แผนม็อบศพกระจาย "พันธมาร"รังควาญคนตาย แห่ร่างไร้วิญญาณป่วน บชน. ม็อบโกเต็กซ์ ตจว. รับลูกแผนมาร เตรียมขนคนบุกกรุง สีกากีโวยเสื้อเหลืองรวมหัว สกัดไม่ให้เข้าตรวจสอบหลักฐาน "เสธ.แดง"สวนหมัด ซัดพธม.เต้าข่าว นายพลคนดังอยู่เบื้องหลังเหตุบึ้ม
จากกรณีเหตุการณ์ระเบิดที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อเช้าวันนี้ (20 พ.ย.) เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บกว่า 20 ราย ซึ่งกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้กล่าวหาว่ามีนายพลคนดังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ครั้งนี้นั้น พล.ต.ขัยติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวว่า ตนไม่รู้สึกตกใจ หรือ ตื่นเต้นกับข้อมูลที่ทางกลุ่มพันธมิตรฯ ออกมาเปิดเผยว่า มีนายพลคนดังไปร่วมวางแผนที่ห้างเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า ก่อนที่จะนำอาวุธสงคราม เอ็ม 79 มายิงถล่มใส่กลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งทั้ง “จ่าหลิม” และ “จ่าเทพ” คือ ลูกน้องของตนที่ทำงานร่วมกับตนเป็นคนขับรถให้ ซึ่งทั้งคู่ไม่ได้มีพิษมีภัยอะไร
“จ่าหลิม เป็นนักดื่มเหล้า ซึ่งจะมีอาการเมาทั้งวันทั้งคืน และจ่าหลิมก็อายุมากแล้วตอนนี้ก็นับวันที่จะเกษียณอายุราชการจะเอาแรงที่ไปไปถืออาวุธสงครามมายิง ส่วนจ่าเทพ ก็ได้ลาออกจากราชการไปแล้ว ซึ่งตัวของจ่าเทพ ก็มีน้ำหนักเป็น 100 กิโลกรัม เดินเหินก็ค่อนข้างลำบาก ดังนั้นข้อมูลที่กลุ่มพันธมิตรฯ มาเปิดเผยล้วนแต่มั่วสิ้นดี” พล.ต.ขัตติยะ กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ อ้างแหล่งข่าวจากหน่วยข่าวกรองทหารบกว่า มีการวางแผนก่อนที่จะนำอาวุธสงครามมาถล่มกลุ่มผุ้ชุมนุมนั้น พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า มันอ้างไปเรื่อยๆ ตอนนี้มันพยายามดิ้นจึงได้กุเรื่องต่างๆ ขึ้นมา ทั้งๆ ที่ข้อมูลที่ได้มาไม่ได้มาจากหน่วยข่าวกรองทหารบก แต่เป็นการแต่งขึ้นมาเอง และตนก็ไม่เคยไปห้างเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า ทั้งนี้จ่าหลิมและ จ่าเทพ ใครๆ ก็รู้จักทั้งสองคนเป็นอย่างดี รวมถึง 5 นายพลที่ร่วมขึ้นเวทีปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรฯ ก็รู้จักดีกันเป็นอย่างดีแทบทั้งสิ้น
"ไม่สงสัยเลยว่าทำไมเขาถึงได้มาอ้างเพราะรู้ๆ กันอยู่ว่ากลุ่มพันธมิตรฯ หมดความชอบธรรมไปตั้งนานแล้ว ก็พยายามหาเรื่องมาผูกโยงเพื่อเรียกคะแนนจากประชาชนให้ร่วมสังคกรรมขณะนี้ประชาชนเขาเบื่อหน่าย และรู้พฤติกรรมของแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นอย่างดี" พล.ต.ขัตติยะ กล่าว
ด้าน พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล (ผบช.ส.) กล่าวถึงการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณทำเนียบรัฐบาลว่า ทุกฝ่ายเป็นห่วงกับสถานการณ์ขณะนี้ และได้มีการประสานด้านการข่าวหน่วยข้างเคียงโดยตลอด ขณะนี้สิ่งที่สำคัญต้องทำให้ได้ 3 เงื่อนไขคือ มีข่าวเคลื่อนไหวหรือมีเหตุร้ายเกิดขึ้นต้องตรวจสอบหาพยานหลักฐาน ให้สอดคล้องกับการข่าวหาตัวคนกระทำความผิด ลดเงื่อนไขความขัดแย้งของทั้งสองฝ่ายลงมา และเมื่อเกิดเหตุต้องปล่อยให้ตำรวจเข้าไปสอบสวนหาพยานลักฐานในที่เกิดเหตุตามหลักนิติวิทยาศาสตร์ ไม่ใช้มาสกัดกั้นไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปในสถานที่ที่เกิดเหตุ ไม่ให้ตำรวจเข้าไปทำงาน กว่าจะตรวจหาพยานหลักฐานต้องใช้เวลานาน 3-4 ชั่วโมง จนทำให้พยานหลักฐานขาดหายยากต่อการทำงาน
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ กว่า 300 คน นำโดยนางมาลีรัตน์ แก้วก่า อดีตสมาชิกวุฒิสภาสกลนคร เคลื่อนพลมายังหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาลพร้อมกับศพของ นายเจนจิต กลัดสาคร อายุ 48 ปีผู้เสียชีวิตและเครือญาติจากเหตุปาระเบิดที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด พร้อมทั้งขอความเป็นธรรมให้แก่ผู้เสียชีวิต ทั้งนี้เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมมาถึงจุดดังกล่าวได้นำหีบศพออกจากรถตู้และยกมาไว้ด้านหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมทั้งมีการปราศรัยนานกว่า 10 นาทีก่อนจะเคลื่อนศพไปยังวัดมกุฏกษัตริยาราม เพื่อบำเพ็ญกุศลทางประเพณีต่อไป
ด้าน นายอดิศักดิ์ จันทวิชานุวงศ์ แกนนำพันธมิตรนครสวรรค์ กล่าวว่า พันธมิตรนครสวรรค์พร้อมสำหรับการนัดชุมนุมใหญ่ที่ทำเนียบฯ เตรียมระดมพลให้มากที่สุด โดยค่ำคืนนี้เตรียมประกาศเชิญชวนพันธมิตรที่รับชมจอ ASTV ที่หน้าอุทยานสวรรค์ แต่ครั้งนี้จะไม่ใช้กลยุทธ์เต็มแล้วออก เพราะประชาชนคนนครสวรรค์จะรอนาน แต่จะใช้วิธีโทรศัพท์ไล่ตามตัว เพื่อเช็คความพร้อมของคนและรถบัสให้ระดมพลสัก 50 คนแล้วมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯทันที ปกติแล้วจะนัดเดินทางมีอยู่ 2 จุดคือ หน้าอุทยานสวรรค์ใจกลางเมืองสี่แคว และร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อดงมูลเหล็ก โดยเบื้องต้นกำหนดเดินทางในศุกร์เย็น และ เช้าวันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายนนี้
ขณะที่ นายทวี ทองถัน แกนนำพันธมิตรพิษณุโลก กล่าวว่า เตรียมพันธมิตรพิษณุโลกเข้าไปชุมนุมใหญ่ที่ทำเนียบฯ คาดว่า ครั้งนี้จะมากกว่าทุกครั้งไม่ต่ำกว่า 2 รถบัส โดยกำหนดรถออกหน้าห้างเก้าแสน ข้างสถานีรถไฟจังหวัดพิษณุโลก เวลา 09.00 น.ของวันที่ 22 พ.ย.นี้อย่างแน่นอน โดยมีกลุ่มของสหภาพการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ร่วมด้วยจำนวนมาก
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า กลุ่มพันธมิตรกระบี่ ได้เช่าเหมารถบัส จำนวน 1 คัน เข้ากรุงเทพฯแล้วเพื่อสมทบกับพันธมิตรส่วนกลางล่วงหน้าและจะรวมพลอีกจำนวนหนึ่ง เข้าสมทบ ในวันที่ 23 พ.ย.นี้