กรุงเทพฯ 10 พ.ค. - “จักรภพ” เผยเตรียมออกฏห้ามสื่อของรัฐเสนอข่าวสนับสนุนการรัฐประหาร หากฝ่าฝืนถือผิดวินัย ระบุเป็นการสร้างความแตกแยก ขณะที่ “สุวิช สุทธิประภา” ยอมรับสื่อเป็นกลางน้อยลง เพราะผลประโยชน์และอำนาจ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น. ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ได้จัดสัมมนาทางวิชาการ “บทบาทสื่อกับความเป็นกลางในยุคสังคมแตกแยก (ความคิด)” โดยนายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาตอนหนึ่งว่า ต้องการเห็นสื่อมีความรับผิดชอบต่อสังคม ไม่ใช่การตอกลิ่มให้เกิดความแตกแยกเพียงอย่างเดียว ในฐานะที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลสื่อภาครัฐทั้งกรมประชาสัมพันธ์และสถานีโทรทัศน์ NBT ในสัปดาห์หน้าจะปรับระเบียบกฎเกณฑ์ภายในให้ข้าราชการและพนักงานทุกคนว่า ไม่ให้เสนอข่าวสนับสนุนการปรัฐประหาร หากสื่อภาครัฐเชียร์ให้มีการรัฐประหาร จะถือว่ามีความผิดทางวินัย ความเห็นที่แตกต่างกันสามารถทำได้ แต่ต้องไม่ทำลายระบอบประชาธิปไตย ส่วนวิธีแก้ไขคือ จะต้องเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามามีบทบาทในการทำงานสื่อให้มากขึ้น รวมถึงสนับสนุนให้มีสื่อทางเลือกมากขึ้น ด้านนายสุนัย จุลพงศธร ประธานคณะกรรมการประชาสัมพันธ์การแก้ไขรัฐธรรมนูญพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า สื่อมวลชนถือเป็นส่วนหนึ่งมในการนำเสนอข้อมูลไปยังประชาชนและมีบทบาทต่อความเปลี่ยนแปลงทางความคิด จึงต้องวางตัวเป็นกลาง เพราะแม้ข่าวที่ออกมาจะผิดแต่วัฒนธรรมความเชื่อของคนในสังคมก็จะเชื่อสื่อหนังสือพิมพ์มาก สื่อที่ไม่เป็นกลางกำลังจะทำความลำบากให้สังคม จึงขอให้ยึดสิทธิเสรีภาพ ไม่ปลุกระดมทางความคิดหรือแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ส่วนนายสุวิช สุทธิประภา ผู้จัดการส่วนสร้างสรรค์ สำนักข่าวไทย มองว่าสื่อไทยมีความเป็นอิสระสูง และปัจจุบันมีการแบ่งค่ายที่เกิดจากธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้น การรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนจึงต้องเลือกรับ ยอมรับว่าความเป็นกลางของสื่อมีน้อยลง เพราะมีการนำเสนอข่าวเพื่อผลประโยชน์และอำนาจที่เป็นอันตรายต่อสังคม สำหรับประเด็นการปรับคณะรัฐมนตรี นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเข้าข่ายอาจถูกปรับด้วยนั้น นายจักรภพ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา หากปรับแล้วการทำงานของรัฐบาลสามารถเดินหน้าต่อไปได้ก็ยินดี ส่วนจะปรับใหญ่หรือเล็ก อยู่ที่นายกรัฐมนตรีพิจารณา.- สำนักข่าวไทย
อัพเดตเมื่อ 2008-05-10 16:02:48