ที่รัฐสภา คณะทำงานติดตามและวิเคราะห์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ของพรรคพลังประชาชน นำโดย นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคามพร้อมด้วย และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน แถลงถึงกรณีกลุ่มพันธมิตรฯประกาศบุกทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 20 มิ.ย.
โดยนายสุทินกล่าวว่า กลุ่มพันธมิตรฯใช้ชาวบ้านเป็นเหยื่อของสถานการณ์ โดยยอมให้มีการเลือดตกยางออกสัก 2-3 คนแล้วก็ใช้เป็นเงื่อนไขในการขยายผลต่อ คำพูดที่เคยพูดกันว่าพล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ พาคนไปตายนั้น วันนี้ก็อาจจะมีการนำวิธีการดังกล่าวกลับมาใช้อีก
ด้านนายจตุพร กล่าวว่า การประกาศจุดแตกหักของกลุ่มพันธมิตรฯในวันที่ 20 มิ.ย.นั้น ที่ผ่านมากลุ่มพันธมิตรฯใช้วิธีการซักซ้อมโดยเคลื่อนไหวไปจุดต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมในการบุกยึดทำเนียบรัฐบาล หากกลุ่มพันธมิตรฯใช้วิธีการให้ประชาชนของกลุ่มพันธมิตรฯมาชุมนุมกันโดยต่างคนต่างมา ระดมกันมา แล้วจากนั้นไปรวมกันที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนที่จะไหลไปรวมกันที่สะพานมัฆวาน เท่ากับเป็นการทะลายด่านของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สะพานมัฆวานทันทีอย่างง่ายดาย
นายจตุพร กล่าวต่อว่า จากประสบการณ์ที่ผ่านมา หากปล่อยให้กลุ่มพันธมิตรฯดำเนินการดังกล่าวได้โดยง่าย รัฐบาลจะป้องกันทำเนียบฯเอาไว้ไม่ได้ และจะทำให้ไม่สามารถบริหารงานต่อไปได้ เท่ากับเป็นจุดจบของรับบาลที่มาจากประชาธิปไตย ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจและรัฐบาลต้องดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อรองรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น เพราะทุกวันนี้คนที่มาร่วมชุมนุมน้อยลงทุกวัน การที่จะเพิ่มจำนวนผู้มาชุมนุมได้ก็คือการปะทะ ซึ่งตนมองว่ากระบวนการต่างๆของกลุ่มพันธมิตรฯน่าจะเริ่มตั้งแต่คืนวันที่ 19 มิ.ย.ด้วยซ้ำ
“เราคงไม่เรียกร้องไปที่กลุ่มพันธมิตรฯ แต่ขอเรียกร้องไปที่รัฐบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจว่า หากปล่อยให้ปิดทำเนียบฯได้ นั่นคือจุดจบของรัฐบาลทันที จึงต้องใช้ทุกวิถีทางเพื่อหยุดยั้ง ที่ผ่านมาเราถอยสุดซอยแล้ว แต่การยึดทำเนียบรัฐบาลรัฐบาลจะยอมไม่ได้ เพราะเท่ากับเป็นจุดจบของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งทันที” นายจตุพร กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ระบุว่าเป้าหมายของกลุ่มพันธมิตรคือต้องการให้เกิดความรุนแรง แต่การประกาศใช้ทุกวิถีทางหยุดกลุ่มพันธมิตรฯ จะเป็นการเข้าทางกลุ่มพันธมิตรฯหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า เป้าหมายของกลุ่มพันธมิตรฯคือ ต้องการให้เกิดความรุนแรง ซึ่งที่สะพานมัฆวานนั้นไม่เคยมีเหตุการณ์ที่ดำเนินการอย่างรุนแรงเกิดขึ้น มีเพียงการไปแจ้งความดำเนินคดี แต่เป้าประสงค์ของกลุ่มพันธมิตรฯคือต้องการให้แตกหัก รัฐบาลจึงไม่มีทางอื่น แต่แน่นอนว่าจะต้องลดการปะทะในทุกวิถีทางด้วยเช่นกัน
ขณะที่นายสุนัย กล่าวว่า รัฐบาลอดทนมามากแล้ว ถ้าหากกลุ่มพันธมิตรฯอยู่ที่สะพานมัฆวานก็จะไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น แต่การที่ออกมาบอกว่าจะบุกทำเนียบฯถือเป็นการสร้างเงื่อนไขให้เกิดความรุนแรงขึ้น