เห็นภาพบ้านหลังงามที่กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างที่ จ.นนทบุรี ของคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการสตง. แล้วต้องยอมรับว่าสวยงาม อลังการเอาเรื่องทีเดียว
ตามข่าวว่ากันว่าสร้างอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ มูลค่าที่ดินประมาณ 12 ล้านบาท ส่วนตัวสิ่งปลูกสร้างในยุคที่วัสดุก่อสร้างราคาพุ่งพรวดไปราวกับทองคำ มีการประมาณการโดยผู้รู้ว่าน่าจะมีราคาค่างวดไม่น้อยกว่า 45 ล้านบาท
ในเรื่องของตัวที่ดินนั้น คุณหญิงจารุวรรณเคยออกมาแจกแจงปากเปล่าแล้วครั้งหนึ่ง ว่า เป็นทรัพย์สมบัติที่มีอยู่เดิมตั้งแต่ก่อนแต่งงาน และฐานะส่วนตัวก็ไม่ได้อยู่ในขั้นขี้เหร่
เรื่องที่ปรากฏนี้คงจะต้องมองกันอย่างเป็นกลางและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งผู้ที่ออกมาเปิดประเด็นและผู้ที่ถูกกล่าวหา
เพราะเชื่อว่าคนที่นำเรื่องนี้ออกมาพูดจาก็เพราะเห็นเป็นความผิดสังเกต และหากเกิดเป็นเรื่องจริงขึ้นมาก็จะเป็นความไม่เหมาะไม่ควรเสียเปล่าๆ เพราะหน้าที่การงานของคุณหญิงจารุวรรณ เองก็อยู่ในฐานะที่ให้คุณให้โทษผู้คนได้มากมาย อย่างที่คุณหญิงเคยบอกผ่านออกมาแล้วว่าเคยมีคนหอบเงิน 100 ล้านบาท มาให้ แต่ไม่ได้รับเอาไว้
ขณะที่ คุณหญิงจารุวรรณเองก็น่าจะมองว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ชี้แจงทำความเข้าใจต่อสาธารณชน เพราะแม้ว่าจะไม่ปรากฏเป็นข่าวในวันนี้ แต่การที่ข้าราชการ 1 คน มีบ้านหลังใหญ่โตมโหฬาร ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมีข้อครหาตามมา
และเชื่อแน่ว่าหากทุกอย่างเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ คุณหญิงจารุวรรณ ย่อมสามารถแสดงเหตุผลได้ ไม่ว่าตัวเงินดังว่านั้นจะมีที่มาที่ไปอย่างไรก็ตาม
เพราะแน่นอนว่าเงินจำนวนมากมายขนาดนี้ ต้องมิใช่เงินที่รับราชการเพียงปกติเป็นแน่
ส่วนจะเป็นเงินมรดกตกทอด ก็ย่อมมีหลักฐานการรับมรดกให้เห็น
หรือจะเป็นการรวยหุ้น รวยที่ดินมาตั้งแต่อดีต ทุกอย่างมีหลักฐานที่สามารถนำออกมาแสดงให้สังคมเกิดความเข้าใจได้ทั้งหมด
หรือหากเงินในบัญชีเงินฝากของคุณหญิง จะมีการพัฒนามาเป็นลำดับตลอดอายุการทำงาน 30-40 ปี ก็อาจจะพอรับฟังได้บ้าง
แม้จะมีการประเมินกันว่าแม้คุณหญิงจารุวรรณ ได้รับเงินเดือนเดือนละแสนตั้งแต่เริ่มรับราชการใหม่ๆ จนถึงวันนี้ล่วงไป 40 ปี ก็ยังไม่น่าจะมีเงินถึง 50 ล้านบาท
หรือในบทสัมภาษณ์บางช่วงบางตอน คุณหญิงจารุวรรณ ก็เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่าเริ่มต้นชีวิตการทำงานด้วยเงินเดือนเพียง 1,500 บาท
และบางช่วงบางตอนก็ยังระบุว่าไม่ได้ร่ำรวยมากมายอะไร แต่กู้เงินธนาคารเพื่อมาดำเนินการปลูกบ้านหลังดังกล่าว
ตรงนี้คุณหญิงก็สามารถนำหลักฐานมาแสดงได้อยู่แล้วว่ามีการกู้เงินจากธนาคารจริงหรือไม่ กู้เป็นวงเงินเท่าไร ใกล้เคียงกับมูลค่าการก่อสร้างบ้านหรือเปล่า
และขณะเดียวกันธนาคารที่ปล่อยกู้ก็คงจะต้องดูกันว่าให้กู้คุ้มค่ากับหลักทรัพย์ค้ำประกันหรือไม่ เพราะหากประเด็นนี้ไม่มีความชัดเจน ธนาคารที่ปล่อยเงินกู้อาจจะต้องโดนหางเลขไปด้วย
ที่สำคัญในวันที่คุณหญิงจารุวรรณ อายุจวนเจียน 60 ปี ขนาดนี้ ธนาคารที่ให้กู้จะให้เวลาในการผ่อนชำระหนี้ได้กี่ปี เพราะเท่าที่รู้การกู้เงินซื้อบ้าน เขาให้ผ่อนกันเต็มที่ก็ไม่เกินอายุ 65 ปี
แน่นอนว่าประเด็นการสร้างบ้านหรูของคุณหญิงจารุวรรณ คงจะปฏิเสธข้อกังวลสงสัยของผู้คนในสังคมทั่วไปไม่ได้ และอาจจะยิ่งเป็นความเคลือบแคลงมากยิ่งขึ้นไปกว่าเก่าหากคุณหญิงจะเพียงพูดจาปากเปล่า และพยายามตอบโต้ด้วยการกล่าวหาว่าเป็นเรื่องของคนที่จ้องทำลาย
สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ไม่ว่าเจตนาของผู้เปิดประเด็นจะเป็นอย่างไรก็ตาม แต่การสร้างบ้านมูลค้าหลายล้านบาทก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง
อีกทั้งตัวคุณหญิงก็เป็นบุคคลที่ประชาชนให้ความสนใจ อยู่ในตำแหน่งที่ต้องมากด้วยความยุติธรรม และเป็นตำแหน่งที่หากได้คนไม่ดีเข้ามาทำงานก็จะเป็นช่องในการหาประโยชน์
ดังนั้นสาระสำคัญจึงอยู่ที่ว่า คุณหญิงจารุวรรณ กล้าหรือพร้อมที่จะออกมาชี้แจงต่อสาธารณชนหรือไม่
เพราะแน่นอนว่าหากไม่มีคำอธิบายที่น่าฟัง ประชาชนก็จะยิ่งเพิ่มความสงสัย
ผมอยากให้ฝ่ายที่เปิดประเด็นให้โอกาสคุณหญิงจารุวรรณ ได้รวบรวมหลักฐานเพื่อออกมาชี้แจงแสดงความบริสุทธิ์ เพราะเชื่อว่าคนที่บอกผู้คนทั้งประเทศว่าเป็นคนซื่อสัตย์ บริสุทธิ์ ย่อมไม่กลัวกับเรื่องเพียงเท่านี้
และเชื่อว่าคุณหญิงจารุวรรณ เองก็รู้ดี หากปล่อยให้เรื่องนี้ยืดเยื้อ คาราคาซัง ก็สุ่มเสี่ยงต่อการที่จะถูกสังคมตั้งข้อสงสัยและตราหน้า
ว่า...คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา เป็นคนขี้โกง...!!
บิ๊กโบ๊ต