กองกำลังติดอาวุธ พธม.เหิมเกริม! ปล้นยุทธปัจจัยกองทัพ ใส่เสื้อเกราะ-พกปืนเดินแกว่งรอบทำเนียบฯ ‘เสธ.แดง' เตือน!พันธมารให้หดหัวอยู่ในรู เชื่อมีเหตุบึ้มซ้ำ 23 พ.ย.นี้ ชำเรา!มารศาสนา ‘สันติอโศก’ สับแหลก!ไอ้ฆราวาสหัวเกรียนนุ่งจีวร ทำศาสนาวิบัติ
จากกรณีการ์ดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ที่วางกำลังรักษาการณ์โดยรอบพื้นที่ชุมนุม ได้สวมเสื่อเกราะสีดำ พร้อมพรางหน้าด้วยไหมพรม เดินตรวจตราความปลอดภัยภายในทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเสื้อเกราะถือว่าเป็นยุทธปัจจัยของกองทัพ ที่คนทั่วไปไม่สามารถใช้ได้หากไม่ได้รับอนุญาต ยกเว้นแต่กองทัพโจรที่ทำตัวเป็นกฎหมายเสียเอง โดยมีการตั้ง สน.พันธมิตรฯขึ้นมา แล้วให้การ์ดแต่ละคนพกอาวุธและใส่เสื้อเกราะ
พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ระบุว่า เรื่องนี้เป็นอย่างที่ทราบกันดีว่าผิดกฎหมายในการนำยุทธปัจจัยของกองทัพมาใช้ นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบอาวุธปืนและกระสุนปืนจำนวนหลายรายการ หายไปจากทำเนียบรัฐบาลหลังจากที่กลุ่มพันธมิตรฯเข้าบุกยึดทำเนียบ ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะต้องเร่งดำเนินการ
“เรื่องนี้มันผิด และมันก็หายไปเยอะด้วย แสดงว่ามันมีการลักลอบเอาไป เรื่องนี้ตำรวจต้องรีบจัดการ ตนได้โทรศัพท์ไปบอกตำรวจแล้ว แจ้งไปแล้วว่าต้องจัดการ เพราะมันผิดกฎหมาย” พล.ต.ขัตติยะ กล่าวย้ำ
เมื่อถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพันธมิตรฯ ต่อจากนี้ไปจะรุนแรงอย่างที่เคยได้ให้สัมภาษณ์ไว้จริงหรือไม่ พล.ต.ขัตติยะกล่าวว่า ครั้งล่าสุดที่เกิดเรื่อง ตนตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ทั้งที่ได้ทำการเตือนไปแล้ว ให้ทำบังเกอร์เพื่อป้องกัน แต่กลับเมินเฉยและออกมาเต้นรำทำเพลงกัน ก็เจ็บตายเป็นเบือกันขนาดนี้
ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นคนกระทำหรืออยู่เบื้องหลัง ซึ่งบอกได้คำเดียวว่าพวกพันธมิตรฯโดน “ของจริง” เข้าให้แล้ว และในวันที่ 23 พ.ย.นี้ก็เช่นกัน อาจจะเกิดความสูญเสีย เพราะมีคนอีกจำนวนมากที่เกลียดชังกลุ่มพันธมิตรฯ
“ในวันที่ 23 พ.ย.นี้ บอกได้คำเดียว มีลูกเตือนลูก มีปู่ย่าตายายและพ่อแม่ด้วย เรียกกลับบ้านให้หมด อย่ามากัน ถ้าแห่กันมาก็บอกคำเดียวจองวัดได้เลย ถ้าใครมาเดินเตร่อยู่ ก็ขอเตือนไว้ คนเขาจองกันเยอะ ทีนี้ก็จะเหลือแต่สันติอโศก ซึ่งไอ้มารศาสนาพวกนี้ก็ต้องจัดการให้หมดไปจากประเทศด้วย เพราะมันไม่ใช่พระ ทำให้ศาสนาวิบัติ” พล.ต.ขัตติยะ ระบุชัด
'ม็อบโกเต็กซ์'เต้าข่าว!แต่งนิยายตุ๋นผู้ชุมนุม
ก่อนหน้านี้ พล.ต.ขัตติยะ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ระเบิดที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อช่วงเช้าวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บกว่า 20 ราย ซึ่งพันธมิตรฯ ได้กล่าวหาว่ามีนายพลคนดังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ครั้งนี้
พล.ต.ขัตติยะ กล่าวให้สัมภาษณ์ว่า ตนไม่รู้สึกตกใจ หรือตื่นเต้นกับข้อมูลที่ทางกลุ่มพันธมิตรฯ ออกมาเปิดเผยว่ามีนายพลคนดังไปร่วมวางแผนที่ห้างเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า ก่อนที่จะนำอาวุธสงคราม เอ็ม 79 มายิงถล่มใส่กลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งทั้ง “จ่าหลิม” และ “จ่าเทพ” คือ ลูกน้องของตนที่ทำงานร่วมกับตน เป็นคนขับรถให้ ซึ่งทั้งคู่ไม่ได้มีพิษมีภัยอะไร
“จ่าหลิมเป็นนักดื่มเหล้า ซึ่งจะมีอาการเมาทั้งวันทั้งคืน และจ่าหลิมก็อายุมากแล้ว ตอนนี้ก็นับวันที่จะเกษียณอายุราชการ จะเอาแรงที่ไปถืออาวุธสงครามมายิง ส่วนจ่าเทพก็ได้ลาออกจากราชการไปแล้ว ซึ่งตัวของจ่าเทพก็มีน้ำหนักเป็น 100 กิโลกรัม เดินเหินก็ค่อนข้างลำบาก ดังนั้นข้อมูลที่กลุ่มพันธมิตรฯ มาเปิดเผยล้วนแต่มั่วสิ้นดี” พล.ต.ขัตติยะ กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ อ้างแหล่งข่าวจากหน่วยข่าวกรองทหารบก ว่ามีการวางแผนก่อนที่จะนำอาวุธสงครามมาถล่มกลุ่มผุ้ชุมนุมนั้น พล.ต.ขัตติยะ ชี้ว่า มันอ้างไปเรื่อยๆ ตอนนี้มันพยายามดิ้น จึงได้กุเรื่องต่างๆขึ้นมา ทั้งๆที่ข้อมูลที่ได้มาไม่ได้มาจากหน่วยข่าวกรองทหารบก แต่เป็นการแต่งขึ้นมาเอง และตนก็ไม่เคยไปห้างเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า ทั้งนี้จ่าหลิมและจ่าเทพ ใครๆ ก็รู้จักทั้งสองคนเป็นอย่างดี รวมถึง 5 นายพลที่ร่วมขึ้นเวทีปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรฯ ก็รู้จักดีกันเป็นอย่างดีแทบทั้งสิ้น
"ไม่สงสัยเลยว่าทำไมเขาถึงได้มาอ้าง เพราะรู้ๆกันอยู่ว่ากลุ่มพันธมิตรฯ หมดความชอบธรรมไปตั้งนานแล้ว ก็พยายามหาเรื่องมาผูกโยงเพื่อเรียกคะแนนจากประชาชนให้ร่วมสังคกรรมขณะนี้ประชาชนเขาเบื่อหน่าย และรู้พฤติกรรมของแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นอย่างดี" พล.ต.ขัตติยะ กล่าว