สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ว่า วานนี้ (18 มิ.ย.) นายวันชัย จงจรูญหิรันย์ แกนนำกลุ่มติดตามการปฏิรูปการเมืองและต่อต้านการคอรัปชัน พร้อมพวกกว่า 10 คน ได้เข้าติดตามทวงความคืบหน้าเพื่อขอทราบคำชี้แจง ในกรณีที่เคยยื่นเรื่องให้คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการฯ สตง. และกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ชี้แจงเรื่องการซื้อที่ดินย่านปากเกร็ดและสร้างบ้านมูลค่า 50 ล้านบาท รวมถึงการใช้รถประจำตำแหน่ง ผ่านนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส รองผู้ว่าการฯ สตง. แม้ว่า ป.ป.ช.จะรับเรื่องดังกล่าวเพื่อตรวจสอบแล้ว แต่ไม่เชื่อมั่นว่า ป.ป.ช.จะทำหน้าที่ตรงไปตรงมา เนื่องจาก ป.ป.ช. คตส. และ กกต. ถูกแต่งตั้งโดย คมช. จึงไม่มีความน่าเชื่อถือแต่อย่างใด ขณะนี้ทางกลุ่มรวบรวมรายชื่อเพื่อถอดถอนคุณหญิงจารุวรรณได้ 2,000 รายชื่อแล้ว คุณหญิงจารุวรรณกล่าวว่า ได้ให้ทนายความพิจารณาประเด็นที่ทางกลุ่มของนายวันชัย มาโจมตีเรื่องการสร้างบ้าน โดยระบุมูลค่ามากกว่า 50 ล้านบาท เพื่อเตรียมฟ้องกลับ โดยเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทนายความได้เข้ามาหารือและศึกษารายละเอียดของหนังสือที่กลุ่มของนายวันชัยนำมายื่นแล้ว นายกิตติพร อรุณรัตน์ ทนายความของนายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร บุตร พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทีมทนายความได้ยื่นหนังสือให้ คตส.เพิกถอนคำสั่งอายัดทรัพย์ ที่ได้จากการขายหุ้นชินคอร์ป ที่ คตส.อายัดไว้ทั้งหมด 6.5 หมื่นล้านบาท เพราะขณะนี้ครบระยะเวลา 1 ปีที่กำหนดตามกฎหมาย ที่บัญญัติว่าหากไม่สามารถยื่นฟ้องต่อศาลได้ ก็จะต้องเพิกถอนการอายัดทรัพย์ ทีมทนายความกำลังรอหนังสือตอบอย่างเป็นทางการจาก คตส.ว่า จะเพิกถอนการอายัดทรัพย์หรือไม่ หาก คตส.ไม่เพิกถอนก็จะต้องมีการดำเนินคดีในชั้นศาล ทั้งคดีแพ่ง คดีอาญาและคดีปกครอง โดยจะมีการยื่นเรื่องให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการอายัดทรัพย์ของ คตส.