กำนันฝ่าย “ยงยุทธ” ขึ้นให้การศาล เข้า กทม. เพราะ กำนัน “ชัยวัฒน์” ชักชวน พร้อมจ่ายค่าเดินทางและที่พักให้ ไม่ใช่มาเอาเงิน 2 หมื่น เพราะมีฐานะพอ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ วันที่ 12 พฤษภาคม เวลา 09.00 น. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง สนามหลวง นายกำธร โพธิ์สุวัฒนากุล ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา พร้อมองค์คณะรวม 3 คน ออกนั่งบัลลังก์สืบพยาน คดีหมายเลขดำที่ ลต. 38 /2551 ระหว่าง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้ร้อง และ นายยงยุทธ ติยะไพรัช ส.ส.สัดส่วนกลุ่มที่ 1 และรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน และ น.ส.ละออง ติยะไพรัช น้องสาวนายยงยุทธ ส.ส.แบ่งเขต 3 จ.เชียงราย พรรคพลังประชาชน ผู้คัดค้านที่ 1-2 กระทำผิดพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา ( ส.ว.) พ.ศ. 2550 ด้วยการทุจริตการเลือกตั้ง แจกเงินให้กับกลุ่มกำนัน อ.แม่จัน จ.เชียงราย
โดยนายยงยุทธ ได้ใช้ตัวแทนแจกเงินซื้อเสียงเพื่อให้มีการลงคะแนนเลือกผู้สมัครของพรรคประชาชน ซึ่ง กกต. ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง นายยงยุทธ หลังให้ใบแดง และสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ ในเขต 3 จังหวัดเชียงราย ขณะที่ น.ส.ละออง ถูกให้ใบเหลือง
โดยวันนี้ เป็นการนัดสืบพยานครั้งแรกของฝ่ายนายยงยุทธ และ น.ส.ละออง ซึ่งนายยงยุทธ ไม่ได้เดินทางมาศาลเพื่อขึ้นเบิกความ แต่อย่างใด มีเพียงนายพิชิฏ ชื่นบาน ทนายความของนายยงยุทธ นำพยานขึ้นเบิกความรวม 4 ปาก คือ ด.ต.เทพรัตน์ เขื่อนคุนา นายตำรวจติดตามนายยงยุทธ นายอดิศร เรือนคำ นายดวงแสง มูลกาศ และนายประสิทธิ จินดาคำ กำนันในพื้นที่ อ.แม่จัน จ.เชียงราย เพื่อแก้ข้อกล่าวหา จัดเตรียมกำนันเดินทางเข้ากรุงเทพฯเพื่อพบกับนายยงยุทธ รวมถึงหักล้างคำให้การของนายชัยวัฒน์ ฉางข้าวคำ กำนัน ต.จันจว้า อ.แม่จัน จ.เชียงราย พยานปากสำคัญของผู้ร้อง หรือฝ่าย กกต.
อย่างไรก็ตาม นายพิชิฏ กล่าวถึงการให้การของนายอดิศร เรือนคำ กำนัน อ.แม่จัน โดยได้เบิกความเกี่ยวกับการเดินทางมา กทม.เพื่อพบนายยงยุทธว่า เป็นการชักชวนของนายชัยวัฒน์ เพื่อขอให้นายยงยุทธ ช่วยทวงหนี้จากนายชูชาติ จันทวลย์ อดีตที่ปรึกษานายยงยุทธ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งไม่ได้เดินทางมาตามคำชักชวนของด.ต.เทพรัตน์ อย่างที่นายชัยวัฒน์ ได้เบิกความไว้ และนายชัยวัฒน์ เป็นผู้จัดการเรื่องการเดินทางและที่พักให้
นอกจากนี้ นายอดิศร ยังยืนยันด้วยว่า หากต้องเดินทางมาพบนายยงยุทธ เพื่อรับเงิน 2 หมื่นบาท คงไม่เดินทางมา เพราะส่วนตัวนายอดิศร มีฐานะ มีไร่จำนวนมาก รวมทั้งกิจการรีสอร์ท และจะยืนยันด้วยว่า ไม่มีเหตุการณ์ที่นายยงยุทธ มอบเงินให้กลุ่มกำนัน 10 คนๆ ละ 2 หมื่นบาทแต่อย่างใดด้วย ซึ่งคำเบิกความของนายดวงแสง มูลกาศ และนายประสิทธิ จินดาคำ กำนัน ก็จะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อหักล้างน้ำหนักคำเบิกความนายชัยวัฒน์
นายพิชิฏ กล่าวต่อว่า หลังจากเสร็จสิ้นสืบพยานทั้ง 4 ปากแล้ว จะประชุมคณะทำงานอีกครั้งว่าจะนำพยานกลุ่มใดบ้างขึ้นเบิกความต่อ ซึ่งเบื้องต้นคิดว่า อาจจะนำนายชูชาติ มาเบิกความประเด็นหนี้สินที่ค้างกลุ่มกำนัน ในวันที่ 13 พฤษภาคม ขณะที่นายยงยุทธ เตรียมขึ้นเบิกความต่อศาลในวันที่ 20 พฤษภาคม