อดีตประธานสภาฯ ฟ้องศาล ไม่ได้รับความเป็นธรรมจาก กกต. หลังขึ้นเบิกความต่อศาลฎีกา แผนกคดีเลือกตั้งวันนี้ ในคดีเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง ชี้ชัดมีกระบวนการจัดฉาก – แทรกแซงจากฝ่ายทหาร คมช. วันนี้ (14 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร และส.ส.ระบบสัดส่วน กลุ่มที่ 1 พรรคพลังประชาชน ได้เดินทางไปยังศาลฎีกา แผนกคดีเลือกตั้ง เพื่อเบิกความต่อศาลในคดีที คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งนายยงยุทธ ซึ่งในวันนี้ ศาลได้นัดพยานไต่สวนจำนวน 2 ปาก ได้แก่ นายยงยุทธ และนายชูชาติ จันทวาลย์ อดีตที่ปรึกษานายยงยุทธ โดยก่อนหน้าที่นายยงยุทธจะมาถึงศาลฎีกา นายชูชาติได้เข้าเบิกความต่อศาลแล้ว
ทั้งนี้ นายยงยุทธ มีสีหน้าชื่นมื่นและดูปราศจากความกังวลโดยไม่มีการให้สัมภาษณ์ใดๆ
ต่อมา นายยงยุทธ ให้การว่า ไม่ได้กระทำผิดตามข้อกล่าวหากรณีอาจเกี่ยวข้องกับการแจกจ่ายทรัพย์สินในการเลือกตั้ง เมื่อเดือนธันวาคม 2550
“ผมไม่เคยติดต่อกับกลุ่มกำนัน เพราะหลังรัฐประหาร ผมก็เดินทางไปยังต่างประเทศจนกระทั่งกลับมาช่วยงานพรรคช่วงเลือกตั้ง...ไม่มีความจำเป็นต้องให้เขามาช่วยเหลือสนับสนุนการเลือกตั้ง” นายยงยุทธ กล่าวต่อหน้าศาลฎีกาฯ
อีกทั้งให้การต่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเพราะมีกลุ่มบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกัน ต้องการกล่าวหาเขาว่าทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และนอกจากนี้ ยังไม่ได้รับความเป็นธรรมจาก กกต.ในคดีนี้ โดยมีการแจ้งข้อกล่าวหาอย่างรวดเร็ว และไม่ให้เวลาเพื่อชี้แจง
ก่อนหน้านี้ นายพิชิฏ ชื่นบาน ทนายความ นายยงยุทธ เปิดเผยว่า การสืบพยานคัดค้านจำนวน 2 ปาก คือ นายยงยุทธ และ นายชูชาติ ในคดีที่ กกต.เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง นายยงยุทธ และ น.ส.ละออง ติยะไพรัช ส.ส.เขต 3 จ.เชียงราย พรรคพลังประชาชน น้องสาว จะมีการสืบต่อในช่วงบ่าย ซึ่งประเด็นการชี้แจงของ นายยงยุทธ ในวันนี้ได้ชี้ให้ศาลเห็นว่า ยังมีกระบวนการจัดฉากและการแทรกแซงของฝ่ายทหาร ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ทหารของ คมช.ในขณะนั้น
ทั้งนี้ ในส่วนของผู้คัดค้านจะต้องรอคำสั่งว่า ศาลจะมีพารพิจารณาออกหมายเรียกพยาน ตามที่ผู้คัดค้านร้องขอหรือไม่ ซึ่งจะต้องรอผลการพิจารณาดังกล่าวในวันที่ 20 พฤษภาคมนี้
อย่างไรก็ตาม 1 ในพยานที่ผู้คัดค้านขอให้มาให้การเพิ่มเติม คือ พ.อ.ธนัท ปัญญา ซึ่งขณะนั้น ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าฯ ฝ่ายความมั่นคง จ.เชียงรายด้วย