ส.ส.กรุงเทพฯ ไม่เคยสัมผัสเก้าอี้รัฐมนตรีตัวจริงมาก่อน ได้แค่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม (เงา) และยังให้เป็นแม่ทัพใหญ่สู้ศึกเลือกตั้งในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในฐานะ เป็นผู้อำนวยการศูนย์บริหารราชการชายแดนภาคใต้ ของพรรคประชาธิปัตย์ หลังจากรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยุบศูนย์อำนวยการบริหารราชการแผ่นดินในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. ทำให้รู้ปัญหาลึกๆ ในการจัดโผรัฐมนตรีของนักข่าว ดันมีชื่อ นายวิฑูรย์ นามบุตร คนสนิทของ เทพเทือก ที่เคยทำให้กรรมการบริหารพรรค ใจตุ้มๆ ต่อมๆ มานานครึ่งปี ถูกร้องเรียนทุจริตเลือกตั้งแจกตั๋วดูหนัง แต่หลุดบ่วงกรรมมาได้ มีชื่อเป็นรัฐมนตรีช่วยคมนาคม ถ้าเป็นไปตามโผ เอกฉัตร สงสัยพรรคประชาธิปัตย์จะเลียนแบบพรรคพลังประชาชน คนที่ทำให้พรรคถูกยุบ ได้รับความไว้วางใจให้เป็นเจ้ากี้เจ้าการจัดโผคณะรัฐมนตรี ในรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์
00 เป็นเรื่องปกติ เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนขั้วรัฐบาล นั่นคือการเช็กบิลข้าราชการ โดยเฉพาะตำรวจไทย จะตกเป็นเหยื่อข่าวลือเป็นอันดับแรก กระหึ่มกันมาตั้งแต่ อดีตนายกฯ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ตกสวรรค์ ข่าว บิ๊กป๊อด พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการตำรวจ เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนแรกที่ถูกเด้งพ้นเก้าอี้ใหญ่ไปแล้ว สามารถกลับคืนมาได้ เพราะใครต่อใครมองว่า เป็นการเด้งโดยไม่มีความผิด แค่ อดีตนายกฯ สมชาย ต้องการแสดงให้เห็นว่าไม่ได้ปล่อยปละละเลยการยึดสนามบิน ของม็อบพันธมิตรพันธมาร หลายคนมองว่าไม่เป็นธรรม ก็ตัวอดีตนายกฯ สมชาย ยังไม่กล้ากลับมานั่งทำงานในกรุงเทพฯ และจะมาหงุดหงิดย้ายผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้อย่างไร เพราะฉะนั้น จึงมีเสียงเรียกร้องให้ รัฐบาลชุดใหม่จะต้องให้ความเป็นธรรม กับบิ๊กป๊อด น้องชายสุดที่รักของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการทหารบก ตัวเต็งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
เอกฉัตร