ที่มา Thai E-News
พระมหากรุณาธิคุณ-สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถเสด็จพระราชทานเพลิงศพน้องโบว์เมื่อ13ตุลาคมที่ผ่านมา
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
19 ธันวาคม 2551
ด้วยเดชะพระบารมีเป็นที่ตั้ง บ้านเมืองยุติการจลาจลในที่สุดฝ่ายธรรมะชนะอธรรม ตั้งข้อหาอดีตนายกฯสมชายฆ่าน้องโบว์-สารวัตรจ๊าบ ปูนบำเหน็จนักสู้กู้ชาติเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศกอบกู้ภาพลักษณ์ที่เสียหายไปในยุคระบอบทักษิณ คืนความเป็นธรรมพชรวาทกลับตำแหน่งผบ.ตร. ส่วนพี่ชายที่ร่วมแรงใจอนุพงษ์ดึงเนวินเสียสละสลับขั้วเพื่อชาติบ้านเมืองได้เป็นรัฐมนตรีกลาโหม ป๊อกทุ่มเทเสียสละต่อเนื่องทำให้คนเหนือ-อีสานกลับตัวกลับใจเลิกหลงผิด
สมชาย-ตำรวจเจอข้อหาฆ่าโบว์-สารวัตรจ๊าบ
ประชาไทรายงานว่า ผลสอบกรณี 7 ตุลาฯถึงมือ ‘ป.ป.ช.’ แล้ว คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติชี้ว่าตำรวจที่สลายการชุมนุม และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น เจอข้อหาหนัก ‘ฆ่า-พยายามฆ่า’
รายงานบางตอนระบุว่า การกระทำของ นายสมชาย และ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ์ รวมทั้งรัฐมนตรีที่อยู่ด้วยในการประชุมคณะรัฐมนตรี แต่มิได้คัดค้านการใช้กำลังและระเบิดแก๊สน้ำตาเข้าสลายการชุมนุม เข้าข่ายเป็นการปฏิบัติและหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด เมื่อปรากฎว่ามีประชาชนได้รับบาดเจ็บ บาดเจ็บสาหัสเป็นจำนวนมาก และมีผู้เสียชีวิตด้วยจากกการกระทำที่เกินความจำเป็นของเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว ซึ่งถือเป็นการละเมิดกฎหมายการกระทำของนายสมชาย นายกรัฐมนตรี พล.อ.ชวลิต รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่อยู่ด้วยในการประชุมคณะรัฐมนตรี แต่มิได้คัดค้านการสลายการชุมนุม เข้าข่ายเป็นความผิดฐานเป็นผู้ใช้ให้บุคคลอื่นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส, ฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157, 295, 297, 288, 84
สำหรับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติแสดงท่าทีเอียงข้างพันธมิตรอย่างชัดแจ้งมาตลอด ในช่วงพันธมิตรยึดสนามบินได้ออกแถลงการณ์ฉบับหนึ่งประณามรัฐบาล และห้ามไม่ให้รัฐบาลต่อรองด้วยการให้พันธมิตรเลิกประท้วงหรือออกจากสนามบิน จนกระทั่งโดนคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งเอเชียทนไม่ไหวออกมาโจมตี และเรียกร้องให้สหประชาชาติเข้ามาแทรกแซงกิจการในไทย เพราะประชาธิปไตยไทยตกอยู่ในอันตราย หวังพึ่งองค์กรหน่วยงานใดไม่ได้แล้ว เพราะชนชั้นนำได้ร่วมมือกันทำลายประชาธิปไตย
พธม.ยึดทำเนียบยึดสนามบินได้ดีเป็นเสนาบดีต่างประเทศ
สำหรับว่าที่รัฐมนตรีต่างประเทศนั้นคือนายกษิต ภิรมย์ ซึ่งเป็นอดีตนักการทูตที่ขึ้นเวทีพันธมิตรโดยตลอด รวมทั้งการมีนโยบายขวาจัดเปิดศึกกับเพื่อนบ้านกรณีปราสาทวิหารที่พันธมิตรกระหายจะเปิดสงครามกับเพื่อนบ้าน รวมทั้งนายกษิตเคยไปขึ้นเวทีอาคารผู้โดยสารสุวรรณภูมิที่พันธมิตรไปยึดไว้
เขากล่าวตอนหนึ่งในการยึดสนามบินสุวรรณภูมิเมื่อ30พฤศจิกายน2551 เรียกร้องให้ทหารออกมายึดอำนาจ โดยบอกว่าทหารจะเอาอย่างไร ทำไมไม่มายืนข้างพวกเรา จากนั้นก็กล่าวให้ร้ายอดีตนายกฯทักษิณว่าจะ"ตั้งราชวงศ์"ใหม่ (ฟังคลิปเสียงที่นี่)
แก๊ง3ป.ทหารเสือราชินีได้ดีคุมกลาโหมหลังเป็นคนคุมสลายขั้ว
มติชนรายงานในตอนที่ประชาธิปัตย์พลิกขั้วสำเร็จเมื่อ6ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า การพลิกขั้วการเมืองที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ พูดกันว่า จะเป็นจริงไม่ได้หากไม่มี แก๊ง 3 ป. ที่ประกอบด้วย "พี่รักน้องเลิฟ" ซึ่งโตมาด้วยกันจากหน่วย "ทหารเสือราชินี" นั่นคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสนาธิการทหารบก และ "บิ๊กป๊อก"อนุพงษ์ มือประสานสิบทิศ
เป็นความบังเอิญที่ทั้ง 3 คน มีบ้านพักอยู่ในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ จึงนัด "ดื่มกาแฟ" มื้อเช้า หรือนัดทานอาหารมื้อเย็น กันที่มูลนิธิปลูกป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ที่ตั้งอยู่ในกรมนั้นเอง โดยมูลนิธิแห่งนี้มี พล.อ.ประวิตร เป็นประธาน
สถานที่แห่งนี้ก็ถูกใช้เป็นสถานที่ "ถกการเมือง" มาตลอดห้วงที่ผ่านมา แม้กระทั่งล่าสุดที่ "บิ๊กการเมือง" เลี้ยวรถเข้าเขตหวงห้ามมาร่วมวงด้วย
คงปฏิเสธได้ยากสำหรับการชูพรรคประชาธิปัตย์ขึ้นเป็นรัฐบาลว่าไม่ใช่เป็นการเคลื่อนเพื่อ "ปิดเกม คมช." ที่ต้องตัดตอนทำให้ "เครือข่ายไทยรักไทย" ต้องสูญพันธุ์ทางการเมือง ตอนนี้อาจจะเห็นแค่รางๆ แต่ถ้าจะให้มั่นใจว่าใช่คงต้องดูหน้า "รมว.กลาโหม" ของรัฐบาลสีเขียวภายใต้การนำของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ต้องผ่านความเห็นชอบจาก "พล.อ.อนุพงษ์"
สะพัดกันทั้งกระทรวงว่า อาจจะได้เห็นชื่อ พล.อ.ประวิตร หรือ พล.อ.วินัย ภัททิยกุล อดีตเลขาธิการ คมช. มานั่งเก้าอี้ รมว.กลาโหม ก็เป็นได้
มีรายงานข่าวว่า มีข้อตกลงที่จะแต่งตั้งพล.ต.อ.พชรวาท พงษ์สุวรรณ น้องชายของพล.อ.ประวิตรกลับเข้าดำรงตำแหน่งผบ.ตร.ด้วย หลังจากถูกรัฐบาลนายสมชายปลดออกจากตำแหน่งโทษฐานสั่งการให้ดำเนินคดีพันธมิตรยึดสนามบินสุวรรณภูมิแล้วเพิกเฉย
ฝรั่งหยันปล่อยโจรยึดเมืองยึดสนามบินเพราะปฏิวัติเงียบ
หนังสือพิมพ์เดลีเทเลกราฟรายงานข่าวว่า พลเอก อนุพงษ์ ผู้ซึ่งต้องรับผิดชอบต่อการรักษาความปลอดภัยของสนามบิน ได้เพิกเฉย (ไม่ได้ทำไรเลย) ในการที่จะหยุดยั้งกลุ่มผู้ประท้วงที่ต่อต้านทักษิณ ซึ่งได้ทำการบุกรุกสนามบินของกรุงเทพฯ จะเป็นเหตุให้ผู้เดินทางกว่า 350,000 คนต้องติดค้าง โดยการประท้วงได้จบลงเมื่อศาลได้สั่งยุบพรรคร่วมรัฐบาล และ ผู้นำฝ่ายค้านในขณะนั้นได้ทำการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ภายใต้โดยการอนุมัติของ พลเอก อนุพงษ์
กลุ่มผู้สนับสุนนทักษิณ ภายใต้ชื่อเรียก แนวร่วมประชาธิปไตยต้านเผด็จการ (นปก.) หรือที่รู้จักกันในนามของ “ชาวเสื้อแดง” เชื่อว่ากองทัพได้ก่อการ “ปฎิวัติเงียบ” เพื่อต่อต้านรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
กองทัพไทย เคยสู้รบในสงครามระหว่างประเทศสองสามครั้งในระยะที่ผ่านมา แต่กลับครอบงำการเมืองของประเทศ โดยการก่อการปฎิวัติยึดอำนาจ 18 ครั้งตั้งแต่ปี พศ. 2475