เป็นอันเรียบร้อยโรงเรียน “ชิดชอบ” เมื่อสภาผู้แทนฯ มีมติเห็นชอบให้นายชัย ชิดชอบ เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรด้วยมติ 283 ต่อ 158 โดยพรรคฝ่ายค้านคือประชาธิปัตย์ได้ส่งนายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นคู่ชิง
และก็เป็นไปตามคาด เมื่อพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคยกมือสนับสนุนแบบไร้ปัญหา จะก็มีพรรคชาติไทยนี่แหละที่ไม่โหวตให้
“บรรหาร ศิลปอาชา” หัวหน้าพรรคไม่เข้าประชุมด้วย และได้บอกล่วงหน้าไปแล้วว่าจะไม่ไป เพราะไม่พอใจพรรคพลังประชาชนที่ไม่ให้เกียรติ ปล่อยให้เด็กออกมาประสานงานขู่ด้วยว่าหากไม่ยกมือโหวตให้นายชัยจะได้เห็นดีกัน
อย่างนี้มันก็ต้องเต้นเป็นธรรมดา
นายบรรหารระบุว่าตำแหน่งประธานสภาผู้แทนฯ นั้นเป็นตำแหน่งที่มีเกียรติ เป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ เคยติติงตัวบุคคลไปแล้ว ตำแหน่งนี้ไม่ใช่เอาใครมาเป็นก็ได้ต้องให้คนที่มีความรู้ความสามารถมาทำหน้าที่
และพาดพิงด้วยคำถามที่ว่า พรรคพลังประชาชนใครเป็นคนควบคุมกันแน่ ผู้ใหญ่ของพรรคไปไหนกันหมด ทีตอนเชิญร่วมรัฐบาลมากันเต็มไปหมดทั้งหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค นายทรงศักดิ์ ทองศรี เป็นใคร รู้กันอยู่ว่าเป็นลูกน้องนายเนวิน ชิดชอบ
“พรรคชาติไทยไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ ไม่ใช่พรรคกระจอก”
เรียกว่าหัวหน้าพรรคชาติไทยอัดชุดใหญ่ๆด้วยความไม่พอใจ แน่นอนว่าความไม่พอใจของนายบรรหารนั้นน่าจะมาจาก 2 ประเด็น
1. ไม่พอใจวิธีการดำเนินการของพลังประชาชนที่รวบหัวรวบหาง ไม่มีการปรึกษาหารือ ไม่สนใจพรรคร่วมรัฐบาลหรือใครหน้าไหนทั้งนั้น คือจะเอาแบบนี้ใครจะทำไม นอกจากนั้นแกนนำพรรคระดับผู้ใหญ่ของพรรคก็ไม่ทำหน้าที่ประสาน
2. เรื่องตัวบุคคลซึ่งคงไม่เห็นด้วยที่จะเสนอให้นายชัยเป็นประธาน เพราะไม่เหมาะสมน่าจะหาคนที่เหมาะสมมากกว่านี้ อีกทั้งรู้กันอยู่ว่านายบรรหารนั้นมีความรู้สึกไม่ดีกับนายเนวินมานานแล้วนับแต่ “ชิ่งหนี” จากชาติไทย
ยิ่งนายทรงศักดิ์มาประสานงานและข่มขู่ยิ่งเพิ่มระดับความไม่พอใจ ไม่ให้ผู้ใหญ่มาประสานงานแต่ดันส่งลูกน้องเนวินมาทำอย่างนี้
มันหมายความว่ายังไง
ดังนั้นตัวเลขคะแนนที่ออกมาจึงเป็นไป 283-158 ขาดของพรรคชาติไทยที่งดออกเสียง ยังไม่ถึงกับไปลงคะแนนให้พรรคฝ่ายค้าน
เป็นไมตรีที่จะร่วมรัฐบาลกันต่อไป แต่มันก็บ่งบอกถึงอนาคตต่อไปได้ว่าคงไม่มั่นคงต่อกันเท่าใดนัก เพราะนอกจากเรื่องนี้แล้วยังมีประเด็น “รัฐธรรมนูญ” ที่ยังไม่กล้าจะพูดกันอย่างตรงไปตรงมาเท่านั้น แต่เชื่อว่าต่อไปนี้
อะไรก็คงไม่ง่ายอย่างที่ผ่านมาแน่
ในพลังประชาชนเองนั้นก็อย่างที่บอกเอาไว้นั่นแหละ... เมื่อมติกรรมการบริหารพรรคออกมาอย่างนั้นก็น่าจะรู้ดีว่าเพราะอะไร
ฝ่ายที่สนับสนุนนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ก็ไม่ได้จริงจังที่จะคัดค้าน เพราะนายสมศักดิ์ก็ไม่ได้ดิ้นสู้หรือพยายามจะเป็นคู่ชิง พูดง่ายๆยอมแพ้ตั้งแต่ชื่อนี้โผล่ออกมาแล้ว บรรดากองเชียร์ นายสมศักดิ์ก็คงเล่นไปตามบท สร้างราคาก็เท่านั้นเอง
หรืออย่างที่หัวหน้าพรรคชาติไทยตั้งคำถามว่าทำนองว่าพรรคนี้ใครใหญ่จริง ป่านนี้คงจะได้คำตอบไปแล้ว.
"สายล่อฟ้า"