WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, November 17, 2008

แฉ‘นักรบศรีวิชัย’มือบึ้ม!‘ม็อบคลองเตย’


คุ้ยปมบึ้ม!ตลาดคลองเตย เจ้าของสัมปทานรายใหม่แฉ!มือป่วนสร้างสถานการณ์ ปลุกระดมมวลชนฮือต้านแผนพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ ย้ำ 'มาเฟียคลองเตย' เจ้าของตลาดเก่าสูญเสียผลประโยชน์นับร้อยล้าน ปูดคลิปวีดีโอฉาว! ชี้ตัวมือระเบิดคล้าย ‘นักรบศรีวิชัย’

จากกรณีผู้ค้าตลาดคลองเตยชุมนุมประท้วง ปิดถนนรัชดาภิเษกใกล้แยกพระราม 4 ตั้งแต่เมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อเรียกร้องความสนใจจากรัฐบาลให้ช่วยเข้ามาแก้ไขปัญหา

หลังจากการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ได้เปิดประมูลให้บริษัทเอกชนเข้ามาพัฒนาพื้นที่บริเวณตลาดคลองเตย โดยจำแนกสัญญาไว้ คือ หลังที่ 1 (ตลาดผ้า) พื้นที่จอดรถยนต์ริมคลองหัวลำโพง ถนนพระรามที่ 4 (ตลาดอ่างทอง) รวมทั้งตลาดคลองเตยหลังที่ 2 (ตลาดสหกรณ์ฯ) ตลาดคลองเตยหลังที่ 3 (ตลาดโต้รุ่ง) และตลาดลานพื้นคอนกรีต (ตลาดหลังคาผ้าใบ) ย่านเขตคลองเตย รวมเนื้อที่ประมาณ 10.18 ไร่ เพื่อใช้ในกิจการตลาดและส่วนประกอบของตลาด

ซึ่งการท่าเรือแห่งประเทศไทยได้อนุมัติให้ บริษัท ลีเกิ้ล โปรเฟสชั่นแนล จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูลโครงการพัฒนาพื้นที่ตลาดคลองเตย ตามสัญญาเลขที่ ต. 001/2551 ลงวันที่ 29 ตุลาคม 2551

ทั้งนี้ ได้มีการชี้แจงให้กับผู้ค้าทุกรายในตลาดคลองเตย ทราบว่าการท่าเรือฯ ไม่ประสงค์ที่จะต่อสัญญาให้กับผู้เช่าตลาดรายเก่า (ผู้รับสัมปทานเดิม) โดยมีการประกาศ “เปิดประมูล” ให้ผู้ที่สนใจเข้าประมูลงานพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2551 เพื่อวางเกณฑ์กำหนดที่เหมาะสมในการประมูล

โดยมีเอกชนเข้ายื่นซองราคา จำนวน 6 ราย ได้แก่ 1.บริษัท เอ็ม เอ็ม พี โค้ทติ้งฯ 2.บริษัทโซพลัสฯ 3.บริษัทมหาโชคชัยฯ 4.บริษัท อี.เอ็ม.บิสซิเนสฯ 5.บริษัท ลีเกิ้ล โปรเฟสชั่นแนลฯ และ 6.บริษัท แอ็กโกรคอมเมอร์สฯ

สำหรับเกณฑ์ที่การท่าเรือตีกรอบไว้ ในส่วนการให้คะแนนด้านเทคนิค ต้องไม่ต่ำกว่า 75% ก่อนที่จะคัดเลือกผู้เสนอค่าตอบแทนรวมสูงสุดเป็นผู้ชนะการประมูล ซึ่งบริษัทบริษัท ลีเกิ้ล โปรเฟสชั่นแนลฯ ได้รับสัมปทานบริหารและพัฒนาพื้นที่ตลาดคลองเตย เป็นระยะเวลา 10 ปี

จากเรื่องดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจจากผู้เช่ารายเก่า ที่เคยมีผลประโยชน์อยู่ในพื้นที่ “ตลาดคลองเตย” เพราะได้ผูกขาดสัญญาเช่าพื้นที่กับการท่าเรือแห่งประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2507 จนเป็นที่มาของการชุมนุมประท้วง โดยกลุ่มที่อ้างตัวว่าเป็นผู้ค้าในตลาดคลองเตย

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลในพื้นที่ ทำให้ทราบว่า...มีคนอยู่สองกลุ่มที่มีความขัดแย้งกันเกิดขึ้น คือ ผู้รับสัมปทานรายใหม่ ที่เพิ่งทำสัญญากับการท่าเรือแห่งประเทสไทย เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2551 และกลุ่มที่สูญเสียผลประโยชน์จากการเข้ามาถือครองพื้นที่ของเอกชนรายใหม่

โดยกลุ่มที่ปักหลักประท้วงอยู่นั้น ได้มีข้อเรียกร้อง 4 ข้อ คือ 1. ให้การท่าเรือฯ ยกเลิกสัญญากับเอกชนผู้ชนะการประมูลงานพัฒนาพื้นที่บริเวณตลาดคลองเตย 10.18 ไร่ มูลค่า 613.59 ล้านบาท ข้อ 2. ให้ปลดนายพิเชฐ มั่นคง ออกจากตำแหน่งผู้ช่วย ผอ.การท่าเรือฯ โดยอ้างว่าเป็นตัวตั้งตัวตีในการทำสัญญา 3. เรียกร้องให้รัฐบาลต้องจัดการขับไล่กลุ่มบุคคลที่แต่งชุดซาฟารีออกไปให้พ้นตลาดคลองเตย และ 4. ให้รัฐบาลต้องจัดตั้งคณะกรรมการบริหารตลาดที่มีตัวแทนผู้ค้า ตัวแทนชุมชนย่านคลองเตย และผู้แทนจากรัฐบาล เข้ามาเป็นกรรมการ

ต่อเรื่องดังกล่าว นายธรรมนัส พรหมเผ่า ตัวแทนบริษัท ลีเกิ้ล โปรเฟรสชันแนลฯ เจ้าของสัมปทานพัฒนาพื้นที่ตลาดคลองเตยรายใหม่ มีข้อชี้แจงว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบริษัทฯรู้สึกเสียใจมาก ขอยืนยันว่าบริษัทฯไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด เนื่องจากบริษัทเป็นผู้ชนะการประมูลในการบริหารพื้นที่ตลาดจากการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) อย่างถูกต้อง มีการลงนามสัญญากับ กทท.เมื่อวันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอแผนบริหารตลาดภายใน 180 วันตามสัญญา ถือว่าขั้นตอนในการปฏิบัติตามสัญญายังไม่ครบถ้วน บริษัทจึงไม่มีความจำเป็นต้องไปก่อเหตุความวุ่นวายทำให้มีผู้บาดเจ็บแต่อย่างใด

“แต่ทั้งนี้ ในการเข้าบริหารพื้นที่ ได้มีกลุ่มผู้ที่เสียผลประโยชน์ ที่ไม่ใช่พ่อค้าแม่ค้า ได้ทำการขัดขวางทุกวิถีทาง เพื่อไม่ให้บริษัท ลีเกิ้ลฯ เข้าทำงานตามสัญญา จนเป็นเหตุให้บริษัทลีเกิ้ลฯ ต้องเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับบุคคลที่ไม่เคารพกฎหมาย”

ต่อมากลุ่มผู้เสียผลประโยชน์ได้ดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลปกครองกลาง เพื่อให้ศาลปกครองกลางระงับการดำเนินงานตามสัญญาของการประมูลในครั้งนี้

โดยศาลปกครองกลางมีคำสั่ง “ให้ยกคำร้อง” ขอไต่สวนฉุกเฉิน และศาลฯยังมีคำสั่ง “ไม่รับคำฟ้อง” ไว้พิจารณา และออกคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกจากสารระบบความ คดีหมายเลขดำที่ 1548/2551 และ คดีหมายเลขแดงที่ 1355/2551 ลงชื่อประทับตุลาการเจ้าของสำนวน 1.นายประพจน์ คล้ายสุบรรณ ตุลาการศาลปกครองกลาง 2.นายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองกลาง 3. นายสมภพ ผ่องสว่าง ตุลาการศาลปกครองกลาง ลงวันที่ 1 ต.ค.2551

ขณะเดียวกัน บริษัท ลีเกิ้ล โปรเฟสชั่นแนลฯ ได้ทำหนังสือประกาศแจ้งพ่อค้าแม่ค้า ให้ทราบถึงประกาศการชนะประมูลของ ซึ่งมีหนังสือแจ้งว่า จะไม่มีการขึ้นราคาค่าเช่าแผง รวมถึงไม่มีการขับไล่ผู้ค้า ที่ปฏิบัติตามสัญญาเช่า หรือการกระทำใดๆ ที่จะไม่ทำให้พ่อค้าแม่ค้า ต้องสูญเสียประโยชน์

ทั้งนี้ได้มีการสอบถามไปยัง นายพิเชฐ มั่นคง ผู้ช่วยผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย โดยมีการชี้ว่า การดำเนินการบริหารตลาดคลองเตย การท่าเรือฯได้ยกเลิกสัญญาของคู่สัญญารายเดิม 3 รายไปแล้ว และได้ลงนามในสัญญากับบริษัท ลีเกิ้ล โปรเฟสชันแนลฯ เรียบร้อยแล้ว

“การชุมนุมเกิดจากที่กลุ่มผู้ประกอบการรายเดิมที่เคยเช่าพื้นที่ของ กทท.ไม่พอใจที่ กทท.ไม่ยอมต่อสัญญาให้ตามที่กลุ่มผู้ประกอบการรายเดิมร้องขอ ถือว่าไม่ชอบธรรม เพราะที่ผ่านมากลุ่มผู้ประกอบการรายเดิมเช่าพื้นที่ของ กทท.ตั้งแต่ปี 2507 เช่าปีละ 12 ล้านบาท ล่าสุดผู้เช่ารายเดิมขอให้ กทท.ต่อสัญญาให้อีกสองครั้งๆละ 10 ปี รวม 20 ปี แต่ทาง กทท.เห็นว่าตลาดควรได้รับการปรุงปรุงใหม่เป็นตลาดที่ถูกสุขอนามัยมากขึ้น จึงต้องการเปิดให้มีการประมูลเพื่อให้เอกชนที่มีความพร้อมในการพัฒนา ปรับปรุงตลาดให้เป็นไปตามที่กทท.ต้องการ และผู้ประกอบการรายเดิมก็มีสิทธิเข้ามาร่วมประมูล แต่ไม่ยอมเข้ามาประมูล เมื่อมีรายใหม่เข้ามาดำเนินการแทนจึงเกิดความไม่พอใจจึงเป็นเหตุให้เกิดการชุมนุมขึ้น” ผู้ช่วย ผอ.การท่าเรือฯ ระบุ

‘คลิปวีดีโอ’แฉมือระเบิดหน้าคล้ายนักรบศรีวิชัย

อย่างไรก็ตาม เมื่อกลางดึกวันที่ 13 พย.ที่ผ่านมา เกิดเหตุระเบิดบริเวณตลาดคลองเตย จากการตรวจสอบมีผู้ร่วมชุมนุมได้รับบาดเจ็บรวม 12 ราย โดยระหว่างนั้นได้มี “คลิปวีดีโอ” ที่บันทึกได้ ชี้ให้เห็นใบหน้าของผู้ต้องสงสัยที่เข้าร่วมกลุ่มกับม็อบผู้ค้าคลองเตย มีลักษณะใกล้เคียง “นักรบศรีวิชัย” ที่ทำหน้าที่ “การ์ดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” โดยมีการพกอาวุธ และมีการพันผ้าพันคอสีเหลืองปิดหน้าปิดตา เพื่ออำพรางตัว

และขณะนี้ ได้มีการรวบรวมหลักฐานต่างๆ รวมทั้งวีดีโอคลิปในที่เกิดเหตุ เพื่อยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสอบสวนต่อไป

นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลที่ระบุว่า มีการจ้างวานชาวบ้านมาชุมนุม โดยจ่ายเบี้ยเลี้ยงให้วันละ 800 บาท ซึ่งเรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีกลุ่มคนร้ายขว้างระเบิดใส่กลุ่มผู้ค้าตลาดคลองเตยซึ่งมาปักหลักชุมนุมกันอยู่ที่บริเวณแยกคลองเตย ตัดถนนพระราม 4 จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากถึง 13 ราย ซึ่งเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. ของคืนวันที่ 13 พ.ย.

ทั้งนี้ หลายฝ่ายได้ตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ที่จงใจขว้างระเบิดใส่กลุ่มผู้ชุมนุมนั้นมีความต้องการอะไร จะเป็นการสร้างสถานการณ์หรือไม่ เพราะในคืนวันเกิดเหตุ แกนนำของกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มได้หายตัวไปตั้งแต่เวลา 24.00 น. ทั้งที่ก่อนหน้านี้เหล่าบรรดาแกนนำจะปักหลักอยู่ในเต๊นท์ชุมนุมตลอดทั้งคืน และหลังจากเกิดเหตุระเบิดทราบจากแม่ค้าในตลาดว่า มีแกนนำคนหนึ่งได้พูดออกโทรโข่งว่า หากแม่-พ่อค้าคนใดเข้าร่วมโครงการกับบริษัท ลีเกิ้ล โปรเฟสชั่นแนล จำกัด ตลาดจะโดนระเบิดอีกลูก สร้างความหวาดกลัวให้กับเหล่าบรรดาพ่อค้า แม่ค้าในตลาดเป็นอย่างมาก

ขณะที่ บริษัท ลีเกิ้ล โปรเฟสชั่นแนล จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูลพัฒนาและบริหารพื้นที่ตลาดท่าเรือ-คลองเตย และได้รับสญญาลงทุน บริหารและประกอบการจากการท่าเรือแห่งประเทศไทยตามสัญญาเลขที่ ต.001/2551 ในวันที่ 29 ตุลาคมแล้วนั้น ทางบริษัทได้มีนโยบายที่จะพัฒนาตลาดท่าเรือคลองเตยทุกตลาดให้มีสภาพดี โดยมีแผนปรับปรุงตลาดตามข้อสัญญที่ยื่นไปในซองประมูล ทั้งนี้บริษัท ลีเกิลฯยังคงให้สิทธิ์กับแม่ค้า พ่อค้าที่ค้าขายจริงในตลาดเป็นเจ้าแผงเอง โดยไม่ต้องจ่ายค่าเช่าแผงรายวันเหมือนเมื่อก่อน

นอกจากนี้ ทางบริษัท ลีเกิ้ลฯได้แจ้งไปยังผู้ค้าว่าทางบริษัท จะไม่ทำการเก็บค่าเช่าและค่าธรรมเนียมต่างๆจากผู้ค้าทั้งหมดทุกราย แต่ยังมีการเรียกเก็บค่าเช่าแผงจากผู้ค้าคนเดิม ซึ่งคู่สัญญาเก่าได้ถูกบอกยกเลิกไปแล้ว ขณะที่มีการข่มขู่จากกลุ่มมาเฟียที่มาเก็บเงิน หากไม่จ่ายก็ไม่มีสิทธิขาย

ทางด้าน นายนิติธร ล้ำเหลือ ตัวแทนสภาทนายความ ได้เข้าไปตรวจสอบและได้พูดคุยกับกลุ่มผู้ชุมนุมต้องการอะไรทำไมมีการชุมนุมยืดเยื้อ กลุ่มผู้ชุมนุมคัดค้านว่าทางบริษัทลีเกิ้ลฯเป็นบริษัทที่ชนะการประมูลมาอย่างไม่โปร่งใส ด้านนายนิติธรจึงได้เข้าไปตรวจสอบและพูดคุยกับนายธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานกรรมการบริษัทลีเกิ้ล โปรเฟสชั่นแนล จำกัด

ซึ่งนายธรรมนัสได้ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับรายละเอียดการประมูลทั้งหมด ซึ่งในการร่วมประมูลมีบริษัทที่เข้าร่วมการประมูลทั้งหมด 6 บริษัท และบริษัทของตนก็เป็นบริษัทที่การท่าเรือเลือกให้เข้ามาพัฒนาตลาด

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่บริษัท ลีเกิ้ล ฯชนะการประมูล กลุ่มพ่อค้าเก่าได้จ้างวานกลุ่มมาเฟีย มาก่อกวนพ่อค้า แม่ค้าในตลาด ไม่ให้เข้าร่วมโครงการกับผู้ประกอบการรายใหม่ที่ประมูลได้

นายนิติธร กล่าวว่า หลังจากทราบข้อมูลที่ทั้งสองฝ่ายชี้แจง ก็จะรวบรวมหลักฐานนำไปตรวจสอบซึ่งคาดว่าจะทราบข้อเท็จจริงเร็วๆนี้

ขณะที่รายงานข่าวแจ้งว่ากลุ่มผู้ชุมนุมที่มีการปักหลักชุมนุมอยู่นั้น ไม่ใช่พ่อค้า แม่ค้าที่ค้าขายอยู่ในตลาดคลองเตยจริง แต่เป็นกลุ่มผู้ที่เสียผลประโยชน์จากการประมูล