วันที่ 19 มิ.ย. 2551 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทยเช้านี้ ดัชนียังคงปรับตัวในแดนลบต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลาประมาณ 10.08 น.ดัชนีอยู่ที่ 756.94 จุด ลบ 8.80 จุด หรือลดลง 1.15% และในเวลา 11.00 น. ดัชนีอยู่ที่ระดับ 751.32 จุด ลดลง 14.42 จุด โดยมีแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงานและธนาคารพาณิชย์
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า สถานการณ์ทางการเมืองและปัญหาเศรษฐกิจขณะนี้ ทั้งเรื่องของราคาน้ำมันและอัตราเงินเฟ้อ ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุน ทำให้การซื้อขายปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนชะลอดูสถานการณ์
"ยอมรับว่าบรรยากาศการลงทุนกังวลการเมืองมากขึ้น หลังพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยประกาศเคลื่อนไปหน้าทำเนียบรัฐบาล...การเมืองส่งผลให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศกังวลมากขึ้น"นางภัทรียากล่าวและว่า ในส่วนของปัญหาเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น เป็นเรื่องที่เป็นปัญหาที่กระทบทั้งภูมิภาค และนักลงทุนก็รอดูเพื่อประเมินสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม แม้จะมีปัจจัยลบต่างๆ แต่จากพื้นฐานของตลาดฯแล้ว เชื่อว่าเมื่อราคาหุ้นปรับลงมาถึงระดับพื้นฐาน นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนระยะยาวจะกลับเข้ามา
ด้านนายโกสินทร์ ศรีไพบูลย์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า วันนี้คงปรับลงต่อเนื่อง ประเด็นหลักยังมาจากการเมือง จากการที่ผู้ชุมนุมจะเคลื่อนย้ายการชุมนุมไปทำเนียบฯ นักลงทุนต่างชาติก็คงขายอีก ทั้งนี้ตลาดหุ้นไทยวันนี้ ยังจะเคลื่อนไหวตามทิศทางตลาดหุ้นในต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่ปรับลงด้วย สำหรับราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้น มองว่าอาจช่วยชะลอแรงขายหุ้นบมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) เท่านั้น คงไม่ได้ช่วยหนุนตลาดมาก สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวดัชนีวันนี้คาดแนวรับอยู่ที่ 756, 754 และแนวต้านที่ 770, 772 จุด
ขณะที่นายสมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวแสดงความเป็นห่วงกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกาศจะเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 20 มิ.ย. รวมถึงไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว โดยมองว่ารุนแรงและเร็วเกินไป เนื่องจากการทำงานของรัฐบาลยังไม่ถึงขั้นที่เป็นความล้มเหลวในทุกเรื่อง เพราะยังมีส่วนอื่นที่ยังทำงานอยู่ นอกจากนี้มีความเป็นไปได้ที่นายสมัคร สุนทรเวชนายกรัฐมนตรีอาจจะสั่งสลายการชุมนุม ซึ่งจะทำให้เกิดความตึงเครียดมากขึ้น โดยเหตุการณ์ดังกล่าวจะทำให้นักลงทุนรู้สึกไม่มั่นใจในเสถียรภาพของรัฐบาล และขาดความต่อเนื่องในนโยบาย
นายสมชัย กล่าวเห็นด้วยกับกรณีที่ฝ่ายค้านยื่นเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีทั้ง 7 คน เพราะเป็นการทำหน้าที่ในระบบรัฐสภาและไม่ได้หวังล้มรัฐบาล เพราะมีเสียงไม่พอ แต่จะเป็นแรงกระตุ้นให้รัฐบาลทำงานมากขึ้น