คอลัมน์ : ละครชีวิต
โดย ลวดหนาม
เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมามีโอกาสได้นั่งอ่านหนังสือพิมพ์หลากหลายฉบับ และไปเจอบทความชิ้นหนึ่งสะดุดตา เพราะใช้หัวข้อว่า “สื่อบางสื่อ แท้จริงก็คือ dog รับใช้นักการเมือง”
ไล่อ่านตั้งแต่บรรทัดแรก จนบรรทัดสุดท้ายก็แทบจะอาเจียน เพราะมีแต่ข้อเขียนที่เขียนขึ้นเพื่อยกหางตัวเองทั้งนั้น ผมไม่รู้ว่า คนเขียนบทความชิ้นนี้เป็น “นักข่าว” หรือไม่ แต่อยากจะบอกกับประชาชนที่อาจเผลอไปอ่านบทความนี้ว่าอย่าหลงไปเชื่อ “พวกเอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้คนอื่น” ดูจากสำนวนการเขียนแล้วต้องสันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่านักเขียนคนนี้ “เห็นผิดเป็นชอบ” หรือ “เห็นกงจักรเป็นดอกบัว”หรืออาจจะไปโดนเจ้านายบางคนใช้ไสยศาสตร์ มนต์ดำ เล่นงานให้เขียนบทความกล่าวหาเพื่อนๆ สื่อมวลชนด้วยกัน
ผมติดใจอยู่คำหนึ่ง โดยเฉพาะประโยคที่ระบุว่า “สื่อมวลชนบางคนบางสำนักได้ทอดทิ้งคำว่า Watch ไปเรียบร้อยแล้ว เหลือไว้เพียงคำว่า dog ที่ไม่ใช่แค่ dog ธรรมดาๆ แต่เป็น dog ที่หันหน้าไป “เชียร์ & เลีย” นักการเมืองหรือฝ่ายบริหาร แทนที่จะตรวจสอบ”
ผมเข้าใจว่า นักเขียนคนนี้อาจจะคับแค้นใจแทนเจ้านายที่มีหนังสือพิมพ์กลุ่มหนึ่ง เช่น หนังสือพิมพ์ข่าวสด มติชน หรืออาจจะรวมถึงประชาทรรศน์ด้วย
หนังสือพิมพ์กลุ่มนี้ไม่ยอมก้มหัวให้พันธมิตรฯ เพื่อสนับสนุน “อำนาจนอกระบบ” หรือ “อำนาจเผด็จการ” จึงทำให้ถูกต่อต้านอย่างหนักจากพันธมิตรฯ
ทฤษฎีคนทำงานสื่อมีไว้ว่า “แมลงวันไม่ตอมแมลงวัน” แต่ผมไม่ค่อยเห็นด้วยนัก เพราะสาเหตุที่ประเทศชาติบ้านเมืองเราวุ่นวายทุกวันนี้ก็เพราะ “แมลงวันไม่ตอมแมลงวัน” นี่แหละ
ทุกวันนี้มีสื่อมวลชนจำนวนกี่ฉบับ กล้าสู้กับพันธมิตรฯ ที่กำลังเผาบ้านเผาเมือง ทำลายระบอบประชาธิปไตย
พันธมิตรฯ โจมตีรัฐบาล โดยมีสื่อในมืออย่างหนังสือพิมพ์พิมพ์ผู้จัดการ เว็บไซด์ผู้จัดการออนไลน์ และเอเอสทีวี ช่วยประโคมข่าว
ผมเห็นไม่กี่ฉบับ เพราะแต่ละคนก็เกรงกลัวพันธมิตรฯ กันทั้งนั้น ทั้งๆ ที่รู้ว่าตอนนี้พันธมิตรฯ หมดความชอบธรรมไปตั้งนานแล้ว
ที่เหลืออดเหลือทนจริงๆ ก็คือสมาคมสื่อที่ออกมารับลูกพันธมิตรฯ โดยไม่แยกแยะบทบาทหน้าที่ของตัวเองว่าสิ่งใดควรทำหรือไม่ควรทำ
ผมบอกตามตรงว่าเห็นหัวหน้าข่าวหนังสือพิมพ์บางฉบับ พาดหัวข่าวด่ารัฐบาล หรือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แล้วรู้สึกหดหู่
เพราะหัวหน้าข่าวพวกนี้ไม่ได้กระทำภายใต้จรรยาบรรณสื่อสารมวลชน แต่ทั้งหมดกระทำไปด้วยความสะใจ
ผมสนับสนุนเพื่อนนักข่าวที่เขียนข่าวเพื่อตรวจสอบรัฐบาล แต่ผมไม่สนับสนุนให้ใครใช้วิชาชีพตัวเองเขียนข่าวเพื่อทำลายคนอื่น
ถึงเวลาแล้วที่แมลงวันต้องตอมแมลงวัน แม้ในอดีตจะมีผู้ใหญ่บอกว่า การทักท้วงหรือวิจารณ์สื่ออื่นที่ไม่ใช่เราสมควรเป็นเรื่องของสมาคมวิชาชีพ
แต่สมาคมวิชาชีพในวันนี้ มีกรรมการที่เป็นแค่นักข่าวแก่กะโหลกกะลา บางคนก็เพี้ยนๆ โดยเฉพาะสภาการหนังสือพิมพ์ที่มีหน้าที่เรื่องจริยธรรม
แต่ไม่เห็นทั้งสมาคมและสภาทำอะไรนอกจากปกป้องเสรีภาพของตัวเอง และปกป้องความผิดของสื่อพวกเดียวกัน
ที่ต้องเน้นย้ำกันบ่อยๆ เรื่องสื่อนั้น เป็นเพราะมองเห็นความสำคัญในยามที่บ้านเมืองเรากำลังแย่
ผมไม่อยากให้ชาวบ้านที่อ่านหนังสือพิมพ์บางฉบับที่ชอบอวดอ้างตัวเองว่าเป็น “สื่อแท้” หลงเชื่อสำนวนโวหาร และกลายเป็นเหยื่อของ “อำนาจนอกระบบ” ทำลายประชาธิปไตยอีกต่อไป!