นายแพทย์เหวง โตจิราการ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ หรือ นปก. กล่าวหลังการนำผู้ชุมนุมกลุ่มนปก. ออกมาเคลื่อนไหวบริเวณหน้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า ทางนปก.ได้สลายการชุมนุมที่บริเวณดังกล่าวและจะเดินทางกลับไปปักหลักรวมตัวกันที่บริเวณท้องสนามหลวงดังเดิม โดยยืนยันที่จะประกาศหลักการเพื่อแสดงจุดยืน ในการปกป้องระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ระบบรัฐสภา และรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน
แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากประเมินสถานการณ์แล้ว ตนรู้สึกกังวลว่าจะเกิดรัฐประหารขึ้น ซึ่งก็นิ่งนอนใจในเรื่องดังกล่าวไม่ได้ เพราะที่ผ่านมาการเกิดเหตุการณ์รัฐประหารในปี 2534 หรือการปฏิวัติเมื่อปี 2549 ต่างก็ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนเช่นกัน
ส่วนการเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่งนั้น นายแพทย์เหวง กล่าวอีกว่า การเปลี่ยนแปลงก็สามารถทำได้ แต่ต้องเป็นไปตามระบบรัฐสภา ไม่ใช่เป็นไปตามยุทธวิธีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกำลังกระทำอยู่ ซึ่งถือว่าไม่ถูกต้องระบอบประชาธิปไตย
ด้าน พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า การเคลื่อนขบวนของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อยเป็นบทพิสูจน์ว่าตำรวจยังคงใช้นโยบายการปฏิบัติงานที่ไม่ใช้กำลังความรุนแรง
พร้อมกันนั้น ยังยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ไม่มีการใช้กำลังเข้าการสลายการชุมนุม ตราบใดที่การชุมนุมนั้นปราศจากอาวุธ ภายใต้กรอบกติกากฎหมาย โดยพบว่าแกนนำพยายามที่จะรักษาสิทธิของตนเอง ไม่ได้ก่อความวุ่นวาย เมื่อเป็นเช่นนี้ตำรวจก็ยืนยันเจตนาเดิมคือไม่ทำร้ายประชาชน ไม่มีภาพพจน์ที่เลวร้ายเกิดขึ้น
"มีการตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วว่า ผู้ชุมนุมไม่ได้มีการใช้อาวุธอุปกรณ์ที่ก่อให้เกิดความรุนแรงตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดการณ์ไว้ ไม่ว่าจะเป็นหนังสติ๊ก คันธง หรือไม้เบสบอล แต่ใช้วิธีการเดินเคลื่อนขบวนโดยใช้แรงดันผลักเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามา แต่เนื่องจากผู้ชุมนุมมีเป็นจำนวนมากทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้านทานเอาไว้ไม่อยู่" พล.ต.ต.สุรพล กล่าว