ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ออกมาปฏิเสธถึงกระแสข่าวการเตรียมผลักดันลูกชาย 2 คน กลับเข้ารับราชการตำรวจ โดยยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง ถือเป็นการทำลายทางการเมือง ซึ่งลูกชายทั้งสองคนนั้น คนหนึ่งอายุเกือบ 40 แล้ว อีกคนหนึ่งก็เป็นเลขารัฐมนตรี และเพื่อนๆ ก็ขึ้นเป็นพันโทกันไปหมดแล้ว จึงไม่มีความคิดที่จะกลับเข้าไปเป็นตำรวจแน่นอน
ก่อนหน้านี้ แหล่งข่าวระดับสูงในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดเผยว่า ขณะนี้หลายฝ่ายใน ตร.เริ่มจับตามองว่า จะมีความพยายามผลักดันให้นายวัน (วันเฉลิม) อยู่บำรุง บุตรชายคนรองของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ที่ถูกปลดออกและปลดยศ “ร.ต.ต.” เนื่องจากไม่ผ่านการเกณฑ์ทหารและปลอมแปลงใบผ่านการคัดเลือกการเกณฑ์ทหาร (สด.9) ให้กลับเข้ามารับราชการตำรวจอีกครั้ง เนื่องจากมีวิธีทำให้กลับมาได้หลายทาง ได้แก่
1. ต้องพิสูจน์คุณสมบัติการผ่านการเกณฑ์ทหารเสียก่อน โดยหาหลักฐานมาแสดงเพื่อใช้ประกอบขั้นตอนการพิจารณาขอคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) แต่งตั้ง
2. ใช้วิธีการแต่งตั้งพิเศษโดยอ้างความสามารถพิเศษ ซึ่งไม่จำเป็นต้องสังกัดหน่วยงานเดิม แต่ต้องเข้าขั้นตอนตามที่กล่าวมาข้างต้น และ
3.หนทางที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดคือบรรจุแต่งตั้งนายวันเข้ารับราชการในกระทรวงมหาดไทย และไม่กำหนดคุณสมบัติในการรับราชการที่เข้มงวดเหมือนตำรวจ แล้วค่อยโอนย้ายมารับราชการตำรวจภายหลัง
สำหรับนายอาจหาญ และนายวัน บรรจุเข้ารับราชการเป็นตำรวจสัญญาบัตร ติดยศ “ร.ต.ต.” ภายใต้สังกัดกองสารนิเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และใน พ.ศ.2542 ร.ต.ต.อาจหาญ และร.ต.ต.วันเฉลิม ตกเป็นผู้ต้องหาในข้อหาใช้ใบเกณฑ์ทหาร (สด.43 ปลอม) สมัครเข้ารับราชการตำรวจ และหลังเรื่องดังกล่าวแดงขึ้น คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเอกสาร สด.43 ของร.ต.ต.อาจหาญกับร.ต.ต.วันเฉลิม อยู่บำรุง ได้นำใบ สด.43 ของบุคคลทั้ง 2 ซึ่งอ้างว่าได้รับจากการตรวจเลือกทหารไปเปรียบเทียบกับต้นขั้วของกองทัพบก ปรากฏว่าที่ต้นขั้วของกองทัพบก ทั้งร.ต.ต.อาจหาญ และร.ต.ต.วันเฉลิม ไม่ได้มารับการเกณฑ์ทหาร และใบสด.43 ของทั้งคู่ที่ใช้ในการสมัครเข้ารับราชการตำรวจจึงเป็นของปลอม ซึ่งทั้งคู่จะต้องมีความผิดทางอาญา
โดยพล.ต.ศักดิ์สิน ทิพยเกษตร เจ้ากรมการกำลังสำรองทหารบกขณะนั้นชี้แจงว่า เมื่อพนักงานสอบสวนสรุปผลว่าเอกสาร สด.43 ดังกล่าวเป็นของปลอม ทั้งคู่จะต้องถูกดำเนินคดีฐานปลอมแปลงเอกสาร และในปีถัดไปร.ต.ต.วันเฉลิม ยังคงต้องเข้ารับการตรวจเลือกทหารอีก เพราะอายุยังไม่เกิน 29 ปี (ในขณะนั้น) ส่วนร.ต.ต.อาจหาญ อายุเกินแล้วจึงถูกดำเนินคดีอาญาเพียงอย่างเดียว
ต่อมาทั้งร.ต.ต.อาจหาญ และร.ต.ต.วันเฉลิม ได้ประกาศขอลาออกจากราชการเมื่อวันที่ 2 มี.ค. 2542 แต่หลังจากนั้นอีกเพียง 2 วัน คือวันที่ 4 มี.ค. 2542 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่อนุมัติให้ลาออก แต่มีคำสั่งให้ร.ต.ต.อาจหาญและร.ต.ต.วันเฉลิม ออกจากราชการแทน พร้อมทั้งดำเนินคดีอาญาฐานปลอมแปลงเอกสารราชการ และใช้เอกสารราชการปลอม
โดยก่อนหน้านี้ ลูกชายคนเล็กของร.ต.อ.เฉลิมคือ "ดวง อยู่บำรุง" เพิ่งทำเรื่องขอกลับเข้ารับราชการทหาร เป็น "ว่าที่ร.ต.ดวง อยู่บำรุง" ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าเหมาะสมและถูกต้องหรือไม่