WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Sunday, May 11, 2008

แฉอีก!“ไอ้หัวเถิก” ดึงฟ้าต่ำ หมิ่นสถาบัน ปั่นข่าวปฏิวัติหวังโค่นรัฐบาล

นายกรัฐมนตรี ลากใส้ " ไอ้หัวเถิก " อยู่เบื้องหลังการปลุกปั่นข่าวปฏิวัติ และหมิ่นสถาบัน เพื่อหวังโค่นล้มรัฐบาล เตรียมฟ้อง 2 นสพ.กุข่าวยกเขาพระวิหารแลกบ่อน้ำมัน

นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "สนทนาประสาสมัคร" เมื่อช่วงเช้าตอนหนึ่งว่า มีคนพยายามโค่นล้มรัฐบาลด้วยการปล่อยข่าวต่างๆนานา โดยระบุว่า "ไอ้หัวเถิก" คือคนที่พยายามปลุกปั่นสร้างข่าวให้เกิดความเสียหาย ดึงฟ้าลงต่ำ และทำลายสถาบัน เป็นคนปล่อยข่าวว่าผู้บัญชาการเหล่าทัพเข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่บ้านสี่เสาเทเวศน์ ในคืนวันที่ 6 หลัง 6 พรรคร่วมรัฐบาลนัดรับประทานอาหารมื้อค่ำ

โดย ยังปล่อยข่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้เรียกตนให้เข้าเฝ้าฯ เพื่อสั่งให้จัดการกับนายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และยังมีการใส่ร้ายตนกับเจ้าอาวาสวัดยานนาวา ว่าจะมีการทำให้เจ้าอาวาสวัดยานนาวาต้องเสียหาย

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีที่ หนังสือพิมพ์รายวัน 2 ฉบับ ลงข้อความโดยกล่าวหาถึงการนำพื้นที่เขาพระวิหารที่อยู่ในเขตพื้นที่ทับซ้อนระหว่างประเทศไทยและประเทศกัมพูชา แลกกับการขุดน้ำมันว่า มันจะบ้ากันไปใหญ่แล้วตนไม่เคยคิดถึงประเด็นดังกล่าวแต่อย่างใด และขณะนี้ได้ให้ทนายความทำการเตรียมเอกสารฟ้องร้องกับไปยังหนังสือพิมพ์แล้ว ซึ่งตนจะไม่ทำการชี้แจงใดๆ นอกจากจะเข้าชี้แจงต่อศาลเท่านั้น

อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีได้ชึ้แจงในประเด็นการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหาร ว่าการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารของประเทศกัมพูชา เป็นเรื่องของการเมืองภายในประเทศที่ต้องการสร้างคะแนนความนิยมเพื่อหวังผลในการเลือกตั้ง ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยแต่อย่างใด

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวเสริมว่า จากการเข้าพบสมเด็จฮุน เซ็น นายกรัฐมนตรี ประเทศกัมพูชานั้น รัฐบาลไทยได้ยืนยันกับรัฐบาลกัมพูชาแล้วว่าหากทางฝ่ายมรดกโลกมีข้อกำหนดต้องนำพื้นที่ทับซ้อนทางประเทศไทยไปด้วย ถึงจะขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกได้ รัฐบาลกัมพูชาก็จะต้องนำชื่อประเทศไทยอยู่ในการจดทะเบียนมรดกโลกร่วมกันด้วย