คอลัมน์ : โต๊ะข่าวประชาทรรศน์
โดย อัชชาวดี
ช่วง 2-3 วันนี้มีปรากฏการณ์ในแวดวงสื่อสารมวลชนที่เรียกกันว่า“แมลงวันตอมแมลงวัน” ให้ติดตามอ่านกันสนุกๆ
เช่นกรณีที่ “ประชาทรรศน์” เสนอคลิปฉาวโฉ่เจ้าของสื่อรายหนึ่ง ซึ่งไม่ได้ระบุชื่อว่าเป็นใคร แต่จู่ๆ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็ออกมายอมรับว่าบุคคลในคลิปฉาวคือตัวเอง แต่แทนที่นายสนธิจะยอมรับผิด แต่กลับมา “ถูลู่ถูกัง” เฉไฉเอาตัวรอดไปอย่างน่าด้าน
อีกกรณีหนึ่งคือเรื่องที่ นสพ. มติชนออกมาเปิดโปง กล่าวหาสำนักข่าว INN ว่า มีผู้บงการให้เต้าข่าวลวงโลกเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
สำนักข่าวINN ได้ออกแถลงการณ์ปฏิเสธ พร้อมทั้งแสดงหลักฐานถึงต้นตอที่ไปที่มาของข่าวอย่างชัดเจน
ในเว็บไซต์ไทยอีนิวส์ ได้เปิดเผยเบื้องลึก- เบื้องหลัง ของสำนักข่าวINN ซึ่งเชื่อได้ว่าไม่น่าจะเป็น “ทาสรับใช้ พ.ต.ท. ทักษิณ” ตามที่ “มติชน” กล่าวหา
เริ่มจากนายทุนของค่ายคือสำนักงานทรัพย์สินฯ ถือหุ้นใหญ่ก่อนเปลี่ยนมือมาเป็นUCOMคู่แข่งตลอดกาลในวงการมือถือของAIS
ส่วนผู้ก่อตั้งคือ "สนธิญาณ หนูแก้ว" ถูกส่งเข้ามายึด TITV หลังปฏิวัติ 19 กันยายน แถมแกนนำพันธมิตรฯ อย่างสำราญ รอดเพชร-สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ซี้ปึ้กสัมพันธ์แน่นนัดกินข้าวกับคนข่าวเดือนละหน ส่วนนักข่าวก็ล้วนแต่เป็น “คนปักษ์ใต้”
แบบนี้ นสพ. มติชน ท่าจะมั่ว เพราะความอ่อนประสบการณ์ ขนาดอ้างผิดๆถูกๆว่าสำนักข่าวก้องโลกอย่างบลูมเบิร์กของอเมริกาเป็นของเยอรมัน แต่กลับไปสั่งสอนสำนักข่าวอื่นหน้าตาเฉย
ส่วนคนในวงการข่าวที่สนธิญาณใกล้ชิดด้วยนั้น ส่วนใหญ่มักมีบทบาทคัดค้านทักษิณอย่างเอาการเอางาน เช่น สมชาย แสวงการ อดีตผู้บริหารINN ปัจจุบันเป็น1ใน40สว.ที่คัดค้านทักษิณอย่างจริงจัง
หรือสำราญ รอดเพชร ที่เคยร่วมงานกับสนธิญาณ ปัจจุบันคือโฆษกเวทีพันธมิตร เป็นต้น ปัจจุบัน “สนธิญาณ” แยกตัวออกไปตั้งสำนักข่าวแห่งใหม่ชื่อ “ทีนิวส์” แต่ดูเหมือนคนINNยังผูกพันกับเขาอย่างแน่บแน่น
ดังนั้นการตั้งข้อสังเกตว่าINNจะเกื้อหนุน หรือรับใช้ หรือเสนอข่าวที่ให้ผลประโยชน์แก่อดีตนายกฯทักษิณ ตามที่มติชนกล่าวหานั้น จึงไม่มีมูลเหตุจูงใจเพียงพอ หรือไม่มีส่วนสัมพันธ์ที่น่าจะเป็นไปได้
แบบนี้เสียชื่อสโลแกน “สื่อคุณภาพเพื่อคุณภาพของประเทศ” เพราะแทนที่นักข่าวจะหาข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงมารายงานผู้อ่าน
แต่นักข่าวมติชนกลุ่มหนึ่ง กลับคุ้ยเรื่องราวเพื่อนร่วมอุดมการณ์ โดยมุ่งทำลาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นหลัก
การที่สื่อตรวจสอบกันเองถือเป็นเรื่องดี คนที่ได้ประโยชน์คือ “ประชาชน” เพราะประชาชนอยากจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับสื่อ
แต่การนำเสนอข่าวแบบเจาะลึกเชิงสืบสวนสอบสวนนั้นต้องกระทำภายใต้ความเป็นกลาง ไม่ใช่ต้องการทำลายใครคนใดคนหนึ่ง หรือทำข่าวแบบมีอคติ เช่น สื่อของเผด็จการไม่เคารพประชาธิปไตย
สื่อที่ดี ในยามที่บ้านเมืองวิกฤติเช่นนี้ไม่ควรออกมาชี้นำ หรือ ต้อนอีกขั้วให้เข้ามุมอับ เพราะจะยิ่งทำให้บ้านเมืองวุ่นวายกันไปใหญ่ !