คดีโกงบัตรเลือกตั้งของกกต. คืบไปอีกขั้น ที่ประชุม กคพ. มีมติตั้งอนุกรรมการพิจารณารายละเอียดหลังพบเกี่ยวพันหลานยส่วนราชการ มี “เรวัติ ฉ่ำเฉลิม” นั่งเป็นประธานพิจารณา ขณะเดียวกันรับคดีภาษี-การเงิน 11 คดีเข้าเป็นคดีพิเศษแล้ว
จากรณีพล.ต.ต.เสวก ปิ่นสินชัย อดีตผู้บังคับการตำรวจป่าไม้ ได้เข้ากล่าวโทษร้องทุกข์ต่อกรมสอบสวนคดีพเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบการฮั้วประมูลพิมพ์บัตรเลือกตั้งและคดีทุจริตการเลือกตั้งจากการพิมพ์บัตรเลือกตั้งเกินจำนวนผู้มีสิทธิลงคะแนน แต่ กกต. โต้แย้งว่าได้แบ่งการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งออกเป็น 2 ส่วน ทำให้มีวงเงินไม่ถึง 100 ล้านบาท ดีเอสไอจึงไม่มีอำนาจสอบสวน เช่นเดียวกับคดีทุจริตการเลือกตั้งซึ่งไม่ใช่คดีพิเศษที่ระบุไว้แนบท้าย พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ จนนำไปสู่ขั้นตอนส่งเรื่องให้ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) พิจารณารับเป็นคดีพิเศษ น้น
ในการประชุม กคพ. เมื่อวันที่ 16 มิถุนจายนที่ผ่านมา การประชุมบอร์ดกคพ. ได้มีการเสนอให้รับคดีฉ้อโกงภาษีและคดีของสำนักคดีการเงินการธนาคารเป็นคดีพิเศษ 10 คดี รวมถึงคดีการฮั้วประมูลการพิมพ์บัตรเลือกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และคดีที่มีผู้กล่าวโทษร้องทุกข์ให้ตรวจสอบความไม่โปร่งใสในการจัดอบรมของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ด้วย
โดยภายหลัวการปรชุม พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า กคพ. มีมติให้ตั้งนายเรวัติ ฉ่ำเฉลิม อดีตอัยการสูงสุด เป็นประธานอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองเรื่องดังกล่าว โดยให้ลงไปดูรายละเอียดที่มีความเกี่ยวพันกับหน่วยงานราชการหลายแห่ง
ทั้งนี้ ที่ประชุมฯ เห็นชอบให้รับคดีความผิดทางอาญาไว้เป็นคดีพิเศษจำนวน 11 คดี ได้แก่ กรณีลักลอบขนแรงงานพม่าเสียชีวิต 54 ศพที่ จ.ระนอง, กรณีสวมบัตรประจำตัวประชาชนให้แก่คนต่างด้าวที่ จ.แม่ฮองสอน เป็นต้น