"สมัคร" ยืนยัน "เฉลิม" ทำตามกฎหมายห้ามเคเบิลท้องถิ่นถ่ายทอดพันธมิตรฯ เหตุเพราะเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นการปลุกระดม ให้ร้ายผู้อื่น และยังใช้ถ้อยคำไม่เหมาะสม ชี้การชุมนุมทำเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยว เสียหายย่อยยับ “กุเทพ” ระบุคนได้ประโยชน์มีแค่ 2 คน คือ “จำลอง” ที่ได้เผยแผ่ลัทธิเถื่อน กับ “สนธิ” ที่หาเงินเลี้ยง ASTV จี้หยุดเคลื่อนไหวกดดันการทำงานองค์กรอิสระ
จากปัญหาสถานีโทรทัศน์ ASTV สื่อในเครือข่ายของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล หนึ่งในแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำเสนอข่าวการชุมนุมโดยหลายช่วงหลายตอนเป็นการพูดจาด้วยถ้อยคำจ้วงจาบหยาบคาย และให้ร้ายบุคคลที่ 3 อย่างต่อเนื่อง จน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ต้องออกมากำชับไม่ให้เคเบิลทีวี ถ่ายทอดรายการในช่วงที่มีความไม่เหมาะสม นั้น
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 15 มิถุนายน นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในรายการ "สนทนาประสาสมัคร" ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย เอ็นบีที ว่า การที่ ร.ต.อ.เฉลิม ขอความร่วมมือผู้ว่าราชการจังหวัด เข้มงวดกับผู้ประกอบการเคเบิลทีวีท้องถิ่นที่มีการเชื่อมต่อสัญญาณกับสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี ไม่ให้มีการเผยแพร่ภาพการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น เป็นการเตือนผู้ประกอบการ เพราะการเผยแพร่ภาพปราศรัยปลุกระดม หรือกล่าวพาดพิงว่าร้ายผู้อื่น โดยใช้ถ้อยคำที่รุนแรง มีความผิดตามกฎหมายอาญา พร้อมยืนยัน ร.ต.อ.เฉลิม ทำตามกฎหมายทุกอย่าง หากผู้ประกอบการเคเบิลทีวีท้องถิ่นรายใดถ่ายทอดถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม ก็จะต้องรับผิดตามไปด้วย
ส่วนกรณีที่มีผู้ร้องขอให้มีการตรวจสอบทรัพย์สินแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงไม่สามารถกระทำได้ เนื่องจากกลุ่มบุคคลเหล่านี้ หลายคนไม่ได้เป็นนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง และย้ำว่า การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ทำให้ภาพลักษณ์ทางด้านการท่องเที่ยว และธุรกิจการค้าของไทยเสียหายเป็นอย่างมาก
นายกรัฐมนตรี กล่าวตอบคำถามประชาชนที่เขียนเข้ามาถามว่า ในกรณีจะดำเนินการกับม็อบพันธมิตรฯ จะต้องรวมประชาชนจำนวนเท่าไร เพื่อยื่นฟ้องผู้ชุมนุม โดยนายสมัครกล่าวว่าไม่ต้องยื่นฟ้องเอง แจ้งความตำรวจดีกว่า ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟ้องให้ ส่วนเมื่อไรพันธมิตรฯจะเลิกประท้วงนั้น คงต้องไปถามที่สะพานมัฆวานฯ เพราะที่ผ่านมา ตนแค่บอกว่าเป็นการทำผิดกฎหมาย ประท้วงอย่างนี้ไม่ได้
ด้าน นายกุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการติดตามและวิเคราะห์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า กลุ่มพันธมิตรฯ พยายามชูประเด็นการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมในการสอบสวนคดีต่างๆ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อหาความชอบธรรมในการชุมนุม รวมทั้งการเคลื่อนขบวนไปยังองค์กรอิสระ ทั้ง คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐหรือ คตส. และคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ในวันที่ 16 มิ.ย.นี้ ถือเป็นการกดดันองค์กรอิสระให้ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวทางที่กลุ่มพันธมิตรฯ ต้องการ
นอกจากนี้ นายกุเทพ กล่าวว่า สาเหตุที่กลุ่มพันธมิตรฯ พยายามให้การชุมนุมยืดเยื้อนั้น เนื่องจากมีผู้ที่ได้รับผลประโยชน์ คือ พลตรีจำลอง ศรีเมือง ที่ใช้เวทีเพื่อเผยแพร่ลัทธิจำลอง และนายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่ใช้เวทีพันธมิตรฯ เป็นเวทีทอล์กโชว์โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย และจูงใจให้ประชาชนติดตั้งจานดาวเทียมเอเอสทีวีเพิ่มขึ้น
พร้อมทั้งกล่าวถึงกรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สั่งให้เคเบิลทีวีท้องถิ่นระงับการเผยแพร่ภาพการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า เป็นเพียงการคุมเข้มการออกอากาศเพราะมีคำพูดหยาบคาย ซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
ขณะเดียวกันที่ห้องประชุมสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน สาขาเชียงราย ถนนธนาลัย อ.เมือง จ.เชียงราย กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย จ.เชียงราย ได้จัดให้มีการประชุมสภาประชาชนสัญจรโดยใช้หัวข้อ "วิพากษ์รัฐธรรมนูญ 2550 ภาคประชาชน"
โดยมีกลุ่มองค์กรภาคประชาชนส่งตัวแทนเข้าร่วมหลายกลุ่ม เช่น กลุ่มพิทักษ์ประชาธิปไตย กลุ่มคนเจียงฮายฮักประชาธิปไตย กลุ่มลูกพ่อขุน กลุ่มซาเล้ง กลุ่มรถอีแต๋น กลุ่มเสียงประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ฯลฯ รวมกันทั้งหมดประมาณ 9 องค์กร โดยมี นายอินทร์ จันทร์เจริญ อธิบการบดีวิทยาลัยเชียงราย เป็นประธานในที่ประชุม และนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข อดีตแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ไปเป็นวิทยากรและที่ปรึกษาในที่ประชุมด้วย
ที่ประชุมได้มีการเปิดให้แกนนำแต่ละกลุ่มผลัดเปลี่ยนกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับวิธีการในการรณรงค์ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 และสนับสนุนรัฐบาลชุดปัจจุบันให้อยู่รอดภายใต้แรงกดดันทั้งจากทางด้านเศรษฐกิจและการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
นายอินทร์ กล่าวว่า จากผลการแสดงความคิดเห็นจากทุกฝ่ายได้ข้อสรุปว่า ต้องการมีการจัดกิจกรรมเพื่อรณรงค์ตามแนวทางที่มีความเห็นร่วมกันอย่างต่อเนื่องโดยมีเจ้าภาพในการดำเนินการในแต่ละกิจกรรมย่อย และจะยังคงให้มีกลุ่มระดับย่อยๆ ต่างๆ เหล่านี้เอาไว้โดยไม่ควบรวมเป็นองค์กรเดียว จากนั้นวันที่ 24 มิถุนายนนี้ จะมีการจัดกิจกรรมใหญ่เพื่อจุดประกายไปยังประชาชน ณ สวนตุงและโคมเฉลิมพระเกียรติ เชียงราย ถนนธนาลัย เทศบาลนครเชียงราย สำหรับเรื่องทุนดำเนินการจะได้หารือกันต่อไป
ด้านนายสมยศ กล่าวว่า เป้าหมายในการดำเนินการมีอยู่ 3 ประการ คือ ต้องการให้มีการแก้รัฐธรรมนูญปี 2550 เพื่อนำไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยผ่านทางตัวแทนประชาชน คือรัฐสภา รณรงค์เพื่อให้มีการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และสนับสนุนรัฐบาลเพื่อให้สามารถอยู่รอดภายใต้แรงกดดันที่มาจากการชุมนุม
ด้าน พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ก.ในฐานะรองโฆษก ตร.กล่าวถึงการรับมือยุทธวิธีดาวกระจายของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่จะเคลื่อนขบวนผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งไปยังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ในวันจันทร์ที่ 16 มิถุนายนนี้ ว่า ได้มอบหมายให้ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 เจ้าของพื้นที่ เป็นผู้รับผิดชอบ และประเมินสถานการณ์ ซึ่งหากมีความจำเป็นสามารถประสานขอกำลังเสริมมายังกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ทันที