WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, June 16, 2008

‘โพธิรักษ์’ ผิดซ้ำมีสิทธิ์ติดคุกหัวโต

“ทนายความ-นักกฎหมาย” เรียงหน้าจี้เอาผิด “โพธิรักษ์” และบรรดาสมุนสันติอโศก ระบุเคยต้องคำพิพากษาจำคุกฐานมีพฤติกรรมเลียนแบบสงฆ์มาแล้วแต่ให้รอลงอาญา หากมีการฟ้องร้องในความผิดเดิมอีกมีความเป็นไปได้ที่อาจจะต้องคำพิพากษาจำคุกทันที โดยเป็นไปตามดุลพินิจศาล และอาจพ่วงความผิดด้านความมั่นคงเข้าไปด้วย เพราะออกมาร่วมชุมนุมขับไล่รัฐบาลอย่างชัดเจน

จากกรณีที่มหาเถรสมาคม ได้ยื่นเรื่องให้อัยการเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2539 เพื่อเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายรักษ์ รักพงษ์ หรือ โพธิรักษ์ ฐานเป็นพระภิกษุล่วงละเมิดพระธรรมวินัยเป็นอาจิณ และแต่งกายหรือใช้เครื่องหมายที่แสดงว่าเป็นพระภิกษุ ต่อศาลแขวงพระนครเหนือ และต่อมาศาลแขวงพระนครเหนือได้พิพากษาลงโทษจำคุกเป็นเวลา 66 ปี แต่เนื่องจากจำเลยไม่เคยได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกเห็นสมควรให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี โดยให้ละเว้นการประพฤติใดอันอาจนำไปสู่การกระทำความผิดในทำนองเดียวกันอีก

แต่ปรากฏว่า ในปัจจุบันนายรักษ์ ก็ยังคงแต่งกายคล้ายสงฆ์ และปฏิบัติกิจของสงฆ์ อย่างเช่น บิณฑบาต อาราธนาศีล และให้ศีลให้พร มีประชาชนกราบไหว้เสมือนเป็นพระภิกษุ แบบเดียวกับที่ศาลเคยมีคำพิพากษาไปก่อนหน้านี้ ทั้งยังมีพฤติกรรมในการออกมาร่วมชุมนุมขับไล่รัฐบาลด้วย นั้น

นายพิชา วิจิตรศิลป์ ทนายความ กล่าวว่าในการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะเห็นว่ากลุ่มสันติอโศก ได้มีการออกมาเคลื่อนไหว และมีพฤติกรรมที่เห็นว่าเป็นการกระทำที่เลียนแบบพฤติกรรมของสงฆ์ เช่น การออกบิณฑบาต หรือการสมาทานศีลชัดเจน

โดยพฤติกรรมเหล่านี้อาจจะเข้าข่ายผิดซ้ำสองเมื่อตอนปี 2539 และการกระทำเหล่านี้ล้วนมีความผิด อีกทั้งคำพิพากษาของศาลที่ว่า “โดยให้ละเว้นการประพฤติใดอันอาจนำไปสู่การกระทำความผิดในทำนองเดียวกันอีก” อาจจะเป็นดุลพินิจของศาลหากได้มีการกระทำผิดซ้อนความผิดเดิม ที่อาจจะไม่มีการรอลงอาญาอีก

แต่การจะเอาความผิดในพฤติกรรมการเลียนแบบสงฆ์นั้น อาจจะมีปัญหา เพราะว่าคนกลุ่มนี้มีพฤติกรรมแบบนี้มาตั้งนานแล้ว จะเอาผิดอีกอาจจะถูกกล่าวหาว่าเป็นเรื่องทางการเมือง ซึ่งตอนนี้กลุ่มสันติอโศก ก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับทางมหาเถรสมาคม จะไปเอาความผิดตาม พ.ร.บ. ของสงฆ์ก็คงจะไม่ได้ เพราะก็ไม่ทราบว่ากลุ่มสันติอโศก ถือศีลครบ 227 ข้อ หรือเวลาการอุปสมบทมีพิธีกรรมแบบสงฆ์ไหม ไม่ทราบถึงข้อแตกต่างนั้น

ขณะเดียวกันดูเหมือนว่าการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ จะมีกลุ่มสันติอโศก จะเป็นแกนนำ ในการชักนำบุคคลเข้าร่วมการชุมนุมด้วย มีการจัดสรรการทำหน้าที่ต่างๆ ออกไป

“แต่ในการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ก็มี กองทัพธรรม ของกลุ่มสันติอโศก ปักหลักอยู่ในการชุมนุมอย่างชัดเจน จนอาจทำให้เกิดข้อสงสัยได้ว่า กลุ่มสันติอโศก สนับสนุนคนกลุ่มนี้ให้มีการล้มล้างรัฐบาล หรือเปล่า เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นจะถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงด้วย” นายพิชากล่าว

ทางด้านนายคารม พลทะกลาง ทนายความชมรมนักกฎหมายเพื่อประชาชน กล่าวว่า ในกรณีที่สันติอโศก กระทำความผิดในการเลียนแบบพฤติกรรมสงฆ์นั้น ถ้ามีคนร้องเรียนอีก นำพยานหลักฐานไปร้องเรียน ก็จะมีความผิดในส่วนเดิมอีก ซึ่งน่าจะถือว่าเป็นการละเมิดคำสั่งและอำนาจของศาล ตอนนี้ก็คงไม่ต้องรอลงอาญาแล้ว สามารถเอาผิดได้เลย แต่ทั้งนี้ต้องอยู่ในดุลพินิจของศาลด้วย

การที่กลุ่มของสันติอโศก ยังมีการทำพฤติกรรมที่เลียนแบบสงฆ์ ไม่ว่าจะเป็นการออกบิณฑบาต หรือการสมาทานศีลก็ตาม ล้วนแล้วแต่มีความผิดทั้งนั้น ถึงแม้ว่าทางสันติอโศก จะไม่ได้อยู่ในความดูแลของทางมหาเถรสมาคม และอาจจะเอาผิดทาง พ.ร.บ.สงฆ์ ไม่ได้ แต่ถ้าปล่อยไว้แบบนี้นานๆ ไปจะยิ่งทำให้ศาสนาเสื่อม และคนก็จะไม่ศรัทธาในพุทธศาสนา

ถึงแม้ว่าคนกลุ่มนี้จะอ้างว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในการคุ้มครองหรือดูแลของทางมหาเถรสมาคม และไม่สามารถจะเอา พ.ร.บ.สงฆ์ ตัดสินเอาความผิดได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะปล่อยให้คนกลุ่มนี้ทำความเสื่อมเสียให้พุทธศาสนาต่อไป จะนำกฎหมายอาญามาปรับใช้เพื่อให้เหมาะสม เพื่อที่จะสามารถเอาผิดกับคนกลุ่มนี้ที่มีพฤติกรรมเลียนแบบสงฆ์