WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, November 21, 2008

จำลอง เผย สนธิ หมดตัว..ประกาศสู้ตายสงครามครั้งสุดท้าย



"จำลอง" เผย "สนธิ" หมดตัวประกาศสงครามครั้งสุดท้าย ชื่นชมสูญเสียทรัพย์สินมากมาย
แต่ยังเสี่ยงเพื่อหน้าที่ "สนธิ" ไม่สนศาลฟ้องล้มละลาย
ลั่นถ้ายังไม่ตาย มีลมหายใจก็ต้องสู้จนกว่าชีวิตจะหาไม่




เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายนว่า หลังจากที่ศาลลัมละลายกลางมีคำสั่งให้บริษัท แมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด(มหาชน)เจ้าของหนังสือพิมพ์ ผู้จัดการรายวัน ล้มละลายเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2551 นั้น ทางทีมกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ผุ้จัดการได้เปลี่ยนหัวหนังสือพิมพ์
ที่ออกจำหน่ายวันที่ 20 พฤศจิกายน เป็น "สารจาก ASTV โดยทีมงานผู้จัดการ"




"จำลอง"ชี้"สนธิ"หมดตัวจึงประกาศสงครามครั้งสุดท้าย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อคืนวันที่ 19 พฤศจิกายนถึงกรณีศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้บริษัท แมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป ล้มละลาย ทำให้นสพ.ผู้จัดการ ออกจำหน่ายในวันที่ 19 พ.ย.เปลี่ยนหัวจาก "ผู้จัดการ" เป็น "ผู้จัดการ 2551" ชั่วคราว จนกว่าจะจดหัวใหม่เสร็จในนามของบริษัท "เอเอสทีวี" ว่า พันธมิตรฯ มีเป็นแสนๆล้านคน แต่คนที่เสี่ยงการสูญสิ้นทรัพย์สินมากที่สุดคือ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ทั้งที่ไม่มีใครมาบังคับไม่มีใครมาขอร้องแต่เห็นว่าเป็นหน้าที่ที่ตัวเองเข้ามาเสี่ยง คงไม่แปลกใจทำไม นายสนธิบอกว่าเป็นสงครามครั้งสุดท้ายเพราะเสี่ยงจนหมดแล้วจะมีครั้งหน้าเหลือที่จะไปสู้ได้อย่างไร



"สนธิ" ดิ้นต่อไม่สนศาลฟ้องล้มละลาย
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวบนเวทีพันธมิตรฯ เมื่อเวลา 20.00 น. ว่า

"แม้ว่าหนังสือพิมพ์ผู้จัดการไม่สำคัญเท่ากับ "เอเอสทีวี" ถ้ายังไม่ตายมีลมหายใจต้องคลานเข้าไปและต้องสู้จนกว่าชีวิตจะหาไม่ ฉะนั้นพรุ่งนี้หนังสือพิมพ์ผู้จัดการจะออกเหมือนเดิมแต่เราออกเป็นฉบับพิเศษ เขียนตัวเล็กๆว่า "รายงานข่าวการชุมนุมของพันธมิตรผ่านเอเอสทีวีโดยทีมงาน"เขียน"ผู้จัดการ" ตัวใหญ่ๆ"

นายสนธิ กล่าวว่า "ขณะนี้มีรายได้จากค่าโฆษณาประมาณหลายสิบล้านบาทจะหมุนเข้ามาในอีก 30-60 วันข้างหน้า แต่วันนี้เก็บไม่ได้แม้แต่บาทเดียวต้องเริ่มจากศูนย์ "ทุกคนมีเลือดนักสู้เข้มข้นไม่มีใครยอมแพ้แม้แต่คนเดียว ผมโดนอาวุธทุกรูปแบบ เลือดมันไหลอยู่ข้างในอมเลือดไว้ตลอด ยังไงเราต้องออก ภายใต้หัวหนังสือใหม่ ต้องไปกราบกรานเจ้าของโรงพิมพ์กระดาษ ติดหนี้ติดสินก็ต้องยอม เจ๊งเป็นเจ๊งตายเป็นตาย เคยเห็นไหมว่าล้มละลายโดยที่เจ้าหนี้ไม่ได้ฟ้อง เรายื่นคำร้องขอให้พิจารณาขยายแผนฟื้นฟู หรือไม่ก็ออกจากแผนฟื้นฟูเป็นเรื่องลูกหนี้เจ้าหนี้คุยกัน วันนี้เจ้าหนี้หมดไม่เหลือแม้แต่บาทเดียว ทนายความของแบงก์เออกันหมดไม่เข้าใจ " นายสนธิกล่าว

นายสนธิ กล่าวอีกว่า "คิดในใจจะมีอีกมั้ยให้มาเรื่อยๆ ไม่มีอะไรจะห้ามเลือดทุกหยดที่จะเสียสละให้สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไม่อยากจะทวงบุญคุณว่าการต่อสู้พวกเรายากเย็นแสนสาหัสแค่ไหน และว่า

"ยังไงก็ต้องสู้จะกัดก้อนเกลือกินก็ต้องสู้ ผมไม่ได้ท้อใจไม่ท้อแต่มันยิ่งทำให้ฮึกเหิมทำให้รู้ว่าชัยชนะใกล้เข้ามาแล้ว
ไม่ต้องกลัวถ้าตราบใดที่พี่น้องยังให้ใจกับ พันธมิตรมันจะเป็นอะไรไปกับแค่ความลำบากแค่นี้ และจะเห็นเองว่าบีบกันแค่ไหนจุดยืนของหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวันรายสัปดาห์ รายเดือน เอเอสทีวี จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงเป็นอันขาด ล้มละลายแล้วยังไงไม่ล้มละลายแล้วยังไงขอให้ชาติอยู่" นายสนธิกล่าว


ที่มา ผู้จัดการ

จาก thaifreenews