ไม่รู้รึไงว่า...นั่นมัน “เมืองพันธมิตร”!!!
อะไรก็ตามที่ออกมาจากคำสั่งรัฐบาล ภายใต้การนำของ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีของเมืองไทย แต่ “มิชอบ” ด้วยคำสั่งของ “คณะผู้ปกครอง” นำโดย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทั้ง 5 คน และอีก 1 ผู้ประสานงานฯ นั่นคือการ “ละเมิดอธิปไตย–แห่งรัฐ” ของ “เมือง
พันธมิตร”หรือ “รัฐอิสระ” ที่ถูกจัดตั้งขึ้นมา ซ้อน กับ “รัฐไทย” พวกเขามีพื้นที่ตั้งอาณาเขต “รัฐ-เมืองพันธมิตร” ของตัวเอง แม้ “เมืองหลวง” บริเวณคอสะพานมัฆวานฯ จะมีพื้นที่ไม่ถึง 1 ตารางกิโลเมตร แต่หากนับรวมพื้นที่อื่นๆ จากบรรดา “หัวเมือง” โดยเฉพาะ “ด้ามขวาน” เกือบทั้งด้าม และบางส่วนของหลายๆ จังหวัด ที่กระจายซ้อนอยู่ทั่ว “รัฐไทย”
อืมมม! พื้นที่ของ “รัฐใหม่” แห่งนี้ ก็ใช่ว่าน้อยกว่าสิงคโปร์ทั้งประเทศสักเท่าใด???
แล้วพวกเขาก็ยังมี ประชากร เป็นของตนเอง ประกอบด้วย “ราษฎร” ทั้งที่อยู่ใน “เมืองพันธมิตร” และกระจายอยู่ตาม อาณานิคมต่างๆ ของ “รัฐไทย” เดิม
มีข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ อาจารย์ นักวิชาการ นัดคิดนักเขียน นักร้อง นักดนตรี รวมถึง มีพรรคการเมือง มี ส.ส. และ ส.ว. เป็นของตัวเองอยู่ใน “รัฐไทย”
ที่พร้อมจะแยกตัวเพื่อเข้าไปร่วมกับ “เมืองพันธมิตร” ทุกเมื่อพวกเขา...ยังมี กองกำลังป้องกันตนเอง พร้อม อาวุธครบมือ
มีกฎหมายและระเบียบว่าด้วยการปกครองและการอยู่รวมกันมีการระดมเงินทุน ทั้งจาก “นายทุน” พ่อค้า นักธุรกิจ และนักอุตสาหกรรม ที่ประสงค์ จะ “ออกเงิน” แต่ไม่ประสงค์จะ “ออกนาม” มากมาย รวมถึง เงินบริจาค เป็นจำนวนมาก จาก “ราษฎร” ของพวกเขาเองที่สำคัญ “รัฐใหม่” ในนาม “เมืองพันธมิตร” ยังมี สถานีโทรทัศน์ ที่คอยเป็น “กระบอกเสียง” ของตัวเอง เหมือนกับรัฐบาลของชาติต่างๆเอาไว้คอยให้...ข้อมูลข่าวสาร ความรู้ สร้างขวัญและกำลังใจ ปลุกระดม และด่าทอเอากับใครก็ตาม ที่คิดจะ “ละเมิดอธิปไตย–แห่งรัฐ” ในความเป็น “เมืองพันธมิตร”
เหลืออีก 2 อย่างที่พวกเขายังไม่มี หรือถึงมี แต่ก็ยังไม่ชัดเจนนั่นก็คือ ประมุขแห่งรัฐ “คณะผู้ปกครอง” และ ราษฎรอาวุโสแห่ง “เมืองพันธมิตร” ยังมิอาจจะตัดสินใจ หรือยังไม่กล้าพอจะประกาศอย่างเป็นทางการ ในความเป็น “รัฐอิสระ” ของตัวเองเพราะยังตัดสินใจไม่ได้ว่า “ประธานาธิบดี” ซึ่งถือเป็น “ประมุขสูงสุดแห่งรัฐ” ของพวกเขา ควรจะเป็นใครกัน??? ระหว่าง 1 ใน 5 แกนนำหรือใครบางคน ที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดจะ “ออกตัว” และ “เปิดหน้า” ออกมาเล่นอย่างจริงๆ จังๆ
ทำตัวเป็น “อีแอบ” ประหนึ่ง “คนที่มองไม่เห็น” อยู่อย่างนั้นรวมถึงพวกเขา...ยังไม่มี “รัฐธรรมนูญ” ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศ จำเป็นจะต้อง “แอบอิง” เอากับ “รัฐธรรมนูญ” ของ “รัฐไทย” ระหว่างนี้ไปก่อน เห็นได้จากที่ แกนนำของ “เมืองพันธมิตร” อย่าง…นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรฯ ออกมาระบุว่า...“วันอังคารที่ 17 มิถุนายนนี้ จะไป ยื่นฟ้อง ต่อศาลปกครอง ใน 2 คำร้อง คือ 1. ฟ้องโต้แย้ง คำสั่งทางปกครอง ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้ระงับสัญญาณเอเอสทีวี พร้อมขอหลักประกันความคุ้มครองจากศาลว่า จะไม่คุกคามและระงับสัญญาณอีก
2. ฟ้องนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ ผู้ว่าราชการจังหวัด 10 จังหวัด ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเสียหาย
โดยมีผู้เสียหาย คือ 1. บริษัทไทยเดย์ ด็อทคอม จำกัด เจ้าของเอเอสทีวี 2. สมาคมเคเบิลแห่งประเทศไทย และ 3. ประชาชนผู้เสียหาย”อีกครั้ง! กับสิ่งที่ นายสุวัตร์ อภัยภักดิ์ ทนายประจำตัวของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำคนสำคัญของ “เมืองพันธมิตร” ประกาศดังๆ บนเวทีกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า...วันจันทร์ที่ 16 มิ.ย.นี้ เขาและทีมทนายความ จะไป ยื่นฟ้อง นายสมัคร สุนทรเวช และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง กรณี สั่งปิด ASTV โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
ขณะเดียวกัน พวกเขาก็ประกาศให้ประชาชนทั่วประเทศทราบว่า...จังหวัดใดที่ชม ASTV ไม่ได้ ก็ให้แจ้งความต่อตำรวจและคัดสำเนาส่งมาให้กลุ่มพันธมิตรฯ เพื่อนำไปยื่นฟ้องผู้ว่าฯ จังหวัดนั้นๆ ที่สั่งปิดเอเอสทีวีด้วย
โดยการฟ้องร้องดังกล่าว ได้กำหนดให้ นายสมัคร เป็นจำเลยที่ 1 ร.ต.อ.เฉลิม เป็นจำเลยที่ 2 และผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นจำเลยที่ 3ชัดเจนว่า...ยังคงต้อง พึ่งอำนาจ นิติบัญญัติแห่ง “รัฐไทย” ไปพลางๆ ก่อนตอกย้ำด้วยคำพูดของ นายพิภพ ธงไชย 1 ใน 5 แกนนำพันธมิตรฯ ที่ออกมาบอกว่า...
"ทั่วประเทศตอนนี้ ได้ เกิดปรากฏการณ์ ที่ ประชาชนจะไปร่วมชุมนุมหน้าศาลากลางจังหวัด หลังถูกระงับสัญญาณ (ของ ASTV) ซึ่งเป็นสิ่งที่คนในจังหวัดคิดกันเอง ไม่ใช่พันธมิตรส่วนกลางไปแนะนำ สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นวัฒนธรรมทางการเมือง ที่เรียกว่า “อารยะขัดขืน” เป็นการแสดงออกถึงความไม่เห็นด้วย”ชัดเจนขนาดนี้ ใครยังจะเชื่อว่า…มันไม่ใช่การส่งสัญญาณจากบรรดา “คณะผู้ปกครอง” แห่ง “รัฐอิสระ–เมืองพันธมิตร” อีกเล่า???ก็อย่างที่บอก นั่น “รัฐใหม่” ใครหน้าไหนที่คิดจะมาก้าวล่วง หรือคิดจะ “ละเมิดอธิปไตย–แห่งรัฐ” ของ “เมืองพันธมิตร” แล้วล่ะก็
เป็นต้อง เห็นดีกัน!!!
เรียกว่า...รัฐกู! ประเทศกู! ใคร...ก็อย่ามาแตะต้อง??? คนพวกนี้...ยอมไม่ได้เด็ดขาดส่วนคนของ...รัฐกู! ประเทศกู! ตั้งแต่ระดับ “คณะผู้ปกครอง” และ “ราษฎร” ของพวกเขา จะจัดกิจกรรมใดๆ ที่ได้สร้างปัญหาและความเดือดเนื้อร้อนใจแก่ “ราษฎรไทย” ซึ่งเป็นเจ้าของผืนดินอันเป็นที่ตั้ง “รัฐอิสระ–เมืองพันธมิตร” แล้วก็ช่างหัวมัน!!!ดูท่าแล้ว “คณะผู้ปกครอง” และ “ราษฎร” แห่งเมืองพันธมิตร คงเตรียมจะ “เปิดฉาก” บุกยึดพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญในเมืองหลวงของ “รัฐไทย” กันอีกครั้ง
นั่นก็คือ...ยึดสยามพารากอน!!!ทำเอา ตำรวจแห่ง “รัฐไทย” นำทีมโดย พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ก. ในฐานะรองโฆษก ตร. และนายตำรวจที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมเครียด เพื่อสรุปสถานการณ์และประเมินผลการรักษาความปลอดภัยและอำนวยการจราจร เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมาหาทาง “รับมือ” กับการ เคลื่อนพล ออกจากที่ตั้ง เมืองหลวงแห่ง “รัฐใหม่” ในครั้งนี้“จะมีกลุ่มคนไปให้กำลังใจและต่อต้านที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ต.วิทยา รัตนวิชช์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 (ผบก.น.6) เป็นผู้ดูแลการปฏิบัติ คาดว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมจำนวนหนึ่ง
โดยให้ตำรวจจราจรดูแล ซึ่งที่ผ่านมากลุ่มผู้ชุมนุมไปทาง สนามศุภชลาศัย ไปทาง พระราม 1 มุ่งหน้า กกต. แต่หลังจากนั้นไม่ทราบว่าจะไปที่ใดอีกหรือไม่ แต่ที่ผ่านมาเคยเคลื่อนไปยัง สยามพารากอน ก็จะให้ตำรวจดูแลใกล้ชิด โดยส่วนนี้ได้ประสานแกนนำไปแล้วว่าไม่เหมาะสม เพราะอยู่ใกล้กับ พระราชวัง ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลเรื่องการเคลื่อนย้ายแต่อย่างใด”นั่นคือการให้สัมภาษณ์ในเชิงคาดการณ์ของ พล.ต.ต.สุรพลข้อกังขาก็คือ เมื่อคนกลุ่มนี้ ชัดเจนกับการก่อตั้ง “รัฐอิสระ-เมืองพันธมิตร” ขนาดนี้ แล้วเหตุใดเจ้าหน้าที่บ้านเมืองจึงยังจะให้คนกลุ่มนี้ดำเนินการเยี่ยงนี้เล่า???
“ประเทศไทยเป็นหนึ่งเดียว ใครจะแบ่งแยกมิได้”มันก็ชัดเจนกับความเป็น กฎหมายสูงสุด ของบ้านเมืองนี้...มิใช่หรือ???หากจะปล่อยให้พวกเขาได้จัดตั้ง “รัฐอิสระ-เมืองพันธมิตร” ก็ควรจะกำหนดขอบเขต...อาณาบริเวณกันให้ชัดๆ ไปเลยว่า...ผืนดินส่วนไหนบ้าง ที่ควรจะเป็นของ “รัฐอิสระ-เมืองพันธมิตร” เพื่อให้ “ประธานาธิบดีคนแรก” “คณะผู้ปกครอง” และ “ราษฎร” ของพวกเขา ได้ตัดสินใจในการวางแผนเพื่อบริหารจัดการกันเอง ภายใน “รัฐอิสระ” แห่งใหม่นี้
จะได้ไม่ต้องสร้าง ปัญหาความเดือดเนื้อร้อนใจ แก่ “ราษฎรไทย” อย่างที่เป็นอยู่ในวันนี้ พวกเขาจะได้ไม่ต้องถูก “ครหา” ว่าเป็น “อนารยชน” ที่ต้องประกาศ “ขัดขืน” กับอำนาจรัฐแห่ง “รัฐไทย” อีกต่อไปเมื่อพร้อมสรรพเสียขนาดนี้ “คณะผู้ปกครอง” และ “ราษฎร” แห่ง “รัฐอิสระ-เมืองพันธมิตร” ก็ประกาศ จัดตั้งประเทศใหม่ เสียทีเหอะ!!!