WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, June 19, 2008

นพดล’แจงชัด‘เขาพระวิหาร’ ไม่เสียดินแดน

"นพดล" แจงปัญหาเขาพระวิหารชัดเจน ยันลงนามร่วม "ไทย-กัมพูชา" เพื่อขอขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก เป็นความสำเร็จไม่ใช่มาจากผลประโยชน์ทับซ้อน ย้ำแผนที่กัมพูชาไม่มีส่วนใดล้ำเขตแดนไทยแน่นอน “จตุพร” ซัด ปชป. ที่ออกมาหาเรื่อง ท้าหากไม่เสียดินแดน สส.ปชป. ต้องลาออกยกพรรค

หลังจากที่กลุ่มพันธมิตรฯ ได้เคลื่อนขบวนตามแผนดาวกระจายมายังกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อสอบถามความเคลือบแคลงสงสัยกรณีเขาพระวิหาร โดยกล่าวหาว่าไทยยอมเสียดินแดน เพราะมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับบุคคลที่เกี่ยวพันกับรัฐบาลนั้น

จากกรณีดังกล่าว ในวันที่ 18 มิถุนายน ที่ผ่านมา นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ ได้ลงนามร่วมกับ นายสก อาน รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กัมพูชา ในแถลงการณ์ร่วมระหว่างไทย-กัมพูชาในการขอขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก โดยมีนายวีรศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ นายกฤช ไกรจิตติ อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย พลโทสุรพล เผื่อนอัยกา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลโทแดน มีชูอรรถ เจ้ากรมแผนที่ทหาร และนายอึง เซียน เอกอัครราชทูตกัมพูชา ประจำประเทศไทย ร่วมในการลงนาม

นายนพดลแถลงว่า สืบเนื่องจากความสับสนข้อมูลการขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก ตามที่กัมพูชาขอขึ้นทะเบียนปราสาทและพื้นที่ทับซ้อนล้ำเข้าพื้นที่ไทย 4.6 ตารางกิโลเมตร ในปี 2549-2550 กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานรัฐได้คัดค้านเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งการพิจารณาของยูเนสโก ครั้งที่ 31 ณ เมืองไครสต์เชิร์ช นิวซีแลนด์ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2550 จึงเลื่อนเรื่องนี้มาพิจารณาในปีนี้ คือ การประชุมยูเนสโก ครั้งที่ 32 ณ เมืองควิเบก แคนาดา ในวันที่ 2-10 กรกฎาคม 2551

ทั้งนี้ หากเวลาล่วงพ้นและไทยปล่อยให้ช้าไป ไทยจะสุ่มเสี่ยงที่อาจถูกมองว่าเสียดินแดนในส่วนที่เป็นพื้นที่ทับซ้อน ตนได้เจรจากับ นายสก อาน ที่เกาะกงและไปเจรจากันที่กรุงปารีส ฝรั่งเศส วันที่ 22-23 พฤษภาคม ด้วยความยากลำบาก และสุดท้ายกัมพูชาตกลงจำกัดการขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาท ผลคือไทยไม่สุ่มเสี่ยงที่จะเสียดินแดนใดๆ ในพื้นที่ทับซ้อน

*ย้ำต้องได้ดอกไม้ไม่ใช่ก้อนอิฐ
นายนพดล ชี้แจงเรื่องนี้โดยได้ชี้แผนที่ประกอบด้วยว่า โดยแผนที่ L 7017 คือแผนที่ซึ่งหน่วยงานรัฐบาลใช้เป็นแผนที่ในการปฏิบัติงาน และปี 2505 ศาลโลกตัดสินว่ากรรมสิทธิ์ปราสาทเป็นของกัมพูชา ครม. ยุค จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้มีมติ ครม. ว่ายกกรรมสิทธิ์ตัวปราสาทให้กัมพูชาตามคำวินิจฉัยของศาลโลก โดยใช้แผนที่นี้มา 46 ปี และหลังจากที่ไทยเจรจากับกัมพูชาได้ห้ามรุกล้ำพื้นที่ไทย กัมพูชาได้ไปทำแผนที่ขึ้นมาใหม่ตามข้อตกลงที่กรุงปารีส สิ่งนี้คือความสำเร็จในการเจรจาของกระทรวง ตนควรได้รับดอกไม้ ไม่ใช่ก้อนอิฐ ซึ่งเป็นการเจรจาทางการทูตที่ลูกหลานต้องโจษจันไปอีกนานว่าทำสำเร็จได้อย่างไร

นายนพดล กล่าวว่า แผนที่ที่กัมพูชาทำขึ้นใหม่จะเป็นไปตามข้อตกลงหรือไม่นั้น ตนขอเสนอแผนที่ของกัมพูชาเสนอใหม่ เพราะนายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ส.ว. และพันธมิตรฯบอกว่ารุกล้ำดินแดนไทย โดยเส้นเขตแดนใหม่นั้น ไม่มีตอนใดเลยที่ปราสาทลุกล้ำดินแดนไทยแม้แต่ตารางมิลลิเมตรเดียว เพราะแผนที่เมื่อปี 2505 นั้นไทยยอมรับไม่ได้ และการเจรจาที่ฝรั่งเศสนั้น กัมพูชายอมทำขึ้นมาใหม่ ตรงนี้คือข้อเท็จจริงของไทย-กัมพูชาที่ประชาชนต้องรู้ ตนไม่ต้องการปกปิดแต่ที่เพิ่งแถลงข่าวเพราะกัมพูชาเพิ่งลงนามเมื่อวันที่ 17 มิถุนายนนี้เอง

* ชี้ไม่มีใครเสียไม่มีใครได้
นายนพดล กล่าวว่า การประชุม สมช. และการประชุม ครม. นั้นได้รับทราบและอนุมัติคำแถลงการณ์ร่วม รวมทั้งแผนผังแผนที่ปราสาทที่ยื่นมาใหม่ โดยตนได้ลงนามร่วมกับ นายสก อาน ขั้นตอนต่อไปจะส่งแผนที่และคำแถลงการณ์ร่วมไปให้องค์การยูเนสโกลงนาม และจะส่งเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของกรรมการมรดกโลก ครั้งที่ 32 วันที่ 5-9 กรกฎาคม ณ เมืองควิเบก แคนาดา ฉะนั้นสรุปว่าสิ่งที่กระทรวงการต่างประเทศ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ปกป้องอธิปไตยไม่ให้ไทยสุ่มเสี่ยงกับการสูญเสียดินแดน ไม่มีแม้ตารางนิ้วเดียวที่สูญเสีย และไม่มีใครได้ดินแดน

ส่วนที่กล่าวหาว่าตนมีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือเสียดินแดนนั้นเป็นความเท็จทั้งสิ้น ตนทำในสิ่งที่สำนึกว่าเป็นข้าแผ่นดินและปกป้องอธิปไตย โดยทำสำเร็จแบบมืออาชีพ โปร่งใส

นายนพดล กล่าวว่า ตนขอเรียนให้สื่อมวลชนรับทราบ ส่วนพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตร จะทำอย่างไรต่อนั้น เรื่องนี้มีการล้ำแดนตั้งแต่ปี 2543 ฉะนั้นต้องรักษาอธิปไตยโดยใช้การเจรจาในการทำแผนบริหารจัดการร่วมกัน โดยต้องยื่นให้ยูเนสโกภายใน 2 ปี คือปี 2553 พื้นที่นี้ประชาชนจะอยู่แบบไร้ระเบียบหรือค้าขายไม่ได้

โดยไทยต้องหารือร่วมกับกัมพูชาต่อไปเพราะไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิว่าเป็นพื้นที่ทับซ้อนเช่นกัน ตรงนี้ต้องใช้การเจรจาทางการทูตหรือพัฒนาพื้นที่นี้ให้สวยงามและอนุรักษ์ โดยอย่าลืมว่าไทยมีความตกลงกับกัมพูชาหลายฉบับ เช่น กรอบความร่วมมือทวิภาคี กรอบความร่วมมือสามเหลี่ยมมรกต การพัฒนาตามกรอบแอคเนคในการพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวร่วมกัน ฉะนั้นสถานที่แห่งนี้ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก มันก็จะนำมาซึ่งนักท่องเที่ยวและเกิดประโยชน์กับประชาชนทั้ง 2 ประเทศ

* ทหารชี้เขมรไม่ได้เหลื่อมล้ำไทย
พลโทแดน กล่าวเสริมว่า ยืนยันว่าสิ่งที่กรมแผนที่ทหารได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่จริงไปสำรวจเป็นครั้งแรกในปราสาทเขาพระวิหารในรอบหลายสิบปี เพราะเป็นเขตแดนของกัมพูชา กระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ประสานให้กรมแผนที่ทหารเข้าไปสำรวจปราสาทฝ่ายเดียวใช้เวลาตั้งแต่วันที่ 9 -11มิถุนายน โดยใช้เครื่องมือรังวัดแบบจีพีเอส ดาวเทียม อัตราส่วน 1 : 4,000 ส่วนที่ใกล้เขตแดนไทยที่สุดคือ 3 เมตรทางด้านใต้และมุมซ้ายของปราสาท สูงขึ้นมาจะห่าง 25 เมตร จุดห่างสูงสุดคือ 30 เมตร ช่วงบันไดนาคสุดท้ายจนถึงเส้นเขตแดนทางเหนือของไทยห่าง 10 เมตร จากการสำรวจอย่างละเอียด ยืนยันว่าไม่มีส่วนใดที่กัมพูชาขอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทับซ้อนหรือเหลื่อมล้ำเข้าเขตแดนไทย

* ท้า ปชป.ลาออกหากไม่เสียดินแดน
ด้าน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส. ระบบสัดส่วน พรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีความขัดแย้งเขาพระวิหารว่า ตนได้พูดคุยกับนายนพดลแล้วว่า กรณีเขาพระวิหารนั้นนายนพดลจะต้องอธิบายให้เคลียร์ คนที่ทำหน้าที่แบ่งเขตแดนคือกรมแผนที่ทหาร ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล ซึ่งหากเสียดินแดนไปจริงนายนพดลก็คงอยู่ไม่ได้เช่นกัน แต่ถ้าหากไม่มีการเสียดินแดนเกิดขึ้น ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ที่ออกมากล่าวหาจะต้องลาออกด้วยเช่นกัน กรณีนี้หากมีการเสียดินแดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียว ไม่ต้องรอให้ถึงกลุ่มพันธมิตรฯ พวกตนจัดการกับนายนพดลอย่างแน่นอน