WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, June 16, 2008

‘สมัคร’เมินซักฟอก ถกงบ’52สำคัญกว่า ชี้‘อยาก’จนผิดปกติ

“สมัคร” แจงชัดยังไม่มีอภิปรายทั่วไป เพราะเป้าหมายเปิดสภาสมัยวิสามัญ ต้องใช้เวลาเพื่อพิจารณากฎหมายสำคัญและงบประมาณ ปี 52 ระบุทำงานมาได้เพียงแค่ 4 เดือน แต่ดูจะกระเหี้ยนกระหือรือกันจนผิดปกติ ขณะที่ ร.ท.กุเทพ ระบุ ปชป.เล่นตี 2 หน้า หวังเชื่อมโยงกลุ่มพันธมิตรฯนอกสภาล้มรัฐบาล

ภายหลังที่พรรคประชาธิปัตย์ ได้มอบหมายให้ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานประสานงานพรรคฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ยื่นหนังสือต่อนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขอเปิดอภิปรายร่วม 2 สภา ตามมาตรา 179 ขณะที่สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จำนวน 61 คน ก็ได้เข้าชื่อยื่นขอเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาล ตามมาตรา 161 ไปก่อนหน้านี้ ตามที่เป็นข่าวไปแล้วตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ในวันนี้ (15 มิ.ย.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวทั้ง 2 เรื่อง ผ่านรายการ สนทนาประสาสมัคร ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย เอ็นบีที ว่า ดูจะเป็นการกระเหี้ยนกระหือรือรีบร้อนเกินไป ที่จะขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพราะรัฐบาลเพิ่งบริหารงานได้มาแค่เพียง 4 เดือนเท่านั้น ซึ่งรัฐบาลก็กำลังดำเนินการแก้ไขปัญหาตามการร้องขอในหลายประเด็นอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม การเปิดประชุมสมัยวิสามัญครั้งนี้ มีจุดประสงค์เพื่อพิจารณากฎหมายภายใน 180 วัน และอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552 ซึ่งเป็นเรื่องด่วน ไม่ได้เป็นการเปิดประชุมเพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจ

ทั้งนี้ จึงขอให้ประชาชนร่วมกันตัดสินใจดูว่า เหมาะสมหรือไม่ หากในวันที่ 23 มิถุนายน เปิดให้วุฒิสภาอภิปราย และต่อมาในวันที่ 25 มิถุนายน ยังเป็นการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ซึ่งตนขอยืนยันว่า จะไม่มีการเปิดให้วุฒิสภาอภิปรายโดยไม่ลงมติอย่างแน่นอน

ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านเรียกร้องให้เปิดอภิปรายทั่วไปนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปกติการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญจะทำเพียง 3 วัน เพื่อพิจารณาเฉพาะร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี แต่วิปฯขอขยายเวลาเพิ่ม เพื่อพิจารณากฎหมายสำคัญอีก 3-4 ฉบับ ซึ่งตามรัฐธรรมนูญกำหนดให้แล้วเสร็จภายในเวลา 180 วัน รัฐบาลจึงเพิ่มเวลาให้การเปิดประชุมสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณ และร่างกฎหมายสำคัญเท่านั้น

นายกรัฐมนตรี ระบุด้วยว่า ในวันที่ 11-12 และ 18-19 มิถุนายนนี้ ที่ประชุมจะดำเนินการพิจารณากฎหมาย ส่วนวันที่ 25-26 มิถุนายน จะเป็นการพิจารณางบประมาณ ซึ่งอาจใช้เวลายืดเยื้อถึงวันที่ 27 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการเปิดสมัยประชุมสมัยวิสามัญครั้งนี้ จึงขอให้ลองตรองดูว่า ตนหนีการอภิปรายเพราะกลัวเกรง หรือเป็นการลุกไล่กันจนไม่ดูตาม้าตาเรือ

“หากอยู่กลางสมัยธรรมดาไม่มีปัญหาอย่างไรก็ต้องรับ ต้องย้ำไม่ได้กลัวเกรงการอภิปราย เพราะเพิ่งบริหารประเทศมาได้ 4 เดือน ยังไม่ทันทำอะไรผิด กระเหี้ยนกระหือรือ ทำไมรีบร้อนกันเหลือเกิน กำลังคิดแก้ไขปัญหา เสนอความคิดมา ต้องเห็นชอบตามความคิดก่อนไปดำเนินการ แต่นี่จะมาล่อกันเสียก่อน“ นายกรัฐมนตรี กล่าว

ขณะที่ ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีที่พรรคฝ่ายค้านไม่มีโอกาสเปิดอภิปรายทั่วไปในการประชุมสภาสมัยวิสามัญครั้งนี้ว่า แม้นายกรัฐมนตรีจะไม่เปิดอภิปรายในสมัยประชุมนี้ พรรคประชาธิปัตย์ และ ส.ว.ก็ยังสามารถรวบรวมชื่อขอเปิดประชุมสมัยวิสามัญทั่วไปได้ แต่ต้องรอถึงสิ้นปี 2552 เพราะในเดือนสิงหาคมที่จะเปิดประชุมครั้งต่อไป จะมีการพิจารณาเรื่องกฎหมายเพียงอย่างเดียว พร้อมกันนี้ยังได้ติพรรคฝ่ายค้านว่า เล่นบทตีสองหน้า

“พรรคประชาธิปัตย์เล่นบทตีสองหน้า ด้านหนึ่งก็พยายามขอใช้เวทีสภาเปิดอภิปรายรัฐบาล อีกด้านก็ส่งสมาชิกไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯ สองเวทีเดินคู่ขนานบีบรัดรัฐบาลให้จนแต้มกลางกระดาน ถ้ายอมให้เปิดอภิปรายแล้วกลุ่มพันธมิตรฯยุติชุมนุมก็เป็นเรื่องที่น่าพิจารณา แต่เปิดแล้วเขาไม่หยุด และ 2 เวทีทำงานประสานกันเราก็รับมือยาก“ ร.ท.กุเทพ กล่าว

ขณะเดียวกัน ที่ความเคลื่อนไหวของพรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรค ได้กล่าวตอบโต้ว่า รัฐบาลบอกว่าทำงานมา 4 เดือน ไม่มีปัญหา แต่กลับมีการขอยื่นเปิดอภิปราย จึงขอถามว่า วันนี้หนังสือพิมพ์ทุกฉบับ ทุกคอลัมน์ พาดหัวถึงวิกฤติของประเทศ หวั่นประเทศพัง มาเดือนหนึ่งแล้ว ฝ่ายค้าน หรือ ส.ว. จะขอเปิดอภิปราย ก็เพราะเห็นปัญหา ยกเว้นนายกฯคนเดียวเท่านั้นบอกว่า ไม่มีปัญหา

นอกจากนี้ ยังตอบโต้ที่นายกรัฐมนตรี กล่าวถามว่า ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นรัฐบาลแล้วมีฝ่ายค้านขอให้เปิดอภิปราย 2 สภา พรรคจะทำหรือไม่นั้น นายองอาจ ระบุว่า “เราขอประกาศถ้าพรรคได้เป็นรัฐบาลแล้วบ้านเมืองมีปัญหามากก็ยินดีให้เปิด เราไม่ใจแคบฟังคนในคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพียง 30 กว่าคน หรือคนที่ประจบสอพลอใกล้ชิด หรือ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลเพียงอย่างเดียว ดังนั้น ที่นายกฯ ออกมาชี้แจงโดยอ้างต่างๆ นานานั้น เป็นการบิดเบือนอย่างสิ้นเชิง ผมจะเสนอที่ประชุมแกนนำพรรค 14.00 น.วันนี้ ว่า คงต้องใช้การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งเป็นช่องทางที่เหลือทางเดียว เนื่องจากรัฐบาลปิดกั้น”