WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Tuesday, May 13, 2008

“จักรภพ” โวยถูกบิดเบือนพาดพิงเบื้องสูง

วันที่ 12 พ.ค. เมื่อเวลา 16.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจักรภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีกล่าวผ่านในรายการสนทนาประสาสมัครถึงเรื่องที่มีคนนำเอาสถาบันมาเป็นเงื่อนไขมาโจมตีนายจักรภพว่า ถือเป็นความกรุณาให้ความเป็นธรรมในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ซึ่งจะจัดทำคำแปลที่ถูกต้องของคำบรรยายที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในเร็ววันนี้ เพื่อใช้ยืนยัน เพราะตามเว็บต่างๆ มีการนำมาเผยแพร่แปลผิด แปลถูก บางเรื่องก็ใส่ความ เมื่อจัดทำเอกสารเสร็จจะนำไปมอบให้พนักงานสอบสวนด้วยตัวเอง เพราะอยากให้เรื่องนี้จบเร็วที่สุด เพราะเป็นการใส่ความ เชื่อว่ามี 2 กลุ่ม คือจงใจหาเรื่องเพื่อให้รัฐบาลมีปัญหา ส่วนกลุ่มที่ 2 คือคนที่เชื่อว่าตนเป็นอย่างที่ถูกกล่าวหา ขอยืนยันว่าไม่มีใครในรัฐบาลชุดนี้ที่มีพฤติกรรมเช่นนั้น ขอร้องให้กลุ่มคนดังกล่าวคิดถึงบ้านเมืองเป็นหลัก อย่าเห็นแต่ความแค้น คนที่ทำเจตนาต้องการให้เกิดเรื่อง และคิดว่าจะได้ผลทางการเมือง แต่อยากจะบอกว่าคนที่คิดจะหาเรื่องเดี๋ยวก็รู้ว่าของจริงออกมา นำปาฐกถาของตนไปแปลผิด หยาบคาย ล้วนแต่เป็นความเท็จ และจงใจบิดเบือน

ย้ำมีกลุ่มจงใจสร้างเหตุนำสู่ปฏิวัติ

เมื่อถามว่า นายกฯระบุว่ามีคนหัวเถิกอยู่ในกระบวนการจ้องล้มรัฐบาลด้วย นายจักรภพตอบเลี่ยงว่า คงเกี่ยวกันหลายคน ระบุไม่ได้ และไม่ทราบว่าหัวเถิกเป็นใคร รัฐบาลจะไม่ไปเล่นเกมการเมืองกับใคร แต่หากดึงเบื้องสูงลงมาก็ต้องชี้แจง เพราะถือเป็นความเสียหาย และจะกลายเป็นปัญหาลุกลามต่อไป กระบวนการโค่นล้มและจะนำไปสู่การรัฐประหารก็เหมือนเดิม ย้อนไปดูช่วงก่อนเหตุการณ์ 6 ต.ค. 19 ที่นายสุรินทร์ มาศดิตถ์ ระหว่าง เป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ ก็โดนกล่าวหาว่าไม่จงรักภักดี กับเหตุการณ์ก่อน 19 ก.ย. 49 แต่คนที่อยู่เบื้องหลังไม่ได้พัฒนาความคิด ตลอด 30 ปียังใช้วิธีการเหมือนเดิม ส่วนการห้ามสื่อของรัฐเสนอข่าวเชียร์การทำปฏิวัตินั้น ที่ผ่านมาหลายสื่อพยายามจะชูทหารเข้ามาเกี่ยวข้องกับการปฏิวัติ จึงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเก่า สื่อสามารถวิจารณ์รัฐบาลได้ แต่ไม่ควรเชียร์ให้เกิดการยึดอำนาจสนับสนุนรัฐประหาร เพราะล้ำเส้นเกินไปและเกินเลยไปมาก ควรมีการจัดระเบียบ มิฉะนั้น จะละเมิดรัฐธรรมนูญผิดกฎหมายบ้านเมือง และใครที่กล่าวหาว่าตนไปแทรกแซงสื่อ ก็อยากให้ออกมาแสดงตัวเลยว่าเห็นด้วยกับการปฏิวัติรัฐประหาร ใครที่เห็นว่ามีสิทธิที่สนับสนุนรัฐประหาร ก็แสดงตัวออกมาได้ เพื่อให้สังคมรับทราบว่าสื่อรายใดที่เห็นว่ามีสิทธิเรียกทหารมายึดอำนาจก็ให้แสดงตัว

ปชป.จี้นายกฯสอบพฤติกรรม “จักรภพ”

ทางด้านความเคลื่อนไหวของพรรคฝ่ายค้าน วันเดียวกัน ที่พรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการประชุมหารือแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ได้นำคำบรรยายของนายจักรภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระหว่างบรรยายต่อที่ประชุมชมรมนักข่าวต่างประเทศ เมื่อเดือน กันยายน ปี 2550 โดยแกนนำพรรคเห็นว่าคำบรรยายดังกล่าวเป็นเรื่องอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของพรรคที่จะต้องนำข้อมูลทั้งหมดส่งให้กับนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เตรียมทำหนังสือถึงนายก-รัฐมนตรี เกี่ยวกับข้อกังวลดังกล่าว พร้อมแนบซีดี 1 แผ่นและคำถอดเทปภาษาไทยอย่างละเอียดรวม 8 หน้ากระดาษเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ รวมถึงพฤติกรรมของนายจักรภพที่สะท้อนให้เห็นในหลายอย่างว่าไม่ศรัทธาต่อระบอบพระมหากษัตริย์ เช่น การนำเอาสารคดีการล่มสลายของราชวงศ์เนปาลมานำเสนอผ่านทางสถานีโทรทัศน์ NBT เพื่อให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาประกอบการตัดสินใจปรับคณะรัฐมนตรีที่กำลังจะมีขึ้นด้วย รวมทั้งเสนอให้นายก-รัฐมนตรีให้ความสำคัญตรวจสอบเรื่องนี้เป็นการเร่งด่วน ว่าพฤติกรรมของนายจักรภพเข้าข่ายเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขในเชิงลบ และสมควรที่จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายด้วยหรือไม่ โดยหนังสือที่จะส่งถึงนายกรัฐมนตรีโดยเร็วที่สุด

“สาทิตย์” คุ้ยหลักฐานถอด “สมพงษ์”

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานคณะกรรมการวิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการยื่นถอดถอนนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รมว.ยุติธรรม กรณีการสรรหาคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) ที่ล่าช้าเกินเวลาที่กฎหมายกำหนดว่า ประเด็นที่ฝ่ายค้านจะพิจารณาต่อไปคือ ช่วงวันที่ 19-24 มี.ค.2551 ที่ปลัด กระทรวงยุติธรรมทำหนังสือถึง รมว.ยุติธรรมนั้น รมว.ยุติ-ธรรมมีเจตนาใดไม่ทำการตั้งคณะกรรมการดังกล่าวให้จบภายในเวลาที่กำหนด ซึ่งมีข้อพิสูจน์ว่า รมว.ยุติธรรมน่า จะมีเจตนาฝ่าฝืน เพราะกรณีการสั่งย้ายนายสุนัย มโนมัย-อุดม จากอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ไปเป็นเลขาธิการ ป.ป.ท.นั้น นายสมพงษ์อ้างว่าเป็นเรื่องเร่งด่วน เพราะต้องเข้ามาจัดการตามโครงสร้างของ ป.ป.ท.ให้เสร็จทันตามกฎหมาย ดังนั้น ฝ่ายค้านจะขอพิจารณาข้อมูลอีก 1-2 วัน เพื่อดูว่า 5 วัน ที่นายสมพงษ์ได้รับหนังสือจากปลัดกระ-ทรวงนั้น นายสมพงษ์ติดปัญหาใดจึงไม่สามารถดำเนินการได้ หรือมีเจตนาที่เข้าข่ายฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ส่วนการยื่นถอดถอนนายจักรภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีนั้น ฝ่ายค้านจะยื่นเรื่องต่อประธานรัฐสภาในวันที่ 15 พ.ค.นี้ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจร่างคำถอดถอน

ปชป.จี้ พปช.จัดการ “การุณ”

นายสาทิตย์กล่าวว่า ในวันที่ 14 พ.ค. จะทวงถามในที่ประชุมสภาฯถึงการผลการสอบสวนของคณะกรรม-การสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีการทะเลาะวิวาทระหว่างนายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรคพลังประชาชน กับนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ที่ผลสอบมีการระบุว่ามีการทำร้ายร่างกาย และด่าทอกันจริง ดังนั้น พรรคพลังประชาชนจะมีมาตรการจัดการกับนายการุณหรือไม่ เนื่องจากนายการุณเคยพูดว่าหากมีการทำร้ายร่างกายจะยอมลาออกจากการเป็น ส.ส. หวังว่านายการุณจะยอมรับผิดกล่าวขอโทษกลางที่ประชุมสภา เรื่องนี้จะเป็นการพิสูจน์สำนึกและยางอายของพรรคพลังประชาชน หากนายการุณไม่ยอมรับผลสอบ พรรคก็จะไม่ เรียกร้องจิตสำนึกทางศีลธรรมกับนายการุณ แต่การกระทำที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นการคุกคามการทำหน้าที่ ส.ส.

“การุณ” สาบานให้แม่ตายถ้าทำผิด

ทางด้านนายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม.พรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงผลสอบของคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงที่ระบุว่า เป็นผู้มีความผิดในการทะเลาะกับนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ว่า ไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ เนื่องจากผู้ใหญ่ตีกรอบไม่ให้สัมภาษณ์ เพราะเกรงจะเป็นประเด็นก่อให้เกิดความเสียหายแก่พรรค เรื่องนี้ให้เป็นหน้าที่ของ พ.อ. อภิวันท์ วิริยะชัย ประธานการตรวจสอบเป็นผู้ให้สัมภาษณ์ แทน และผลสอบดังกล่าวเพียงระบุว่า “เชื่อได้ว่า” เท่านั้น ไม่ระบุชัดว่า ตนกระทำผิดจริง ไม่อยากให้โฟกัสความผิดมาที่ตนคนเดียว เพราะไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าตนถีบนายสมเกียรติจริง ขอให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากตำรวจสอบสวนแล้ว พบความผิดจะลาออกจาก ส.ส.หรือไม่ นายการุณตอบว่า “ผมไม่ออก เพราะผมไม่มีความผิด ที่ผ่านมาผมก็ท้าให้นายสมเกียรติสาบาน แต่เขาไม่ยอมสาบานเลย ถ้าจะสาบานก็ขอให้แม่ผมตายก็ได้ เพราะผมรักแม่ของผม สมมติถ้าตำรวจตัดสินว่าผมผิดจริง ก็แค่โดนปรับเท่านั้น แต่ผมคงไม่ลาออกเพราะผมไม่ได้ทำผิด” นายการุณกล่าว