ผลาญงบดูงานเมืองจีนพ่นพิษ กมธ.ยุติธรรมฮึ่มเชือดหากพบละเลงเงินหลวงอย่างไร้ประโยชน์ ขอเวลาเช็กบิลหลังส่งรายงานประธานสภา เด็ก ปชป.แจงปากสั่น อ้างใช้งบน้อยกว่า
คณะอื่นทั้งที่ทริปเที่ยวตำน้ำพริกละลายแม่น้ำไม่ถูกบรรจุลงในโปรแกรมดูงานแม้แต่วันเดียว เตรียมนัดแก้เกี้ยวสัปดาห์นี้ กรณีที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าในขณะที่ประเทศกำลังเผชิญกับภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ แต่คณะกรรมาธิการการตำรวจ ที่มีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคประชาธิปัตย์เป็นประธาน กลับมีแผนไปดูงานที่สาธารณรัฐประชาชนจีน กลางเดือน ธ.ค. ที่ปักกิ่ง-กำแพงเมืองจีน-หังโจว-เซี่ยงไฮ้ รวม 7 วัน 6 คืน โดยสายการบินไทย ที่นั่งชั้นหนึ่ง พักโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว แต่กลับไม่ได้บรรจุโปรแกรมการดูงานแม้แต่วันเดียว นอกจากคณะกรรมาธิการแต่ละคณะจะเดินทางฟรีด้วยงบประมาณของกรรมาธิการแต่ละคณะแล้ว ส.ส.และส.ว.แต่ละคนยังสามารถเบิกเบี้ยเลี้ยงเดินทาง ค่าพาหนะ รวมทั้งค่าเช่ายานพาหนะ ค่าเชื้อเพลิงหรือพลังงานสำหรับยานพาหนะ ค่าระวางบรรทุก ค่าจ้างคนหาบหาม ค่ารับรอง ค่าของขวัญ ค่าเครื่องแต่งตัวและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จำเป็นเนื่องในการเดินทางอีกด้วย โดยจะได้รับเบี้ยเลี้ยงเดินทางเหมาจ่าย 3,100 บาทต่อวัน และกรณีมิได้เบิกเบี้ยเลี้ยงเดินทางเหมาจ่ายให้เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 4,500 บาทต่อวันอีกด้วย
ด้านนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ชี้แจงในกรณีดังกล่าวว่า ตนไม่ได้ผลาญงบประมาณแผ่นดินอย่างที่ตกเป็นข่าว โดยสามารถตรวจสอบหลักฐานกับทางคณะกรรมาธิการฯว่ามีการกำหนดงบประมาณในการเดินทางเท่าไร ซึ่งตนมองว่าคณะกรรมาธิการของตนเมื่อทำการเทียบเคียงกับคณะอื่นๆถือว่ามีการใช้งบประมาณที่น้อยที่สุดแล้ว ทั้งนี้ตนไม่หนักใจกับการกล่าวหาเพราะคนที่เอามาเปิดเผยไม่รู้จริง
ถามว่ารายละเอียดการเดินทางนั้นมีแต่สถานที่ท่องเที่ยวโดยไม่ได้ระบุถึงการดูงาน นายเฉลิมชัยชี้แจงว่า พูดกันตามจริงไม่มีใครดูงานตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งก็ต้องมีพักผ่อนบ้างแต่ว่าตนไม่มีพ็อคเกตมันนี่ให้แต่อย่างใด จำนวนเงินที่นำมาใช้ก็เป็นส่วนของคณะกรรมาธิการต้องมีการให้ประธานสภาทำการเซ็นอนุมัติ และนั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเพราะการเดินทางดูงานในต่างประเทศต้องทำหนังสือไปยังกระทรวงต่างประเทศ และทำหนังสือชี้แจงไปยังสถานฑูตในประเทศนั้นๆด้วย ดังนั้นทุกอย่างมีขั้นตอนตามระเบียบขั้นตอน
เมื่อถามว่าทำไมต้องเดินทางไปดูงานที่ประเทศจีน นายเฉลิมชัยตอบว่า เป็นเพราะค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ในการเดินทางน้อยที่สุด เมื่อถามว่าไม่ใช่ได้เดินทางเพื่อไปดูพัฒนาการระบบตำรวจของประเทศจีนหรือ นายเฉลิมชัยถึงกับลนลานและตอบว่า ตนก็ต้องเดินทางไปดูการทำงานของตำรวจที่ปักกิ่ง และเซี่ยงไฮ้ เพื่อเอามานำเสนอและพัฒนาในระบบข้าราชการ
ตำรวจของประเทศไทย ซึ่งที่เซี่ยงไฮ้ก็เป็นศูนย์กลางของระบบเศรษฐกิจอยู่แล้วอย่างไรก็ตามตนจะเร่งให้เจ้าหน้าที่ไปดำเนินการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนเงินที่ใช้ในการเดินทางเพื่อทำการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนโดยจะให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้
"การเดินทางไปประเทศจีนครั้งนี้มีกรรมาธิการร่วมแจ้งจำนง11-12 คน เลขาธิการอีก 1 คน ส่วนผู้ที่ติดตามไปก็ต้องจ่ายค่าเดินทางเองทั้วหมด เมื่อเทียบกับการดูงานที่ยุโรปและแถบอื่นแล้ว ของผมน้อยกว่าเยอะ ผมไม่แน่ใจว่าเอาผมมาเป็นเป้าหรือเปล่าแต่ขอยืนยันได้ว่าตลอดระยะเวลาการทำงานที่ผ่านมาไม่เคยมีประวัติด่างพร้อยในการเรื่องเงินๆทองๆ เรื่องนี้ผมก็เฉยๆนะ ถ้ามีคนตั้งใจทำให้ผมเสียชื่อ " นายเฉลิมชัยกล่าว
ขณะที่นายประชา ประสพดี ประธานกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนรัฐสภา กล่าวว่า การไปดูงานแต่ละครั้งต้องไปเพื่อให้เกิดประโยชน์กับบ้านเมืองมากที่สุดอย่านำเงินงบประมาณแผ่นดินไปละเลง ซึ่งการไปดูงานแต่ละครั้งเมื่อกลับมาทางคณะที่ไปดูงานต้องทำรายงานส่งประธานสภา ว่าได้อะไรกลับมาจากการดูงาน ซึ่งหลังจากนั้นเราก็จะคอยดูกันว่าการไปดูงานตามที่คณะกรรมมาธิการไปนั้นได้ประโยชน์จริงหรือไม่ เพราะจะให้ตนวิพากษ์วิจารณ์ตอนนี้คงไม่เหมาะสม