นักรบโกเต็กซ์ปากแข็ง ปัดรับข้อหาสุมหัวเปิดซ่องโจร พกพาอาวุธ ทำลายทรัพย์สินราชการ บุกสถานีโทรทัศน์บีเอ็นที ศาลนัดเปิดคดีเช็กบิล 19 ม.ค.นี้ ด้านอัยการ เลื่อนนัดส่งฟ้อง 9 แกนนำพันธมาร ไปปีหน้า
จากกรณีที่ อัยการพิเศษ ฝ่ายคดีอาญา 4 ส่งสำนวนยื่นฟ้องจำเลย ทั้ง 82 คน ในความผิดฐานคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานเป็นซ่องโจรและข้อหาอื่นรวม 9 ข้อหา ล่าสุดวันนี้ (18 พ.ย.) 82 นักรบศรีวิชัย ผู้ต้องหาคดีบุกรุกสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 ส.ค. ที่ผ่านมาได้เข้ารายงานตัวต่อศาลอาญารัชดาแล้วเพื่อรับฟังคำสั่งฟ้อง โดยทั้งหมดอยู่บริเวณห้องเวรใต้ถุนศาลอาญา เพื่อรอสอบคำให้การตามที่โจทก์ฟ้องว่าจะรับ หรือ ปฏิเสธ และจะทำการนัดวันตรวจพยานหลักฐานต่อไป
จากนั้น ศาลอาญารัชดา สอบคำให้การของนักรบศรีวิชัย 82 คน การ์ดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จำเลยในคดีร่วมกันเป็นซ่องโจรบุกรุกเข้าไปสถานที่ราชการ พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ ทำลายทรัพย์สินของทางราชการ และความผิดอื่นรวมอีก 9 ข้อหา จากกรณีที่ร่วมกันใช้กำลังบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยศาลได้อ่านอธิบายคำฟ้องให้จำเลยทั้ง 82 คนฟังจนเป็นที่เข้าใจแล้ว จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลจึงได้นัดตรวจพยานหลักฐานและแถลงเปิดคดีในวันที่ 19 มกราคม 2552 เวลา 09.00 น.
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อัยการเลื่อนนัดฟังคำสั่งฟ้อง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กับพวกรวม 9 คน ตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกันปลุกระดมประชาชนให้เกิดความกระด้างกระเดื่อง มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป โดยใช้กำลังประทุษร้ายก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง และเจ้าพนักงานบอกให้เลิกกระทำแล้วไม่เลิก รวม 3 ข้อหา หรือไม่ ในวันที่ 21 ม.ค.52
การ์ดม็อบโกเต็กเหิมเกริมห้ามสื่อทำเข้าทำเนียบ
ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ทำเนียบรัฐบาล ว่ายังคงมีผู้ชุมนุมปักหลักค่อนข้างบางตาอย่างมาก ส่วนการดูแลรักษาความปลอดภัย ทั้งภายในและนอกทำเนียบฯ ยังคงมีการตรวจตราอย่างเข้มงวด โดยที่ทุกประตูจะมีการ์ดพันธมิตรฯและนักรบศรีวิชัย ถืออาวุธครบมือ อาทิ มีดพก กระบองตำรวจ โล่ และวิทยุสื่อสารคนละหนึ่งเครื่อง
ซึ่งที่ชุมนุมบริเวณด้านข้างสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ได้มีกลุ่มการ์ดอาสาจำนวนหนึ่งเข้ามาสกัดไม่ให้กลุ่มสื่อมวลชนที่เข้ามาในทำเนียบรัฐบาล โดยทั้งหมดอ้างว่าจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้ามาตรวจค้นภายในทำเนียบฯ และยังเป็นคำสั่งของหัวหน้าการ์ดพันธมิตรฯด้วย โดยในระหว่างการเจรจาอยู่นั้นกลุ่มการ์ดดังกล่าว ได้ใช้ถ้อยคำและกริยาที่ไม่สุภาพ
ทั้งนี้สื่อมวลชนรออยู่บริเวณด้าหน้านานกว่า 20 นาทีโดยการ์ดยังไม่ยอมปล่อยให้กลุ่มสื่อมวลชนเข้าไปภายในพื้นที่ชุมนุม จึงได้ประสานกับแกนนำให้มาช่วยเจรจาในครั้งนี้ แต่ปรากฏว่าไม่มีแกนนำคนไหนอยู่ในพื้นที่ชุมนุม เนื่องจากแกนนำทั้งหมดได้เดินทางไปสำนักงานอัยการสูงสุด จากนั้นในเวลาต่อมาการ์ดพันธมิตรจึงปล่อยให้กลุ่มสื่อมวลชนเข้ามาได้ อ้างว่าหัวหน้าการ์ดฯเป็นผู้อนุญาต นอกจากนี้
เมื่อผู้สื่อข่าวได้นำเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นทั้งหมดไปแจ้งต่อ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธุ์ โฆษกพันธมิตร ซึ่งได้รับคำขอโทษ พร้อมกับกล่าวว่า ตนมีความเข้าใจในงานของสื่อมวลชนดี และจะนำเรื่องดังกล่าว ไปปรึกษาหารือกับแกนนำอีกครั้ง ซึ้งหากการ์ดพันธมิตรฯคนใด พูดไม่ดี หรือใช้กริยาท่าทางไม่สุภาพกับสื่อมวลชน ก็สามารถจดหมายเลขประจำตัวของการ์ดมาให้กับแกนนำได้ทันที เพราะทางพันธมิตรได้กำชับเสมอว่า ถ้าการ์ดคนใดมีการกระทำเช่นนี้ ก็จะถูกไล่ออกจากหน้าที่