คอลัมน์ : บทบรรณาธิการ
คลิปหลุด ฉาว! แต่ไม่โฉ่ ถูกเปิดเผยออกมาให้สาธารณชนคนไทยทั่วประเทศได้รับรู้ รับทราบกันจาก “มือตบ” สู่ “มือโอบ” เมื่อได้ดูคลิปจนจบซ้ำแล้วซ้ำอีก ใครจะคิดอะไรยังไงก็เป็นนานาจิตตังที่เกิดขึ้นในสังคมไทยเวลานี้ ที่เรียกกันว่าเป็น ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์
เว็บไซต์ชั้นนำหลายเว็บไซต์ พร้อมใจกันนำคลิปไปแปะพร้อมสาธยายอะไรกันต่างๆ นานา จนเหลือเชื่อ เรียกยอดคนดูอื้อซ่า(ส์)...
บ้างก็ว่า คลิปนี้ไม่ใช่ตัวหัวหน้าม็อบในทำเนียบรัฐบาล เพราะมันผอมเกิดเหตุ
บ้างก็ว่า คลิปนี้ไม่เท่าเทียบบทเข้าพระเข้านางในอีกหลายๆ คลิป ที่เกิดขึ้นมาในเมืองไทย
บ้างก็ว่า คลิปนี้ยังไม่ถึงพริกถึงขิง เทียบเท่ากับที่เขาเอามาฉายก่อนหน้าของศัตรูคู่อาฆาต
หลายคนออกมาปกป้องแกนนำ มองว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่ศาสดาใหม่ของพวกเขาสามารถจะทำอะไรก็ได้ เพราะไม่ใช่บุคคลสาธารณะ มีตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรี จึงควรจะใช้คนละมาตรฐานในการตรวจสอบกัน
หลายคนตั้งคำถามเมื่อดูคลิป...โอบกอดกันจนเกินงามไปไหม?
หลายคนตั้งคำถามเมื่อดูคลิป...ทำไมต้องไปโอบกอดกันหน้าโรงแรม?
หลายคนตั้งคำถามเมื่อดูคลิป...แน่ใจนะว่าไม่มีอะไรเกินเลยกว่านั้น?
หลายคนตั้งคำถามเมื่อดูคลิป...โอบกอดรัดแน่นชนิดที่ว่าผ้าแนบผ้าขนาดนั้น หากเป็นเด็กอายุ 8-9 ขวบ คงจะไม่มีใครว่าอะไร ใครจะคิด ใครจะแก้ตัวอะไร อย่างไร ในคลิปเจ้าปัญหานี้ เป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคน
“บุรุษเพศ” ถูกเนื้อต้องตัว “กุลสตรีไทย” ที่เป็นอดีตเจ้านาย ญาติห่างๆ หรือลูกน้องเก่า ในลักษณะพัลวันพันตูในที่สาธารณะแบบนี้ ไม่ว่าครูบาอาจารย์จากสำนักไหนจะต้องบอกว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดีงามอย่างแน่นอน!!!
คุณพ่อใครมีลูกสาว แล้วเห็นลูกสาวถูกโอบกอดในลักษณะแบบนี้ รับรอง มีเรื่องราวใหญ่โตบริเวณนั้นแน่ๆ!!!
ยิ่งเป็นถึงลูกสาวอดีตรัฐมนตรี ที่อ้างว่าเคารพรักกันจริง ต้องยิ่งระมัดระวัง จะเที่ยวทำเป็น “มือโอบ” หรือ “มือกอด” แนบชิดซะขนาดนั้น ทำเหมือนทั่วๆ ไปได้อย่างไร!!!
“ภาษากาย” ที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์เคยพร่ำสอนให้กับบุตรหลานเข้าใจในระยะห่างที่ว่ากันนั้น มันมีกฎเกณฑ์อยู่ อะไรพอดี อะไรเกินงาม ใครควรจะยืนห่าง ใครควรจะยืนติดชิดกันแค่ไหน อะไร อย่างไร
ยืนห่างเกินไป ไม่เหมาะ
ยืนใกล้เกินไป ไม่เหมาะ
ถึงขั้น “โอบกอด” นี่ยิ่งไม่เหมาะใหญ่
ระยะห่างที่ว่า ภาษากาย นี้ถือเป็น กฎเกณฑ์ กติกา มารยาท ของสังคมโลก ไม่เฉพาะสังคมไทย ไม่ใช่ใครจะมาตั้งกติกากันเองได้ ฉันเจอใคร อ้างว่าคนสนิทเหมือนลูกหลาน เที่ยวไปโอบกอด ทำแบบนี้ถูกแล้ว ห้ามมาว่าฉัน ห้ามมาตรวจสอบฉัน ทั้งที่ตั้งตนเป็นศาสดา ชี้นิ้วด่าว่าผู้แทนปวงชนชาวไทย ไม่สนเสียงส่วนใหญ่ของคนในสังคม ทำชาติบ้านเมืองเสียหาย ย่ำยี “บุคคลสาธารณะ”
ในเมื่อไปถามหาคุณธรรม จริยธรรม จากคนอื่นเขา ต้องดูตัวเองด้วยว่ามีสิ่งดีงามมากน้อยแค่ไหน เที่ยวเอาเรื่องในมุ้งคนอื่นมาพูดจาเป็นเรื่องตลกโปกฮา “จริงบ้าง-ไม่จริงบ้าง” ผสมๆ กันไปแบบสนุกปาก ไม่แปลกใจเมื่อถูกย้อนศรเจอกับตัวเองบ้าง เลยต้องสำรอกความถ่อยของตัวเองออกมา… “มือถือสาก ปากถือศีล” เป็นแบบนี้นี่เอง