ที่มา ไทยรัฐ
เฮ้ยไอ้น้อง เอ็งต้องมองไปที่จุดหมายปลายทางอย่างเดียวนะ อย่าวอกแวก อะไรที่เกิดระหว่างทางอย่าไปสนใจ สถานการณ์จะเพี้ยนไปเพี้ยนมาก็แค่หมากหลายชั้น หลอกตาคู่ต่อสู้และคนดู แต่ที่สุดเลย คนกำหนดเกมเล่นเขาปักธงไว้แล้ว”
ครับ ถึงตรงนี้ผมคงต้องเสียค่าบูชาครูให้กับเซียนการเมืองเจ้าของประโยคข้างต้นนี้
เพราะเซียนการเมืองคนที่ว่า พูดกับผมมาตั้งแต่วันตัดสินคดียุบพรรคไทยรักไทย ดองเค็มสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ล้างบางเครือข่ายของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ฝุ่นควันปฏิวัติรัฐประหารยังไม่ทันจางดี
ของแท้ แผนบันได 4 ขั้น
เป้าหมายผลักดันพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลในโอวาทอำมาตย์ กำหนดกระบวนการขับเคลื่อนประเทศไทยภายใต้รูปแบบรัฐราชการ
นาทีนี้ใกล้ความจริงกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ไปแล้ว
ย้อนแกะรอยกันมาตั้งแต่แผนบันไดขั้นแรกรัฐประหาร บันไดขั้นสอง ยุบพรรคไทยรักไทย แบนนักเลือกตั้งอาชีพ
ในสังกัด “นายใหญ่” เดินเกมลึกสั่งการใต้ดินหลังเลือกตั้งใหญ่ ปลายปี 2550 ให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนจัดรัฐบาลร่วมกับพรรคชาติไทยและพรรคเพื่อแผ่นดิน
โดยมีทหารเป็นพี่เลี้ยงประคองเกมอยู่เบื้องหลัง
แม้จะก้าวพลาดตกบันได และก็เป็นคนชื่อ “บรรหาร ศิลปอาชา” ที่เจ็บปวดกว่าใคร ถูกพันธมิตรฯ อย่างพรรคประชาธิปัตย์ตีท้ายครัวพื้นที่ภาคกลางไปหลายเขต โดยเฉพาะจังหวัดชลบุรี ฐานใหญ่ของ “กำนันเป๊าะ” นายสมชาย คุณปลื้ม ที่ว่าแข็งโป๊ก ยังถูกตีแตกกระเจิง
ตัวเลขผิดเป้าหมาย สุดท้ายด้วยเงื่อนไขบังคับ ก็ต้องซมซานกลับไปจับขั้วตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชนกอดคอล่มหัวจมท้ายกับเครือข่าย “ทักษิณ”
และนั่นก็นำมาซึ่งมหันตภัยครั้งใหญ่ของชีวิต โดนโทษประหารทางการเมืองในคดียุบพรรค จากมังกรกลายเป็นมังกือโดนเด็ดหัวเด็ดหาง
แต่ “บรรหาร” ก็เจ็บไปคนเดียว ในขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ ถึงจะไม่เข้าเป้าตามแผน แต่ก็ไม่ได้ขาดทุน แถมยังได้พี่เลี้ยงคอยช่วยแอบตกปลาในบ่อเพื่อน ค่อยๆรุกเงียบเข้ายึดหลายจังหวัดภาคกลางฐานใหญ่ของมังกรสุพรรณบุรี
สะสมแต้มรอจังหวะให้พี่เลี้ยงอุ้มขึ้นบันไดขั้นสุดท้ายตามแผน
รัฐบาลพรรคเดียว.
“กำปั้นหยก”