WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Tuesday, December 9, 2008

“ชาติ” บอบช้ำพอแล้ว...

ที่มา ประชาทรรศน์

คอลัมน์ : โต๊ะข่าวประชาทรรศน์

หลายคนคงกำลังใจจดจ่อกับการตั้งรัฐบาลใหม่ ซึ่งประชาชนคาดหวังกันว่า รัฐบาลที่กำลังจะก่อกำเนิดขึ้นมาใหม่นั้นเป็นรัฐบาลที่ตั้งใจทำเพื่อชาติบ้านเมืองอย่างแท้จริง

ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ประเทศชาติบอบช้ำมามากแล้ว ประชาชนทั้งสองฝ่ายขัดแย้งกันอย่างหนัก ทั้งๆ ที่เป็นคนไทยด้วยกัน

จากประเทศที่ได้ชื่อว่า “สยามเมืองยิ้ม” กลายเป็นเมืองอันตรายในสายตาชาวโลก สื่อเทศจัดให้ประเทศไทยอยู่ในอันดับ 7 ของประเทศที่อันตรายมากที่สุดในโลก

นานาชาตินับ 10 ประเทศยังประกาศเตือนพลเมืองของตัวเองให้งด หรือระมัดระวังในการเดินทางมาประเทศไทยเพราะเสี่ยงต่อความไม่ปลอดภัย

บรรดาบริษัทจัดอันดับเครดิตความน่าเชื่อถือ ก็เรียงคิวลดเครดิตประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง

ที่หนักหนาสาหัสคือ “การยึดสนามบินสุวรรณภูมิ” ทำให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ต้องประกาศหยุดให้บริการตั้งแต่เวลา 22.00 น. วันที่ 25 พฤศจิกายน

กระทั่ง พันธมิตรฯ สลายการชุมนุม และมีการเปิดใช้สนามบินเที่ยวแรกเมื่อบ่ายวันที่ 3 ธันวาคม ก่อนเปิดใช้อย่างเต็มรูปแบบวันที่ 5 ธันวาคม
ตลอด 8 วันความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งในส่วนของภาคราชการและเอกชน มีการประเมินเบื้องต้นคิดเป็นมูลค่ามหาศาล

ในภาพรวม สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้ประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นหลังจากกลุ่มพันธมิตรฯ ปิดสนามบินว่า ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม นักท่องเที่ยวจะหายไปประมาณ 1.58 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 6 หมื่นล้านบาท

ธุรกิจขนส่งทางอากาศเสียหาย 3.2 พันล้านบาท ธุรกิจการขนส่งผู้โดยสารภายในการท่าอากาศยานเสียหาย 2.8 หมื่นล้านบาท

ธุรกิจภายในสนามบินเสียหาย 2.2 พันล้านบาท รวมทั้งความเสียหายที่ยังประเมินไม่ได้อีก 1.4 หมื่นล้านบาท รวมความเสียหายแล้วอยู่ที่ประมาณ 1.46 แสนล้านบาท

เรื่องความเสียหายต่างๆ เหล่านี้ ไม่ว่าพรรคไหนจะเป็นรัฐบาล พวกเราในฐานะคนไทยที่ต้องเสียภาษีทุกคนควรจะออกมาฟ้องร้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ไม่ควรปล่อยให้เรื่องผ่านไป โดยที่แกนนำพันธมิตรฯ ยังคงลอยหน้าลอยตาในสังคม เพราะคนเหล่านี้ถือเป็นบุคคลทำลายชาติ ไม่ใช่คนกู้ชาติ
ประชาชนได้เห็นแกนนำพันธมิตรฯ ออกเอเอสทีวี ประกาศชัยชนะ พร้อมกับยกหางตัวเองว่าเป็น “ฮีโร่” แล้วรับไม่ได้
พวกนี้คือคนที่เห็นแก่ตัวอย่างที่สุด เพราะได้หลอกประชาชนไปตายเกือบ 10 ศพ แต่ตัวเองกลับมาเล่าวีรกรรมตัวเองอย่างสนุกสนาน
เวลานี้ขอให้ประชาชนช่วยกันเฝ้าจับตาคนเหล่านี้ให้ดีว่าจะทำอะไรให้ชาติบ้านเมืองบ้าง
รัฐบาลใหม่ที่กำลังจะเข้ามาไม่ควรจะปล่อยปละละเลยประเด็นนี้ ซึ่งสำคัญมากพอๆ กับปัญหาเศรษฐกิจ

รัฐบาลใหม่ควรเร่งตั้งทีมเศรษฐกิจที่น่าเชื่อถือ ดึงคนนอกที่มีความรู้ความสามารถที่เป็นผลดีต่อภาพรวม และเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลใหม่ต้องทำคือ สร้างความเชื่อมั่นให้กลับมาโดยเร็ว

อย่าลืมว่า เศรษฐกิจโลกปี 2552 จะส่งผลกระทบถึงไทยแน่นอน เอกชนจึงสนับสนุนให้จัดตั้งรัฐบาลที่มีความสามารถขึ้นมาบริหารประเทศโดยเร็ว

ช่วงเวลานี้ ถือเป็นช่วงที่ทุกฝ่ายต้อง “ร่วมมือร่วมใจกัน” คลี่คลายปัญหาความขัดแย้ง อย่ามาแบ่งแยกว่า “เสื้อแดง” หรือ “เสื้อเหลือง”

อยากให้ทุกคนได้ตระหนักในพระราชดำรัสของพ่อหลวงที่ทรงพระราชทานในยามที่บ้านเมืองเกิดวิกฤติ คนไทยขัดแย้ง แตกแยก รบราฆ่าฟันกันเอง จนบาดเจ็บและเสียชีวิต

พระองค์ทรงพร่ำเตือนให้คนไทยหันหน้าเข้าหากัน จะมัวแต่มาเอาแพ้เอาชนะกันทำไม เพราะถึงที่สุดไม่มีใครชนะ มีแต่ชาติจะพ่ายแพ้...