ทางด้านความคืบหน้าเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ วันที่ 16 พ.ค.นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงาน พรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มี ส.ว.บางส่วนระบุว่า รายชื่อประชาชน 150,000 ชื่อ ของคณะกรรมการประชาชนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ (คปพร.) ไม่สามารถนำมาใช้ในการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ เพราะยังไม่มี พ.ร.บ.รองรับ ว่า เป็นความเห็นของ ส.ว. แต่ เท่าที่ฟังจากแกนนำกลุ่ม คปพร. เจตนาเขาได้รวบรวมรายชื่อมา เพื่อเสนอร่างกฎหมาย เพื่อให้ ส.ส.รับร่างของเขาไปพิจารณา ถ้าเห็นว่าเหมาะสม ส.ส.และ ส.ว.ทั้งหลายก็เข้าชื่อกันเสนอญัตติเข้าสู่สภาฯ ถ้าเป็นเช่นนี้ปัญหาเรื่องรายชื่อประชาชนก็หมดปัญหาไป ข้อสรุปว่าจะใช้ร่างของวิปรัฐบาลหรือร่างของ คปพร. ก็ให้สมาชิกสภาฯไปหารือกัน ร่างของ คปพร.เป็นร่างแบบสั้น และมีบทเฉพาะกาลที่แตกต่างกันพอสมควร สาระไม่เหมือนกัน แต่ดูแล้วร่างมาโดยคนที่มีความรู้พอสมควร ส่วนกรณีที่มีกลุ่มข้าราชการอาวุโสเสนอให้รัฐบาลออก พ.ร.ก.ยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 50 แล้วมาใช้ปี 40 แทนนั้น ไม่เคยเห็นใครทำกัน รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด อยู่ดีๆไปออก พ.ร.ก.ไปยกเลิก ไม่น่าจะทำได้ในทางกฎหมาย ทั้งนี้ตนจะนำมติวิปรัฐบาลที่เสนอให้เปิดประชุมสภาฯสมัยวิสามัญตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย. เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552 และร่างกฎหมายที่จำเป็นต้องตราตามรัฐธรรมนูญไปเสนอรัฐบาล ส่วนจะมีการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความพร้อมของ ส.ส. ให้ ส.ส.คุยกันเอง ตั้งประธานวิปฯต้องฟังพรรคร่วม เมื่อถามถึงข้อยุติในการแต่งตั้งประธานวิปรัฐบาลคนใหม่ที่มีสมาชิกบางส่วนเสนอชื่อนายชูศักดิ์ให้ไปเป็นด้วย รมต.ประจำสำนักนายกฯตอบว่า ได้เรียนผู้บริหารพรรคแล้วว่าเป็นรัฐมนตรีอยู่ ประธานวิปรัฐบาลงานหนัก ต้องเป็นประธานการประชุมวันจันทร์ วันพุธและพฤหัสบดี ต้องเฝ้าโยงสภาฯ ถ้าหากให้ไปทำหน้าที่ประธานวิปรัฐบาล ก็คงไม่สามารถจะทำหน้าที่รัฐมนตรีที่ต้องรับผิดชอบงานประจำอยู่มากมายได้ คงไม่เหมาะสม ควรไปพิจารณาท่านอื่น และก็ไม่ได้เสนอชื่อใคร แต่ในพรรคมีคนมีคุณสมบัติอยู่หลายคนก็ดูให้ดี อยู่ระหว่างขั้นตอนที่ผู้ บริหารเลือกสรรอยู่ เมื่อถามว่า นายสุขุมพงศ์ โง่นคำ รองประธานวิปรัฐบาล ประกาศชัดเจนว่าหากไม่ได้เป็นประธานวิปรัฐบาลจะลาออก จะทำให้ในพรรคเกิดรอยร้าวเพิ่มอีกหรือไม่ นายชูศักดิ์ตอบว่า รายชื่อทั้งหลายที่ปรากฏขึ้นมา รวมทั้งนายสุขุมพงศ์ ก็มีความรู้ความสามารถทั้งนั้น ยังไม่อยากจะให้ไปพูดกันถึงขนาดนั้นว่า ใครจะรับหรือไม่รับคนนั้นคนนี้ ทุกคนก็เป็นคนดีทั้งนั้น ผู้บริหารพรรคคงจะดูความเหมาะสมและต้องฟังเสียงกัน ทั้งในพรรคพลังประชาชนและพรรคร่วมรัฐบาลด้วย อ่านรายละเอียด ไทยรัฐ