ก็คงไม่ต้องเดาสถานการณ์แนวรบรอบล่าสุดที่ม็อบพันธมิตรฯส่งสัญญาณ เป่านกหวีดเคลื่อนขบวนจากสะพานมัฆวานฯถนนราชดำเนินล้อมทำเนียบรัฐบาล ในบ่ายวันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน ก่อนที่ดาวอังคารจะย้ายจากราศีกรกฎเข้าสู่ราศีสิงห์ในวันที่ 21 มิถุนายน ตั้งท่าจ้องหักดิบกันให้ได้ภายในสัปดาห์นี้ ไฟต์บังคับเดิมพันสุดสายป่าน ต้องลุยเล่นก่อนหมดมุก ฮึดก่อนหมดหน้าตัก และก็ยิ่งเพิ่มดีกรีเร้าใจเข้าไปใหญ่ “สิงห์เหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย อ้างแหล่งข่าวระดับอดีตนายทหารยศพลเอก จปร.7 ที่เคยติดคุกการเมืองด้วยกัน แต่ไม่ระบุว่าเป็น พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ที่ยืนยันข้อมูลว่า มีการขนอาวุธเข้ามาในกรุงเทพฯแล้วส่วนหนึ่ง คาดว่าจะนำมาสนับสนุนการก่อสถานการณ์ความวุ่นวาย เผาหัวม็อบซะร้อนจี๋เลย แต่ก็ยังเย็นอยู่ได้ แม้จะมีประโยคแหลมๆแรงๆจากปากของ “ลุงหมัก” นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ประเภทที่ว่า ไม่มีเหตุผลที่กลุ่มคนจากข้างถนนจะมาไล่คนที่มาจากการเลือกตั้ง แต่ประเมินจากที่ “ลุงหมัก” พูดระหว่างการชี้แจงและมอบนโยบายให้กับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ยืนยันจะใช้ความอดทน ไม่ใช้ความรุนแรงกับม็อบ และจะไม่ใช้อำนาจเพื่อนำ กอ.รมน.มาเป็นเครื่องมือ เพราะยังเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถดูแลการชุมนุมของม็อบพันธมิตรฯได้ ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้กำลังทหารเข้าดูแลสถานการณ์ ในโทนเดียวกับ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ยืนยันไม่ได้สั่งการให้กองทัพดำเนินการอะไรเป็นพิเศษกับผู้ชุมนุม เพราะทหารจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง พร้อมทั้งระบุในการเรียกหารือ ผบ.ทบ.พร้อมผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายกฯสมัครได้กำชับให้ตำรวจควบคุมดูแลสถานการณ์ เน้นที่สร้างความเข้าใจและหลีกเลี่ยงการใช้กำลังรุนแรง “ลุงหมัก” กับ “บิ๊กป๊อก” ศูนย์รวมอำนาจยังไม่ส่งสัญญาณ และก็เป็นอะไรที่ได้คิวพูดในจังหวะเข้าด้ายเข้าเข็ม นายสุรชาติ บำรุงสุข อาจารย์ประจำภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ความเห็นบนเวทีสัมมนา “บทบาทของทหารอาชีพกับประชาธิปไตย” จัดโดยกระทรวงกลาโหม วิเคราะห์กันแบบตรงไปตรงมา การยึดอำนาจในปี 2549 จนถึงวันนี้ยังไม่รู้ว่าจะจบลงตรงไหน กองทัพกำลังติดกับตัวเอง เพราะการเมืองต้องการลากกองทัพเข้าสู่สถานการณ์ และการยึดอำนาจปี 2549 น่ากลัว เพราะเป็นการสร้างแนวคิดให้ทหารเด็กๆมองว่า อำนาจกำลังรบ สามารถเปลี่ยนเป็นอำนาจการเมืองได้ การยึดอำนาจทำได้ไม่ยาก “สังคมไทยตอนนี้ ต้องอ่านหนังสือเรื่องสติของท่านพุทธ-ทาสภิกขุให้มาก ถ้าปัญญาไม่เกิด สติไม่กลับ ก็เตรียมสวดมนต์ ไว้ได้อย่างเดียว หากสังคมเกิดปัญหาแล้วไปเอาทหารออกมา ปัญหาจะตามมา หากจะทำอะไรตอนนี้ก็คิดหน้าคิดหลังให้ดี” อาจารย์ชิงดักคอบนเวทีวิชาการ และก็เป็นมวยเหมือนกัน พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ รองโฆษกกระทรวงกลาโหม รีบออกตัวแทนทหาร ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา กองทัพได้ยินเสียงชาวบ้านบ่นเข้าหูมาตลอด ซึ่งกองทัพต้องปรับตัวตามความต้องการของสังคม แต่ถามว่าความต้องการจริงๆของสังคมคืออะไร ถ้ากองทัพออกไปช่วย จะช่วยได้หรือไม่ “ต้องยอมรับว่า พล.อ.อนุพงษ์เป็นคนหนักแน่น ท่านบอกว่าจะไม่ยุ่ง แต่ก็มีคนมายั่วแทบทุกวัน ตอนนี้กองทัพแทบจะนั่งวิปัสสนารายอาทิตย์” การันตีแทนนาย สรุป นักวิชาการก็ดักทาง ทหารก็ระวังตัว นาทีนี้ยังยั่วไม่ขึ้น. ทีมข่าวการเมือง รายงาน
ถือฤกษ์ชิงตัดหน้าดวงดาว