ที่มา ไทยรัฐ
ดูเหมือนตัวเลขของทั้ง 2 ฝ่าย จะยังไม่นิ่ง แม้ว่าประชาธิปัตย์นำ 4 พรรคการเมืองร่วมรัฐบาลคือ ชาติไทยพัฒนา, เพื่อแผ่นดิน, รวมใจไทยชาติพัฒนา มัชฌิมาธิปไตย และกลุ่มเพื่อนเนวิน ขาดแต่พรรคประชาราชที่ดูเหมือน ว่าจะเกาะขบวนเก่าต่อไป
ประชาธิปัตย์บอกว่าจะตั้งรัฐบาลสำเร็จเพราะมีเสียงสนับสนุนพอเพียง โดยให้นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะเป็นนายกฯ
การเปลี่ยนขั้วการเมืองครั้งนี้ดูเหมือนว่าเป็นการตัดสินของนักการเมือง ที่เห็นว่าหากปล่อยให้พรรคเพื่อไทยหรือกลุ่มอำนาจเก่าเป็นนายกฯ เป็นรัฐบาลบริหารประเทศจะเกิดปัญหาขัดแย้งขึ้นมาอีก ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติ
กลุ่มเพื่อนเนวินที่ประกาศแยกตัวจาก “นายใหญ่” จึงเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้การเมืองเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างคาดไม่ถึง
ปฏิกิริยาจากกลุ่มเพื่อนเนวินนั้นยังไม่รู้ว่าตัวเลขสุดท้ายจะเป็นอย่างไรจะไป กันทั้งกลุ่มหรือแตกกลุ่มคืออยู่กับอำนาจเก่าหรือไปสังกัดพรรคการเมืองใหม่ ที่ว่าจะไปกันหมดหรือไม่นั้นประเด็นหนึ่งก็คือการเลือกตั้งครั้งต่อไป
หากไปสังกัดพรรคการเมืองอื่นหรือการไปสนับสนุนประชาธิปัตย์ เป็นรัฐบาลจะเกิดปัญหาในด้านฐานเสียง
เพราะอีสานคือฐานเสียงสำคัญที่สนับสนุน “พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร” รวมถึงโครงการประชานิยมที่ยังลืมไม่ลง
แต่ดูเหมือนว่านายเนวินไม่ได้สนใจตรงนี้เพราะเชื่อว่าการเมืองจะต้องเปลี่ยนแปลงไป พรรคเพื่อไทยในอนาคตอาจจะไม่แจ่มใสก็ได้
ประเด็นสำคัญคือเชื่อว่า “นายใหญ่” น่าจะจบแล้ว
อย่างไรก็ดีแม้ว่าประชาธิปัตย์ที่จับมือกับพรรคร่วมรัฐบาลและ กลุ่มเพื่อนเนวินประกาศจะตั้งรัฐบาลแต่พรรคเพื่อไทยซึ่งมีการประชุมใหญ่ เพื่อเลือกหัวหน้าพรรค ปรากฏว่านายยงยุทธ วิชัยดิษฐได้เป็นหัวหน้าไม่ใช่คนนามสกุล “ชินวัตร” แต่อย่างใด
ซึ่งนายยงยุทธได้เปิดเผยว่าภารกิจเร่งด่วนก็คือการดึงพรรคร่วมรัฐบาล ให้กลับมาสนับสนุนหรือแม้แต่กลุ่มเพื่อนเนวินก็ต้องพยายามทุกวิถีทาง และเชื่อมั่นว่าจะได้จัดตั้งรัฐบาลแน่เพราะมีเสียงสนับสนุนมากกว่า
ขณะเดียวกันก็ประกาศชัดเจนคนของพรรคเพื่อไทยจะไม่เป็นนายกฯ แต่จะให้พรรคร่วมรัฐบาลเดิมไปพิจารณาร่วมกันว่าใครมีความสามารถและเหมาะสมก็เอาคนนั้น
เรียกว่าขุดบ่อล่อปลากันเต็มที่ แม้แต่ตำแหน่งนายกฯก็ยังยอมและคงไม่ต้องพูดถึงเก้าอี้รัฐมนตรีด้วยที่จะให้ต่อรองกันเต็มที่
“นายเสนาะ เทียนทอง” คงจะมีความหวังก็เลยยังไม่ยอมเปลี่ยนขั้ว
อย่างไรก็ดีการตัดสินใจของแต่ละพรรคการเมืองที่ให้มีการเปลี่ยนขั้ว นั้นต้องดูว่ามีน้ำหนักมากน้อยแค่ไหน อย่างพรรคชาติไทยพัฒนาคงแน่นอนแล้ว พรรครวมใจไทยชาติพัฒนาก็คงจบเพราะมีเอกภาพมากกว่าพรรคอื่น พรรคมัชฌิมาธิปไตยก็น่าจะจบ
เว้นแต่พรรคเพื่อแผ่นดินที่ปัญหาภายในไม่ค่อยดีนัก และก็มีปรากฏการณ์ที่ไปสนับสนุนทั้ง 2 ฝ่าย จึงต้องดูคำตอบสุดท้ายอีกครั้ง
เช่นกันความพยายามที่จะแข่งกันตั้งรัฐบาลประชาธิปัตย์ จะมั่นใจว่าจะชนะเพราะมีเสียงหนุนมากกว่า แต่พรรคเพื่อไทยก็พยายามที่จะชี้ให้เป็นว่าเกมพลิกขั้วครั้งนี้มี “ทหาร” เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเพื่อทำให้เห็นว่ามีการกลไกในลักษณะนี้เกิดขึ้นที่เรียกว่าผู้จัดการรัฐบาลตัวจริง
เกมชิงตั้งรัฐบาลคงยังไม่จบง่ายๆ.
“สายล่อฟ้า”