คอลัมน์ : โต๊ะข่าวประชาทรรศน์
พฤติกรรมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ออกมาป่วนบ้านเมือง ปิดถนน ทำตัวเกะกะระรานทำชาวบ้านเดือดร้อนไปทั่ว แถมทำตัวเป็นนักเลงโตด่ารัฐบาลทุกวี่ทุกวัน ด้วยเรื่องราวที่ไม่มีหลักฐานและเป็นเรื่องโป้ปดมดเท็จ ตลอด 3-4 สัปดาห์ที่ผ่านมา ก็เป็นพฤติกรรมที่น่าเอือมระอามากพออยู่แล้ว
และในทรรศนะผมก็ต้องบอกว่าเป็นพฤติกรรมที่ “เลว” ได้ใจสุดๆ
แต่เมื่อมาถึงวันนี้ได้เห็นพฤติกรรมของกลุ่มพันธมิตรฯ จะมีการเคลื่อนพลปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล ขัดขวางการทำงานของรัฐบาล ที่มาตามวิถีทางประชาธิปไตย มีคนนับสิบล้านไว้วางใจให้เข้ามาทำงานบริหารบ้านเมืองกันในวันนี้
ยิ่งรู้สึกได้ว่า “โคตรเลว” ไปยิ่งกว่าเก่า
เป็นความชัดเจนว่าคนพวกนี้คิดแต่จะเอาชนะคะคาน โดยปราศจากเหตุผลมากขึ้นทุกวัน เรื่องราวที่ใช้ปราศรัยบนเวทีก็สะเปะสะปะ ชนิดที่เรียกว่ารัฐบาลจะหายใจเข้า หรือหายใจ
ออกก็เอามาด่าได้ทั้งหมด ทั้งที่หลายเรื่องยังไม่เกิดขึ้นจริง หรืออาจจะไม่ได้เกิดขึ้นด้วยซ้ำไป แต่กลุ่มพันธมิตรฯ ก็ยังเอามาใช้หลอกด่า ด้วยลีลาภาษาอย่าง “มีเหตุที่เชื่อได้ว่า...”
รวมทั้งเนื้อหาก็ยังหนักไปด้วยคำหยาบคาย ที่สะท้อนชัดถึงวุฒิภาวะ และพื้นฐานของคนพูดให้เห็นตัวตน ตลอดจนที่มาที่ไปได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ซ้ำยังมีเนื้อหาปลุกระดม และหลอกลวงพวกเดียวกันอยู่ตลอดเวลา โดยหวังจะสร้างความคึกคักให้กับการชุมนุม และสร้างความฮึกเหิมให้กับผู้คน อันเป็นยุทธวิธีเก่าๆ
รวมทั้งความพยายามในการเคลื่อนคนก็เช่นกัน เป็นสูตรสำเร็จของการสร้างม็อบ เพื่อกดดันหรือสร้างกระแสต่อรองโดยทั่วไป และที่มีการนัดหมายชุมนุมและเคลื่อนพลครั้งใหญ่ ก็เป็นเพราะหลากหลายยุทธวิธีที่งัดมาใช้ก่อนหน้านี้ ล้วนล้มเหลวโดยสิ้นเชิง
รวมทั้งยังมีข่าวออกมาจากกลุ่มผู้ชุมนุมเอง ว่าการเคลื่อนกำลังกันในวันนี้ กลุ่มพันธมิตรฯ หมายมั่นปั้นมือที่จะให้เกิดการปะทะ หวังจะยั่วยุให้รัฐบาลใช้กำลังเข้าปราบปราม เพื่อใช้เป็นความชอบธรรมในการเชื้อเชิญทหารเข้าทำการปฏิวัติ หรือไม่ก็จะได้หยิบมาเป็นประเด็นให้ร้ายรัฐบาลในโอกาสต่อไป
การเตรียมการปะทะดังว่านี้ เห็นได้ชัดจากการที่กลุ่มกองทัพธรรม มูลนิธิ ในเครือข่ายของ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ยอมอดหลับอดนอนสร้างโล่เอาไว้สำหรับกลุ่มแนวหน้าที่จะทะลวงการสกัดกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปสู่ทำเนียบรัฐบาลให้ได้
รวมไปถึงสิ่งที่คำว่า “เลว” ก็เอาไม่อยู่
คือโล่ทุกอันถูกติดไว้ด้วยภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ซึ่งหมายความว่าเป็นการนำเอาสถาบันเบื้องสูงมากดดันเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ไม่ให้กล้าเข้าปราบปราม ไม่กล้าแม้แต่จะแตะต้องโล่ที่คนพวกนี้หมายจะใช้ดึงดันไปให้ถึงที่หมาย
เป็นการแอบอิง หรือแอบอ้างเบื้องสูงอย่างเห็นได้ชัดแจ้ง
ทั้งที่ (ไอ้) คนพวกเดียวกันนี้ เคยพยายามกล่าวหาผู้คนในรัฐบาลอยู่บ่อยครั้งว่าเป็นคนที่ไม่จงรักภักดี จาบจ้วงสถาบันอันเป็นที่เทิดทูนของคนไทยทั้งประเทศ
แต่ขณะเดียวกันกลับไม่คิดว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่นั้น หมายความว่าอย่างไร
จริงอยู่ว่ากองทัพธรรมมูลนิธิ อันมีรากเหง้าจากลัทธิสันติอโศก เป็นลัทธินอกรีต ที่อาจจะไม่เลื่อมใส ไม่ศรัทธา และไม่เคารพต่อสถาบันศาสนา
อันเนื่องมาจากเป็นกลุ่มคนที่แม้จะมีการแต่งกายคล้าย ปฏิบัติกิจคล้าย แต่ก็มีความคิด และมีแนวทางที่แตกต่างจากศาสนาพุทธโดยสิ้นเชิง
แต่ก็ไม่นึกว่ากลุ่มคนเหล่านี้จะมีความคิดหยาบช้าต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่รักและเคารพเทิดทูนยิ่งของคนไทยทั้งชาติ
ผมเชื่อแน่ว่าประชาชนจำนวนไม่น้อยที่มีโอกาสได้ฟังกลุ่มพันธมิตรฯ ออกมากล่าวหารัฐบาลบ่อยครั้ง ก็อาจจะเกิดความเคลือบแคลงสงสัยในรัฐบาลขึ้นมาได้บ้าง หรือบางคนก็อาจจะถึงกับคล้อยตาม
แต่ในเรื่องของการนำเอาสถาบันมาเป็นเรื่องต่อรองทางการเมือง เอามาบังหน้า แอบอ้างให้คนเข้าใจผิดต่างๆ นานา ที่มีแต่จะทำให้สถาบันแปดปื้อน ประชาชนส่วนใหญ่ต้องไม่เห็นด้วยแน่
ไม่นึกเลยว่านอกจากคนพวกนี้จะไม่ใส่ใจในความเป็นไปของชาติ เป็นคนไม่มีศาสนา แล้วยังเป็นพวกที่บ่อนทำลายสถาบันเบื้องสูงอีกด้วย...!!
บิ๊กโบ๊ต