ยืนยัน “ทักษิณ” โฟนอินร่วมรายการ “ความจริงวันนี้” 14 ธ.ค. แน่นอน เพื่อเปิดใจถึงทิศทางการกลับเข้าสู่สนามการเมืองอีกครั้ง พร้อมกับเผยหมดเปลือกทั้งสาเหตุการหย่าร้าง ไปจนถึงการตัดสินใจไม่อุทธรณ์คดีที่ดินรัชดาฯ ส่วน 23 พ.ย.นี้ มีลุ้นได้ฟังเสียง “สมัคร” ข้ามประเทศจากอเมริกา “ปชป.-ส.ว.รสนา” ผวาออกมาดักคอ แถมปลุกพลังเงียบร่วมกันต่อต้าน
ท่ามกลางกระแสข่าว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หย่าร้างกับภริยา ด้วยความคิดเห็นที่แตกต่างในเรื่องการตัดสินใจทางการเมือง ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับสู่สนามการเมืองอีกครั้ง นั้น
นายจตุพร พรหมพันธ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) สัดส่วน พรรคพลังประชาชน และผู้จัดรายการ “ความจริงวันนี้” เปิดเผยว่า การจัดรายการความจริงวันนี้จะเลื่อนจากวันที่ 10 ธ.ค.ออกไปเป็นวันที่ 14 ธ.ค. ที่สนามศุภชลาศัย โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะโฟนอินเข้ามาร่วมรายการ และจะมีความชัดเจนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับเข้ามาสู่สนามการเมืองอย่างไร เนื่องจาก ตั้งแต่มีการปฏิวัติ 19 กันยายน พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องเผชิญชะตากรรมที่ไม่เป็นธรรม ถูกย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ดังนั้น เส้นทางจากนี้ไปต้องจับตาดู
ส่วนเหตุผลการจดทะเบียนหย่าของ พ.ต.ท.ทักษิณ เท่าที่ได้พูดคุยโทรศัพท์กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับการยืนยันว่าเหตุผลส่วนหนึ่งมาจากการเมือง เพราะครอบครัวได้รับผลกระทบจากเหตุปฏิวัติ เมื่อวันที่ 19 กันยายน
ประกอบกับ คุณหญิงพจมาน ไม่สนับสนุนให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เล่นการเมืองมาตั้งแต่ต้นแล้ว แต่เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณได้พบเจอแรงกดดันต่าง ๆ โดยเฉพาะคดีความ ทำให้ต้องตัดสินใจหวนคืนสู่เวทีการเมืองอีกครั้งดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีการจดทะเบียนหย่า เพื่อที่จะต่อสู้ทางการเมืองได้อย่างเต็มที่
ส่วนการเปิดมูลนิธิ เดอะ บิลดิ้ง อะ เบทเทอร์ ฟิวเจอร์ ฟาวน์เดชั่น นั้น ตนคิดว่าเพื่อเป็นการช่วยเหลือประเทศต่างๆ ที่ตกอยู่ในภาวะวิกฤติทางด้านเศรษฐกิจและปัญหาความยากจน
นายจตุพร กล่าวว่า การจัดรายการความจริงวันนี้ เป็นการชุมนุมโดยสงบเมื่อเสร็จงานแล้วกลุ่มผู้มาร่วมงานจะแยกย้ายกันกลับทันที ส่วนงานในวันที่ 23 พ.ย. ที่วัดสวนแก้วจะให้นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี โฟนอินเข้ามาในรายการเช่นกัน ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการประสานงาน
นอกจากนี้ นายจตุพร ยังยืนยันด้วยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางกลับประเทศไทยแน่นอน เพราะได้ประกาศต่อสู้ทางการเมืองแล้ว ส่วนจะเป็นห้วงเวลาใดนั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์เป็นตัวกำหนด แต่เห็นว่า หากมีการปฏิวัติอีกรอบจะส่งผลให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับประเทศไทยเร็วขึ้น
เมื่อถามว่า หากพ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับเข้าประเทศไทยจะมีกระบวนการทางกฎหมายอย่างไร นายจตุพร กล่าวว่า ในสงครามหากมีฝ่ายที่รุกล่าเพียงอย่างเดียวโดยไม่ยุติธรรม ปัญหาก็จะไม่จบ ดังนั้นพ.ต.ท.ทักษิณ พรรคพลังประชาชนจะต้องได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน เพราะกฎหมายไม่ได้ เขียนไว้ให้เฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ หรือกลุ่มพันธมิตรฯเพียงฝ่ายเดียว อย่างไรก็ตาม หากจะมีการล้างไพ่ก็ต้องเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่ใช่เพียงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
ส่วนกรณีคดีที่ดินรัชดาฯ นายคำนวณ ชโลปถัมภ์ ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ เปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เรื่องการยื่นอุทธรณ์คดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งจะครบกำหนด 30 วัน ในวันที่ 19 พ.ย. โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ยืนยันว่า จะไม่ยื่นอุทธรณ์คดีดังกล่าว โดยไม่ได้ระบุถึงเหตุผล แต่ระบุว่าจะมีการโฟนอินผ่านรายการความจริงวันนี้สัญจร เพื่อชี้แจงรายละเอียดและเหตุผลด้วยตนเอง
ทั้งนี้ หาก พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับมาต่อสู้คดี จะมีผลต่อการไม่ยื่นอุทธรณ์สู้คดีหรือไม่นั้น นายคำนวณ ระบุว่า จะต้องดูรายละเอียดในแต่ละเรื่อง ที่มีผลกระทบต่อตัว พ.ต.ท.ทักษิณ และแก้ไขปัญหาทีละอย่าง
ขณะที่นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์กรณี พ.ต.ท.ทักษิณ จดทะเบียนหย่าว่าอาจเกี่ยวข้องกับคดีอายัดทรัพย์ 67,000 ล้านบาท ยืนยันว่าการจดทะเบียนหย่านั้นไม่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว เพราะคำฟ้องระบุอย่างชัดเจนถึงทรัพย์สินทั้งหมดอยู่แล้ว อีกทั้งการหย่านั้นไม่มีผลทางคดี ไม่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะเป็นโจทก์หรือจำเลย
ขณะที่เดียวกันก็มีความเห็นจากคนอีกด้านที่กังวลกับการโฟนอินและการกลับสู่แวดวงการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง การเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่จดทะเบียนหย่า ว่า เป็นเรื่องในครอบครัว ซึ่งไม่มีใครรู้ข้อเท็จจริง มีแต่การสันนิษฐานเท่านั้น เพราะถ้าพิจารณาตามกฎหมายต้องดูจากความเห็นของอัยการ และฝ่ายคตส. ว่ามีผลกระทบต่อคดีที่มีการอายัดทรัพย์หรือไม่
ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ก็สู้อยู่แล้ว ซึ่งเป็นสิทธิที่จะเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่ความต้องการของประเทศขณะนี้คือเรื่องของความชอบธรรม ดังนั้น การต่อสู้หรือการแข่งขันใด ๆ ก็ทำได้แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบของความชอบธรรมด้วย ซึ่งในทางคดี พ.ต.ท.ทักษิณ ก็สามารถตั้งทนายขึ้นมาแก้ต่างได้ภายใต้กรอบของกฎหมาย
ส่วนตัว มองว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ก็มีสิทธิที่จะกลับมาเมืองไทย เพราะฉะนั้นถ้าสู้ตามวิถีทางที่ตรงไปตรงมาก็ไม่มีปัญหา เพียงแต่ในช่วงหลังการทำอะไรตามใจของผู้มีอำนาจในสมัยนั้นคงทำไม่ได้ง่ายเท่าไหร่แล้ว เพราะการแทรกแซงศาล และ อัยการเป็นเรื่องยาก ดังนั้น หาก พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับประเทศ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ชาวบ้านมาเรียกร้อง
ขณะที่ นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ พยายามกล่าวหาว่าการโฟนอิน เป็นเพียงการดึงเรตติ้งของรายการความจริงวันนี้
เช่นเดียวกับนางรสนา โตสิตระกูล สว.กทม. ที่หวาดผวาจนต้องเรียกร้องพลังเงียบออกมาเคลื่อนไหว โดยระบุว่าการที่คุณหญิงพจมาน จะเดินทางกลับประเทศไทยเพื่อต่อสู้คดีคิดว่าเป็นไปตามกฎหมาย ทางกลุ่ม ส.ว.ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเขามีสิทธิจะเข้ามาต่อสู้คดี แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าหากพลังเงียบส่วนใหญ่ยังเงียบอยู่ความารุนแรงจะเกิดขึ้น เราไม่ควรปล่อยให้สังคมกลายเป็นเครื่องมือหรือตัวประกันที่ทำให้เกิดความรุนแรง