ที่มา ประชาทรรศน์
คอลัมน์ : บทบรรณาธิการ
ท่ามกลางความสับสนจากข่าวคราวเรื่องของการถอดยศ อดีตนายกรัฐมนตรี “พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร” ขณะที่สถานการณ์ทางการเมืองร้อนฉ่า ในทุกมิติ มีทั้งการเคลื่อนไหวด้านประชาธิปไตย ผสม ปนเป ไปกับความเคลื่อนไหวที่อาจจะก่อให้เกิดความรุนแรง ในเทศกาล “ปาไข่”
บ้านเมืองไม่ได้อยู่ในภาวะปกติสุขเท่าไรนัก อันเนื่องมาจากความสับสนทางการเมือง ซึ่งประชาชนหลายคนยากที่จะปรับตัวได้ทันท่วงที
ผู้ใหญ่ในบ้านเมือง และ นักการเมืองบางคน บางฝ่าย มีความคึกคะนอง คิดว่าเป็นชัยชนะที่เบ็ดเสร็จเด็ดขาด หลายครั้งมีการกระทำอันเป็นการท้าทายพี่น้องประชาชน โดยไม่ประหวั่นพรั่นพรึงความเห็นที่แตกต่างกัน กับเป้าหมายที่ต้องการจะไปสู่ความสมานฉันท์
พฤติกรรมการเปิดบ้าน เพื่อให้นักการเมืองและทหาร ตบเท้าพรึบพรับ แสดงออกถึงความย้อนยุคในความเป็น “อำมาตยาธิปไตย”
การประกาศท้าทายไม่กลัวฝูงชน ที่ประท้วงไม่พอใจ “ปาไข่” ใส่หน้า บอกโดนปาเท่าไร ไปพื้นที่นี้เท่านั้น พร้อมเอื้อนเอ่ยถ้อยคำ “จะมากไปแล้ว”
ซ้ำร้ายกว่านั้น !!! คือ “การเติมฟืนใส่กองไฟ” โหมกระพือกับการให้ นายตำรวจ ออกข่าว ปลดยศ “อดีตนายกรัฐมนตรี”
ทั้งหมดนี้คือ เส้นทางสุดแสนจะอันตราย!!! ของ “รัฐบาล มาร์ค 1”
จริงอยู่...กรณีการปลดยศ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็นเรื่องตัวบุคคล และว่าไปตามกระบวนการกฎหมาย การหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาอาจจะถูกตำหนิว่าเป็นการคลั่งไคล้ตัวบุคคลจนไม่ลืมหูลืมตา !!! มากกว่าระบบ หรือ ประเทศชาติ
แต่ต้องยอมรับว่า อานิสงส์จากการบริหารประเทศ 5 ปีกว่าๆ ได้มีการปรับเปลี่ยนโฉมหน้าประเทศไปในทางที่ดีกว่ารัฐบาลชุดก่อนๆ หน้านี้ในทุกมิติ ยกเว้นข้อครหาเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งที่จริงมีข้อครหาลักษณะเช่นนี้ในทุกรัฐบาลของประเทศไทยเหมือนกัน
ต้องยกนิ้วให้...ท่านผู้บัญชาการทหารบก “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ที่ออกมากล่าวเตือนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ให้มีการพิจารณาเรื่องการปลดยศ อย่างละเอียดรอบคอบในทุกมิติอีกครั้ง
“บิ๊กป๊อก” สำทับทิ้งท้ายด้วยว่า ปัญหาความขัดแย้งของคนในชาติ ทุกฝ่ายต้องมีความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา โดยจะต้องลืมความขัดแย้งเพื่อให้ประเทศผ่านพ้นวิกฤติ และเกิดความสงบสุข ในขณะที่สื่อมวลชนก็ต้องช่วยกันชี้แนะ และสื่อสารข้อมูลกับประชาชน รวมถึงแกนนำกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวต่างๆ เพื่อให้มีความเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน และมีความคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติ มากกว่าประโยชน์ส่วนตัว
“พูดง่าย ทำยาก” แต่อย่างไรเสียต้องขอให้กำลังใจ ทุกท่าน ทุกคน ทุกฝ่าย โดยเฉพาะ ผู้ใหญ่ในบ้านเมือง และ นักการเมือง จะทำอะไรต้องคำนึงถึงความรู้สึกร่วมของคนในชาติ หันหน้าเข้าหากัน บ้านเมืองไทยในยามนี้จะฝ่าพ้นวิกฤติไปได้