กองทัพจูบปากรัฐบาล 'พัลลภ' รีเทิร์น คืนเก้าอี้รองผอ.รมน. เหตุทหารไม่พอใจ 'โกตั๊บ' จาบจ้วง! คาดเข้า ครม.พุธนี้ ด้านนายกฯยังอุบไต๋ 'ณัฐวุฒิ' ไม่สนอดีตเคยขัดแย้ง ระบุพร้อมร่วมงานหากทำเพื่ออนาคตชาติ 'มหา 5 ขัน' ปากกล้าขาสั่น ไม่สนซี้เก่าขันอาสากาวใจ! ไม่วายตะกายหาทางลง แบะท่าเจรจา
จากกรณีที่ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ออกมาระบุว่า เตรียมเข้าไปช่วยงานรัฐบาลใน กอ.รมน.เพื่อแก้ไขปัญหาการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น วันนี้ (17 พ.ย.) พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ เปิดเผยว่า กรณีที่ พล.อ.พัลลภ จะกลับเข้ามาทำงานใน กอ.รมน.เพื่อดูแลการชุมนุมขอกลุ่มพันธมิตรฯ ตนไม่ขอเอ่ยถึงคนๆ นี้ แต่หากรัฐบาลจะใช้กลไลอำนาจ กอ.รมน.เข้ามาจัดการกับกลุ่มพันธมิตรฯ เชื่อว่าจะเป็นการซื้อเวลาและคงไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ แต่รัฐบาลกลับจะยิ่งสร้างปัญหามากขึ้น เพราะ กอ.รมน.เป็นหน่วยงานที่รักษาความมั่นคงภายในประเทศ ดังนั้น จึงต้องดูว่ารัฐบาลจะกำหนดและมอบนโยบายอย่างไร ทั้งนี้ เห็นว่าผู้ที่เข้ามาแก้ปัญหาไม่ควรเป็นผู้ที่สร้างปัญหา
"เราไม่ได้พูดว่า กอ.รมน.จะเข้ามาแก้ปัญหาไม่ได้ แต่เราพูดว่ารัฐบาลเป็นผู้สร้างปัญหา ควรจะแก้ที่ตัวรัฐบาลไร้คุณธรรม มาเข่นฆ่าประชาชน ไม่ใช่เอาข้อกฏหมายหรือใช้องค์กรอื่นมาแก้ไข จะถือว่าเป็นการซื้อเวลาของรัฐบาล อย่างไรก็ดี กลุ่มพันธมิตรฯ ไม่ได้ปิดกั้นเรื่องเจรจา เพราะหากรัฐบาลให้คนที่รู้เรื่องและเข้าใจกลุ่มพันธมิตรฯ มาเจรจาก็พร้อมเจรจาด้วย เพียงแต่ต้องส่งคนที่มีอำนาจในการตัดสินใจเข้ามาเจรจา" พล.อ.พัลลภ กล่าว
ด้าน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีระแสข่าวระบุว่า รัฐบาลจะมอบให้ พล.อ.พัลลภ มาช่วยเจรจากับกลุ่มพันธมิตรฯว่า “เรื่องการเจรจาเห็นว่ามีคนกลางอยู่ คือเครือข่ายสานเสวนาได้ทำอยู่แล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าจะนัดกันอย่างไร ซึ่งผมยืนยันว่าเห็นด้วยถ้าจะมีการพูดคุยกัน เพราะทุกคนควรจะเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมของบ้านเมืองเป็นหลัก
ทั้งนี้ ทำเนียบรัฐบาลเป็นสมบัติของชาติ มาจากภาษีประชาชน ทำเนียบรัฐบาลไม่ใช่ของรัฐบาล ของผมหรือของใครทั้งนั้น ผมก็อยากจะขอร้องให้ช่วยกันคิดเรื่องนี้หน่อย”
เมื่อถามว่า ตกลงมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่จะให้ พล.อ.พัลลภ มาเป็นผู้ช่วย ผอ.กอ.รมน. นายสมชาย ปฏิเสธที่จะให้คำตอบ
ขณะที่ พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษก กอ.รมน. กล่าวว่า ขณะนี้ทางหน่วยยังไม่ได้รับทราบเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งหากจะให้มาทำหน้าที่ดังกล่าวจริงก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.รมน. จะเป็นผู้พิจารณาตามมาตรา 5 วรรค 4 ตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 ซึ่งกำหนดให้บุคคลที่จะดำรงตำแหน่ง ผช.ผอ.รมน. ต้องเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือข้าราชการในสังกัด กอ.รมน.และต้องผ่านความเห็นชอบจากนายกรัฐมนตรีและคณะกรรมการอำนวยการจำนวน 22 คน ส่วนความคืบหน้าการจัดโครงสร้างใหม่ของ กอ.รมน. ว่า คาดว่าคณะรัฐมนตรีน่าจะอนุมัติได้ในสัปดาห์นี้หลังจากที่มีการเสนอมาหลายครั้งแล้ว
ทางด้าน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม.จะมีมติตั้ง พล.อ.พัลลภ เป็น รอง ผอ.รมน หรือไม่นั้น ตนได้ทราบเฉพาะจากทางสื่อสารมวลชนเท่านั้น ยังไม่ได้ยินนโยบายหรือแนวทางปฏิบัติจากนายกรับมนตรีโดยตรง ซึ่งการตั้งหรือไม่ตั้ง ผู้หนึ่งผู้ใดมาปฏิบัติหน้าที่นั้นเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี แต่หากมีการแต่งตั้งจริงก็จะต้องดูว่าจะให้ พล.อ.พัลลภ ดูแลรับผิดชอบส่วนไหนอย่างไร แต่เท่าที่ฟังจากข่าว พล.อ.พัลลภ นั้นเป็นผู้กระตือรือร้นที่จะเข้ามาช่วยเหลือวิกฤติของประเทศ เพียงแต่วิธีการหรือขั้นตอนอย่างไรนั้นเป็นเรื่องของผู้มีอำนาจ แต่หากใครมีความตั้งใจจะแก้ปัญหาให้บ้านเมืองไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งไหนอย่างไรก็สามารถช่วยเหลือได้
"ผมไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะบอกได้ว่า การแต่งตั้ง พล.อ.พัลลภ เข้ามาอีกครั้งนั้นเหมาะสมหรือไม่ แต่การกระตืนรือร้นของ พล.อ.พัลลภ ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่จะช่วยเหลือวิกฤติของประเทศ แต่การจะให้อยู่ในตำแหน่งไหนอย่างไร อยู่ที่ผู้เกี่ยวข้องจะพิจารณา"
เมื่อถามถึงความขัดแย้งกับ พล.อ.พัลลภในอดีตนั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่า ครั้งหนึ่งอาจจะมีความเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกันอย่างเปิดเผย แต่ในส่วนของการทำงาน นั้นตนไม่อยู่ในฐานะของคนที่มีความเห็นว่า สะดวกจะทำงานกับใครหรือไม่สะดวกจะทำงานกับใคร และคงไม่ตั้งแง่ระแวงว่า พล.อ.พัลลภจะมาเป็นไส้ศึกหรือไม่ เพราะหากไปตั้งแง่อย่างนั้นประเทศคงจะแก้ปัญหาอะไรไม่ได้ สำหรับส่วนตัวหากใครมีวิธีคิดที่จะแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี เป็นประชาธิปไตยและการเมืองต้องแก้ด้วยการเมืองแล้วก็สามารถร่วมงานกันได้ สำหรับอดีตใครยืนอยู่ตรงไหนอย่างไรนั้นไม่สำคัญ เพราะวันนี้เราพูดกันด้วยอนาคตของบ้านเมือง
ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวระดับสูงภายในกองทัพ เปิดเผยว่า กรณีที่มีกระแสข่าวระบุว่า พล.อ.พัลลภ จะกลับมาดำรงตำแหน่งรอง ผอ.รมน.นั้น มีแนวโน้มเป็นไปได้สูงกว่าร้อยเปอร์เซ็นแล้ว เนื่องจากทั้งรัฐบาลและกองทัพได้พูดคุยกันจนตกผลึกแล้ว โดยจะมีการแต่งตั้งภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นการประชุม ครม.ในวันพุธที่ 19 พ.ย.นี้ ทั้งนี้ สาเหตุที่กองทัพมีความเห็นตรงกันกับรัฐบาล เนื่องจากทหารส่วนใหญ่ไม่พอใจการกระทำของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ กรณีที่นำผ้าอนามัยไปวางไว้บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า อย่างไรก็ดี พล.อ.พัลลภ ยืนยันว่าจะเข้ามาแก้ปัญหาการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯด้วยแนวทางสันติวิธี ส่วนจะสามารถเคลียร์กับ พล.ต.จำลองได้หรือไม่นั้น เชื่อว่าในฐานะที่เป็น จปร.7 รุ่นเดียวกัน ก็น่าจะมีการพูดคุยกันได้ ส่วนเรื่องความเห็นที่ไม่ตรงกันนั้น คงเป็นขั้นตอนของการเจรจา ซึ่งน่าจะช่วยให้ลดบรรยากาศความตรึงเครียดในสังคมลงในระดับหนึ่ง