ที่มา ประชาทรรศน์
คอลัมน์ : สามเหลี่ยมดินแดง
* หนังสือพิมพ์ประชาทรรศน์ ฉบับประจำ วันจันทร์ที่ 12 มกราคม 2552 จงรัก ภักดีราช รายงานตัว พร้อมด้วยข่าวสารมากมายที่เทน้ำหนักไปทาง ร้ายมากกว่าดี สำหรับชีวิตของประชาชนคนไทย และ ชีพจรของประเทศไทย ที่นับวันจะเข้าใกล้อาการโคม่าไปทุกวัน เพราะ คนเสื้อแดง กำลังเดินรอยตาม ขบวนการพันธมิตรประชาชนปล้นประชาธิป ไตย แบบก้าวต่อก้าว ชนิดที่เรียกว่า ข้าเลว เพราะเอ็งชั่ว
*เช้าวันนี้ ก็คงรู้กันแล้วว่า “เกมปาไข่” ของคนเสื้อแดง ทำให้ สถานะของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ดีขึ้น หรือ เลวลง โดยดูได้จากผลการเลือกตั้งที่ออกมา ทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด โดยเฉพาะในภาคอีสาน และภาคเหนือ หากได้มาน้อยกว่าที่เสียไป ไม่ใช่แค่ขาดทุน หากแต่เป็น สัญญาณอันตรายของพรรคเพื่อไทย และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่น่าสยดสยอง แต่หากได้กลับคืนมาครบตามเป้า ที่ต้องเต้นเร่าๆ เห็นจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เพราะ คนเสื้อแดง จะได้ทีโหมเข้าขยี้ทันที
* ขอย้ำเตือนกันอีกครั้งว่า คนเสื้อแดง ต้องมีสติ และตั้งสติให้ดี ก่อนที่จะพากันเคลื่อนขบวนเข้ารกเข้าพงเข้าดงแห่งความเกลียดชัง ของประชาชนคนทั่วไป ดังเช่นที่ขบวนการพันธมิตรฯ เดินตกอยู่กลางดง จนทุกวันนี้ก็ยังถอนตัวออกมาไม่ได้ ลำพังสมองที่มีอยู่ หากไม่ใช้ควบคู่กับสติ คนเสื้อแดง ก็จะไม่ต่างจากกระทิงบ้า เห็นอะไรขวางหูขวางตาก็จะปรี่รี่เอาหัวเข้าขวิด ทั้งเหนื่อยเปล่า ทั้งหัวแตกฟรี และจะพ่ายแพ้ในที่สุด ทั้ง คนเสื้อแดง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และอุดมการณ์ประชาธิปไตย เพราะ ประชาธิปไตย คือการทวงถามสิทธิของตัวเอง โดยไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น
* ขอย้ำเตือนกันอีกครั้งว่า พรรคประชาธิปัตย์ โดย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะในฐานะ หัวหน้าพรรค หรือในฐานะ นายกรัฐมนตรี ก็แล้วแต่ ต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับ สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อให้ประชาชนได้เห็นว่า นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ปกป้องผู้กระทำความผิด และเป็นผู้สร้างสองมาตรฐาน จำคำ จงรัก ภักดีราช ไว้ให้ดี ว่า สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ คนนี้ จะเป็นหอกข้างแคร่ ที่คอยทิ่มแทงรัฐบาล และ นายกรัฐมนตรี จน ไม่กล้าอวดโอ่ เป็นรัฐบาล และผู้นำที่ยืนอยู่ในแนวทางนิติธรรม และนิติรัฐ อีกต่อไป
* น่าเห็นใจ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ตกอยู่ในวงล้อมของบริวารฝ่ายบู๊ ที่จ้องแต่จะ ปะ ฉะ ดะ ไม่เลือกสถานที่ ไม่เลือกเวลา และ ไม่เลือกหน้าอินทร์ หน้าพรหม โดยไม่ดูทิศทางลมให้ดีว่าชั่วโมงนี้ นาทีนี้ ควรจะสู้ซึ่งหน้า หรือ ควรจะสู้พลาง ถอยพลาง เพื่อหาทาง หายุทธศาสตร์ ยุทธวิธีกันใหม่ จำได้ไหม เวียดกง ซึ่งเปรียบเสมือนมด เอาชนะ อเมริกัน ซึ่งตัวโตเท่าช้าง ได้ ด้วยยุทธวิธี “เอ็งมา ข้ามุด เอ็งหยุด ข้าแหย่ เอ็งแย่ ข้าตี” การออกมาท้าต่อยท้าตีในขณะที่อ่อนแอ และเสียเปรียบทุกด้าน เช่นที่ทำอยู่ทุกวันนี้ มีแต่แพ้กับแพ้ เชื่อผมเถอะ!
* การทำ สงครามไข่ไก่ ได้ผลอย่างมากก็แค่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามเลอะเทอะเปรอะเปื้อน และคนเสื้อแดง ได้แค่ความสะใจ แต่ถามว่าชนะหรือไม่ คำตอบก็คือ ไม่ชนะ และยิ่งเข้าใกล้ประตูสู่ความพ่ายแพ้ทุกนาทีที่เกม “ปาไข่” ยังคงดำเนินต่อไป ไม่คิดกันบ้างหรือ ทำไม คนระดับ ชวน หลีกภัย จึงไปปรากฏตัวในทุกพื้นที่ที่ คนเสื้อแดง รอ “ปาไข่”
* เมื่อยุทธศาสตร์เอาตัวเข้าล่อ ได้ผล คนเสื้อแดงเดินเข้ามาติดกับดัก บัญญัติ บรรทัดฐาน และแกนนำของประชาธิปัตย์ ก็พากันเดินสาย แยกย้ายกันไปทั่วประเทศ เอาตัวเข้าล่อให้คนเสื้อแดง แสดงพฤติกรรมเกะกะเกเร ให้คนทั้งประเทศได้เห็น เป็น ยุทธวิธีทำลายคนเสื้อแดงอย่างง่ายๆ แบบไม่ต้องลงทุน
* อดตั้งคำถามไม่ได้ว่า พรรคเพื่อไทย ทุกวันนี้มีกันแค่ 3 คน คือ เฉลิม อยู่บำรุง จตุพร พรหมพันธุ์ และ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เท่านั้นหรือ? แล้วแกนนำคนอื่นๆ ที่เคยเดินกร่างคับพรรคสมัยเป็นรัฐบาล หายหัวไปไหนหมด แบบนี้เรียกว่า มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ไม่ร่วมต้าน ใช่ไหม ? หากเป็นกันเช่นนี้ ก็ยกตำแหน่ง หัวหน้าพรรค ให้ เฉลิม เลขาธิการพรรค ต้อง จตุพร และ โฆษกพรรค ยกให้ ณัฐวุฒิ น่าจะเหมาะ ใครเห็นแย้ง ยกมือขึ้น
* ที่ต้องเตือนกันดังๆ ก็คือ หากพรรคเพื่อไทย ยังเล่นเป็นแค่ 2 บทบาท คือ ปลุกม็อบคนเสื้อแดง กับ เดินตามคนเสื้อแดง มัวหมกมุ่นกับเกมการเมืองข้างถนน ไม่สนใจการเมืองในรัฐสภา อีกไม่ช้าไม่นาน พรรคเพื่อไทย ที่มี ส.ส. เกือบ 200 คน จะต้องกลายเป็น พรรคการเมืองที่อ่อนแอที่สุด เพราะถูกคนเสื้อแดงบังคับให้เล่นการเมืองข้างถนน เพื่อความสะใจของกองเชียร์ ในขณะที่รัฐบาลจะทำงานด้วยความสบายใจ เพราะ ฝ่ายค้านติดใจการอภิปรายหน้าสภา มากกว่าในห้องประชุมสภา
* บทเรียนสอนใจ วันเกณฑ์ม็อบเสื้อแดง ปิดสภา แต่สกัดกั้นการแถลงนโยบายรัฐบาล ไม่ได้ ทำให้เสียโอกาสอย่างมาก ที่จะใช้เวทีสภา เปิดแผลประชาธิปัตย์ แม้จะไปเปิดโรงแรมห้าดาว เปิดอภิปรายนอกสภา ก็ได้แค่ความสะใจในหมู่พวกเดียวกันเอง ที่ได้ระบายอารมณ์ใส่กัน แต่เมื่อคำนวณค่าใช้จ่าย ค่าเช่าโรงแรม ค่าไฟ ค่าแอร์ ค่าอาหารแล้ว ปรากฏว่า เจ๊งไม่เป็นท่า ได้ไม่คุ้มเสีย เพราะสาระของการอภิปรายไม่ได้กระทบแก้วหูประชาชน แม้แต่น้อย
* จงรัก ภักดีราช กำลังรอดู รายการทีวีสีแดง หรือ ดีทีวี ที่จะเป็นช่องทางการสื่อสารของ คนเสื้อแดง กับพรรคเพื่อไทย และเครือข่ายคนรัก ทักษิณ จะสนุก หรือ ตื่นเต้น มากน้อยแค่ไหน ยังไม่กล้าคาดเดา แต่ที่จะเกิดขึ้นแน่ๆ โดยไม่ต้องเดา ก็คือ ผู้ดำเนินรายการ และ บริษัทเจ้าของจานดาวเทียม จะถูกฟ้องร้องคดีหมิ่นประมาทกันทุกวัน เหมือนเช่นที่ วีระ มุสิกพงศ์ กับ น้องๆ และ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ถูกฟ้อง อยู่ในศาลเกือบ 10 คดี ในห้วงเวลาเพียงแค่ 4 เดือนที่ทำรายการในช่อง NBT
* ร่ำลือกันมาหนาหูว่า ยงยุทธ ติยะไพรัช กับ เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แตกหักกันชนิดไม่อาจจะร่วมงานกันได้อีกแล้ว นับเป็น ข่าวร้ายซ้ำซากของพรรคเพื่อไทย ที่จนถึงวันนี้ไม่รู้จะฝากความหวังไว้กับใคร ยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ ก็อยากจะลาออกจากหัวหน้าพรรค วันละ 3 เวลาหลังอาหาร ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ก็ยังหาไม่ได้ ที่สำคัญ ผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายประจำเดือนของ ส.ส. เกือบ 200 คน รวมแล้วไม่มากไม่น้อย หย่อนๆ ไม่กี่พัน ครบ 10 ล้านบาท ก็หายหัวไปพร้อมกับคำสัญญา
* เซียนการเมืองทุกคนจับตาดู วันที่ 14 มกราคม นี้ ด้วยใจระทึก เมื่อ พรรคภูมิใจไทย นัดแถลงข่าวใหญ่ เปิดตัว ส.ส. ที่สมัครเข้าเป็นสมาชิก แว่วมาว่า นอกจาก กลุ่มเพื่อนเนวิน จะยกทีมเข้ามาร่วมครบถ้วนทุกคน แล้ว จะ มี ส.ส. กลุ่มเพื่อนเนวิน ในพรรคการเมืองอื่นๆ มาปรากฏตัว ในฐานะผู้สังเกตการณ์ ด้วย การเมืองก็แบบนี้ล่ะ น้ำมา ปลากินมด น้ำลด มดกินปลา... ฮาๆๆๆๆ