WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, December 8, 2008

ยึดทรัพย์นายทุนพันธมารหนุนก่อการร้าย-ยึดสนามบิน

ที่มา ประชาทรรศน์

‘จงรัก’ เล็งเอาผิดพันธมาร ‘ก่อการร้าย-ยึดสนามบิน’ ไล่เช็กบิล ‘นายทุน พธม.’ จ่ายท่อน้ำเลี้ยงหนุนโจรกบฏ พร้อมทิ่มสำนวนส่ง ป.ป.ง.เช็กบัญชีทรัพย์สิน โทษหนัก!ยัดคุก 10 ปี-สั่งยึดทรัพย์เกลี้ยง ย้ำอนุสัญญา ‘ภาคีระหว่างประเทศ’ คว่ำบาตรสินค้าผู้ให้การสนับสนุนการก่อการร้าย ไม่หวั่นรัฐบาลผลัดใบ ลั่นยืนกราน ‘เอาผิด’

พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะกำกับดูแลกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี น.พ.เหวง โตจิราการ แกนนำสมาพันธ์ประชาธิปไตย ได้ยื่นร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) หลังบุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง ในข้อหาก่อการร้าย

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้ทำการรวบรวมข้อมูลและพยานหลักฐาน และตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ข้อหาก่อการร้ายถือเป็นมูลเหตุข้อหาหนึ่งของ พ.ร.บ.การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ซึ่งจะต้องสรุปข้อมูลและรายงานให้คณะกรรมการปปง.ได้รับทราบ เพื่อดำเนินการกับผู้ที่ให้เงินสนับสนุนกับกลุ่มพันธมิตรฯในการเข้ายึดสนามบิน ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี และยึดทรัพย์สิน รวมทั้งริบทรัพย์สินในส่วนของการถ่ายโอนบัญชีที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาได้ประสานไปยังเลขาธิการ ปปง.ให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบการหมุนเวียนของเงินในบัญชี ว่าเงินมีการถ่ายโอนจากบัญชีใดไปอยู่บัญชีไหน ซึ่งเป็นหน้าที่ของ ปปง.โดยเฉพาะ อย่างไรก็ตามเท่าที่ทราบมีภาคีระหว่างประเทศมีอนุสัญญาระบุชัดเจนว่า หากบริษัทห้างร้านใดมีส่วนร่วมสนับสนุนการก่อการร้ายและบุกยึดสนามบินรัฐ ภาคีต่างๆจะห้ามให้สินค้าของบริษัทนั้นๆเข้าประเทศ

เมื่อถามว่า มีรายชื่อของบริษัทใหญ่ๆ ที่อยู่เบื้องหลังการชุมนุมหรือไม่ พล.ต.อ.จงรัก กล่าวว่า เท่าที่ทราบขณะนี้ตำรวจสันติบาลมีรายชื่อบริษัทห้างร้านที่ให้เงินสนับสนุนกลุ่มผู้ชุมนุมแล้ว ซึ่งมีหลายบริษัท และกำลังจัดส่งรายชื่อบริษัทเหล่านี้ให้ทาง ปปง.ตรวจสอบ แต่ไม่สามารถเปิดเผยชื่อของบริษัทเหล่านี้ได้

ต่อข้อถามว่า หากมีการเปลี่ยนรัฐบาลจะเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินคดีหรือไม่ พล.ต.อ.จงรัก ระบุว่า การดำเนินการของพนักงานสอบสวนเป็นไปตามกฎหมาย ไม่ว่ารัฐบาลจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรการดำเนินการตามกฎหมายก็ยังคงดำรงอยู่ รัฐบาลใดเข้ามาก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย

ทำเนียบฯเปิดใช้วันแรก'จงรัก'ไร้น้ำยา!เอาผิดใครไม่ได้

เมื่อช่วงเช้าวันนี้(8 ธ.ค.) นักประดาน้ำจากศูนย์ ปฏิบัติการกองทัพเรือ และเจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิดใต้น้ำ จากกองทัพเรือจะตรวจค้นสิ่งของในคลองผดุงกรุงเกษม ที่เชื่อว่าอาจมีอาวุธที่กลุ่มพันธมิตรฯโยนทิ้งในคลองก่อนสลายการชุมนุม เหตุที่ต้องตรวจสอบในคลองเนื่องจากอยู่ติดทำเนียบรัฐบาลและอยู่ใกล้การชุมนุม ตามหลักทั่วไปที่ถือว่าแม่น้ำลำคลองเป็นสถานที่ที่คนทั่วไปจะทำลายหลักฐานง่ายที่สุด เช่น ใครมีอะไรที่ไม่ต้องการและอยากจะทิ้งก็มักโยนลงในน้ำ เพราะฉะนั้นจำเป็นต้องตรวจสอบให้ครบถ้วน ถือเป็นหลักการตรวจสถานที่เกิดเหตุทั่วไปของตำรวจ

"ยอมรับว่าการดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรฯ ในข้อหามีอาวุธ หรือยาเสพติดไว้ในความครอบครองเป็นเรื่องยาก เนื่องจากขาดพยานหลักฐานว่าเป็นของใคร ทั้งนี้เพราะกลุ่มพันธมิตรฯสลายตัวกลับบ้านไปหมดแล้ว ถ้าเอาตัวมาถามก็จะปฏิเสธ หากฟ้องไปศาลก็ต้องยกฟ้อง เพราะศาลยึดหลักว่า ถ้ามีข้อสงสัยต้องยกประโยชน์ให้จำเลย แต่สิ่งที่มองเห็นได้ก็คือ เป็นเครื่องแสดงว่าการชุมนุมในครั้งนี้ไม่ใช่การชุมนุมโดยปราศจากอาวุธดังที่กล่าวอ้างกัน" รอง ผบ.ตร.ระบุ

อย่างไรก็ตาม ได้มีการสรุปผลการตรวจสิ่งของที่พบภายในทำเนียบรัฐบาลว่า มีระเบิดชนิดต่างๆ ทั้งระเบิดปิงปอง ระเบิดขวด 110 ลูก ระเบิดเพลิง ประทัดและพลุ รวม 280 อัน อุปกรณ์ประกอบระเบิด 55 ชิ้น ปุ๋ยแอมโมเนียที่ใช้ ทำระเบิด 10 ถุง กระสุนปืน .38 จำนวน 105 นัด น้ำกรด 75 ขวด ท่อนเหล็ก 312 ท่อน ท่อนไม้ 150 ท่อน ไม้กอล์ฟ 55 อัน หนังสติ๊ก 16 อัน ลูกเหล็ก ลูกแก้ว หิน น็อต ใช้สำหรับยิง 497 อัน หมวกนิรภัย 24 ใบ สารเสพติด 4 คูณ 100 รวม 33 ขวด ใบกระท่อม 12 ถุง โล่ 5 อัน สนับแขน 183 อัน ท่อพีวีซี ที่เป็นกระบอกฉีดน้ำ 81 อัน และมีด 1 เล่ม

สรุปเหตุปะทะ'เสื้อเหลือง-เสื้อแดง'เจ็บ737ตาย8

นพ.เพชรพงษ์ กำจรกิจการ ผู้อำนวยการศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้สรุปยอดผู้บาดเจ็บ เสียชีวิต จากเหตุชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) และการชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในพื้นที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม - 2 ธันวาคม 2551 มีผู้บาดเจ็บทั้งสิ้น 737 ราย เสียชีวิต 8 ราย