WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Tuesday, November 18, 2008

กฎหมาย ต้องศักดิ์สิทธิ์เสียที


คอลัมน์ : ตะแกรงข่าว

โดย *อัฐศิริ*


ปวงชนชาวไทยได้แสดงออกถึงความอาลัยและจงรักภักดีเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างหาที่สุดมิได้ และเป็นที่ประจักษ์ของประชาคมโลกที่ได้ชมการถ่ายทอดสดและการเสนอข่าวของสำนักข่าวชั้นนำของโลก…แต่สำหรับคนไทยส่วนหนึ่ง ที่แสดงความมิบังควร ด้วยการหมิ่นเบื้องสูง กำลังถูกจับตาดูจะถูกจัดการอย่างไร
ผมเชื่อโดยสุจริตใจว่า ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ต่างได้รับรู้และสะเทือนใจอย่างยิ่ง กับสิ่งที่ “ม็อบโกเต๊กซ์” บังอาจจาบจ้วง เป็นความอัปยศ มิอาจให้อภัยกันได้เลย ถ้ากฎหมายใช้ไม่ได้ ไม่มีความศักดิ์สิทธิ์ แล้วประเทศชาติจะอยู่ได้อย่างไร จะให้ย่ำยีกฎหมายกันไปถึงไหน

ที่มีข่าวว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำตัวป่วน ที่สร้างความวุ่นวายอัปยศ เดินทางไปเพ่นพ่านยังต่างประเทศ ทั้งๆ ที่มีคดีติดตัวอย่างมากมายนั้น เป็นสิ่งที่ประชาชนคนไทยที่มีความจงรักภักดีและต้องการเห็นความยุติธรรมต่างต้องการคำตอบ

เพราะมีคำถามว่า สนธิ ลิ้มทองกุล ยิ่งใหญ่มาจากไหน เพราะทุกวันนี้ก็ตกเป็นผู้ต้องหา จะ ได้รับอภิสิทธิ์เป็นกรณีพิเศษหรือไม่อย่างไร

อย่าปล่อยให้ปัญหาเหล่านี้คาใจคนไทยที่รักความถูกต้องอีกต่อไป เพราะจะไม่เป็นผลดีด้วยประการทั้งปวง ไม่ว่ากับใครทั้งนั้น

กรณีที่ “ม็อบโกเต๊กซ์” กระทำการลบหลู่พระบรมรูปทรงม้า สังคมได้มีการเรียกร้องให้ แม่ทัพนายกองที่ผ่านการศึกษาจาก โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าฯ ได้ออกมาแสดงถึงความรักและหวงแหนสถาบัน ที่ถูกคนอัปรีย์ใช้มนต์ดำกระทำย่ำยี

ผมว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าผู้ที่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในพระพุทธเจ้าหลวง ที่ทรงเลิกทาส พึงจะคิดและกระทำได้

วันนี้ขอถามไปยังบรรดานักกฎหมายทั้งน้อยใหญ่บ้าง โดยเฉพาะบรรดาหัวหงอกหัวดำที่เอนเอียงเข้ากับฝ่ายพันธมิตรพันธมาร ว่ามีความรู้สึกอะไรหรือไม่ กับการที่ พระบาทสมเด็จพระปิยมหาราช พระผู้ทรงปรับปรุงกฎหมายและการพิพากษาคดี ให้เป็นที่เชื่อถือของชาวต่างประเทศยิ่งขึ้น

เพราะพระองค์เห็นว่า การที่ไม่ยอมให้คนต่างด้าวมาขึ้นศาลไทย เป็นเหตุให้เสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขต อำนาจกงสุลเข้ามามีอำนาจเหนือการปกครองของเจ้าของประเทศ โดยใช้กฎหมายบ้านเมืองอื่นมาตัดสินคดีพิพากษา

จนมีชาวจีน ชาวญวนและชาติอื่นๆ พากันขอขึ้นทะเบียนเป็นคนในบังคับพวกฝรั่ง เพื่อไม่ต้องขึ้นศาลไทยเวลามีคดีพิพาท

พระองค์ทรงแยกศาลออกจากอำนาจการบริหารมารวมไว้ที่กระทรวงยุติธรรมแห่งเดียว

จากการจาบจ้วงย่ำยี วันนี้บรรดานักกฎหมายจะเคลื่อนไหว ตอบโต้การกระทำที่ไม่บังควรของ “ม็อบโกเต๊กซ์” อย่างไรหรือไม่

พรรคประชาธิปัตย์ เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่จะผ่านเลยไปไม่ได้เช่นกัน ผมคิดว่า เป็นเรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์คาดไม่ถึงว่า จะถูก ป.ป.ช. “เอาจริง” ชี้มูลความผิดกับ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และมีตำแหน่ง รองหัวหน้าพรรค

ต้องเรียกว่า ถึงคราว “เสื่อม” ของพรรคประชาธิปัตย์ แล้วจริงๆ เพราะมี ส.ส. ไปปกป้อง นายสนธิ ลิ้มทองกุล เรื่องการนำ “โกเต๊กซ์” ลบหลู่ พระบรมรูปรัชกาลที่ 5 ที่คนไทยเคารพเทิดทูนกันทั้งบ้านทั้งเมือง เมื่อ ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ยกขึ้นมาปรึกษาในสภา

ก็ไม่รู้ว่าคนของพรรคประชาธิปัตย์คิดอย่างไร จึงออกมาปกป้องม็อบชั่ว ทั้งๆ ที่ผู้คนทั้งประเทศก่นด่า และคลางแคลงในความจงรักภักดีอย่างที่ประกาศปาวๆ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา

ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ยินดีจะเกลือกกลั้วกับ “โกเต๊กซ์” ก็จะไม่มีความความสกปรกอะไรที่จะทำไม่ได้ จึงเป็นเรื่องที่จ้องจับตาดู

การเมืองในสภาและการเมืองนอกสภาตอนนี้ กระพริบตาไม่ได้จริงๆ ครับ

เพราะการชุมนุมประท้วงในทำเนียบรัฐบาลของกลุ่มพันธมิตรฯ ถึงจุดตีบตันลงทุกที จนต้องปรับกลยุทธ์ให้ “แกนนำ” ผลัดกันออกไปปลุกขวัญสาวกในต่างจังหวัด เพราะจะหวังให้เข้ามาร่วมชุมนุมประท้วงอย่างเมื่อก่อนนั้น ถูกปิดประตูลั่นดานอย่างหนาแน่น

เพราะความอัปยศที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงของบรรดาแกนนำ ที่ก่อนนี้ก้าวร้าว กักขฬะ จองหอง ไม่ยอมใคร

ร้อนถึงบรรดาทายาทเผด็จการต้องออกมา “เร่งมือ” กันขนานใหญ่เพื่อดิสเครดิตรัฐบาล มีการส่ง-การรับกันเป็นทอดๆ และเร่งเวลาในการทำงานให้เร็วที่สุด ดึงความสนใจให้ไปอยู่ที่กลุ่มคนและองค์กรที่เผด็จการแต่งตั้งจัดตั้งขึ้นมา เพื่อให้ “ม็อบโกเต๊กซ์” ตั้งหลักตั้งตัวให้ได้ เพราะลงทุนลงแรงไปมากแล้ว แต่ผลงานยังไม่ปรากฏ ให้เห็นเป็นรูปธรรม

แต่ดูจะเกิดขึ้นได้ยาก เพราะผู้คนในสังคมในประเทศ รู้แล้วว่า ใครที่คิดดี ใครที่คิดชั่วทำชั่ว
เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นมันฟ้องอย่างชัดเจน

มีแฟกซ์จากแฟนของ “ประชาทรรศน์” ที่ใช้ชื่อว่า ณ ปลายปากกา ส่งมาถึง คุณสุคนธ์ ชัยอารีย์ บรรณาธิการข่าวภูมิภาค อ่านดูแล้ว อารมณ์เดียวกันก็ขอนำมาถ่ายทอดบอกไปถึงบรรดาคนเสื้อแดง ให้รับทราบกัน

สีแดง ไม่ตะแบงความรุนแรง
หนึ่งพฤศจิกา ห้าหนึ่ง จึงมาพบ
มิได้ รบกับใคร ให้หมองศรี
เป็นสำนึก พื้นฐาน ญาณความดี
เสื้อแดงนี้ สัญลักษณ์ “นักประชาธิปไตย”
นัยหนึ่ง วันครอบครัว “ความจริงวันนี้”
ปราศราคี จากผู้ที่ คิดสงสัย
จิตอยากร่วม รู้ปรองดอง ของชาวไทย
บันทึกไว้ เป็นประวัติศาสตร์ ชาติสีแดง
อุดมการณ์ ต่อต้าน การรัฐประหาร
อุดมการณ์ มิคลานพบ “คบ” คนกำแหง
อุดมการณ์ ไม่กักขฬะ ละรุนแรง
แม้ตายแห้ง เป็นซาก จากโลกไป
อมาตย์ เผด็จการ งานเปรตผี
อมาตย์เผด็จการ อัปรีย์ มีเงื่อนไข
อมาตย์เผด็จการ จ้องฆ่า บ้าทำลาย
หากมีไว้ มันใฝ่ร้าย “ประชาธิปไตย”
หนึ่งพฤศจิกา ต่างมารวม ร่วมและพบ
ไม่น้อมนบ อมาตย์เผด็จการ จากขุมไหน
มหาชน เรือนแสน มาแดนไกล
ที่ใหญ่ใหญ่ ราชมังคลากีฬาสถาน พานแคบเอย

เพราะฉะนั้น ใครก็ตามที่พยายามปกป้องคนที่คิดร้ายทำลายชาติศาสนาและสถาบันพระกษัตริย์ พึงสำเหนียกว่า “พลังคนเสื้อแดง” จะไม่ยอมให้ใครก็ตาม ทั้งที่ออกมาเสนอหน้าและเป็นอีแอบชักใยบงการอยู่เบื้องหลัง กระทำการย่ำยี่ประเทศชาติ กระทำการอันมิบังควรต่อสถาบัน หรือสร้างความวุ่นวายให้กับประเทศชาติอีกต่อไป

มาถึงวันนี้ กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย ต้องไม่เลือกใช้กับฝ่ายที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับ “ม็อบโกเต๊กซ์” หรือผู้สูญเสียอำนาจ ที่ต้องการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย หรือเพื่อการล้างแค้นกันเป็นส่วนตัวเท่านั้น

กฎหมายต้องมีความศักดิ์สิทธิ์ มีผลบังคับใช้อย่างไม่เลือกปฏิบัติอีกต่อไป ครับผม