คือผมรักในหลวง เพราะพระองค์ท่านทรงเสียสละที่ยิ่งใหญ่ช่วยเหลือสร้างคุณประโยชน์ต่อประเทศไทยมาตลอดชีวิตของท่าน พระองค์ท่านเป็นแบบอย่างที่ดีของประเทศชาติ
แต่อย่างไรก็ตาม ผมก็ไม่ชอบระบบเศรษฐกิจแบบพอเพียงครับ ผมชอบชีวิตที่สบายมีกินมีใช้ เจ็บป่วยได้รับการรักษาพยาบาล มีเิงินจับจ่ายใช้สอย และผมไม่ชอบทำนา แม้่ว่าผมจะ้เป็นลูกชาวนาก็ตาม พ่อแม่ผมอุตสาห์อาบเหงื่อต่างน้ำให้ผมเรียน เพราะไม่ต้องการให้ผมเป็นชาวนาลำบากเหมือนพวกท่านอีก ดังนั้นผมจึงไม่ชอบเศรษฐกิจแบบพอเพียง ผมอยากมีเงินใช้อย่างพอเพียง
ผมไม่ชอบมีชีวิตแบบปู่เย็น เฒ่าทรนงแห่งลำน้ำเพชรบุรี ที่หาเ้ช้ากินค่ำ ไม่มีแม้กระทั่งบ้านอยู่อาศัย ผมต้องการสวัสดิการสังคม ที่ผมแก่แล้วก็มีบ้านให้คนชราพักอาศัย มีบำนาญเลี้ยงชีพแบบคนแก่ในประเทศยุโรปทั้งหลายที่มีสวัสดิการเบี้ยเลี้ยงชีพยามชราให้ ไม่ต้องทำงานหาเลี้ยงชีวิตไปจนอายุเป็นร้อยปีแล้ว ก็ยังต้องหากินเลี้ยงชีวิตอยู่ โดยที่สังคมไม่ได้มีส่วนช่วยค้ำจุนเลย
ผมไม่ต้องการระบอบการเมืองแบบ 70/30 หรือระบอบแต่งๆ ตั้งใดๆ ผมต้องการประชาธิปไตยเต็มใบ นักการเมืองไม่ว่า สส.หรือ สว. จะต้องมาจากการเลือกตั้งของประชาชน ไม่ใช่่ใครก็ได้เลือกมาให้ผม ผมต้องการให้หนึ่งเสียงของผมมีคุณค่า มีความหมายทางการเมือง ที่นักการเมืองจะต้องให้ความสำคัญและให้ความสนใจ
ผมรักทักษิณ ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีผลงานดีเยี่ยม สร้างความหวังให้กับคนชั้นล่าง คนรากหญ้าทั่วประเทศ ทำให้ประเทศไทยมีศักดิ์ศรีสามารถเชิดหน้าชูตาในสังคมโลกได้อย่างทรนง
ผมชอบสิ่งที่ผมกล่าวมาทั้งหมดนี้ และผมก็ัรักในหลวง เคารพเทิดทูนสถาบันกษัตริย์ให้อยู่สถิตย์คู่ประเทศไทยไปชั่วกาลนาน อยู่เหนือการเมือง และเป็นที่เทิดทูนของทุกฝ่าย
ผมไม่ต้องการรัฐประหาร และผมจะต่อต้านรัฐประหารอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นวันนี้ หรือวันไหนก็ตามที่มีรัฐประหารผมก็จะต่อต้าน
ผมรักในหลวง รักประชาธิปไำตย รักระบอบทุนนิยมโลกาภิวัฒน์ เกลียดรัฐประหาร เกลียดระบอบอำมาตยาธิปไตย
ผมต้องการประชาธิปไตย ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
เคยมีเพื่อนนักรบไซเบอร์ ให้ข้อคิดกับผมว่า ชีวิตของ ปู่เย็น เฒ่าทรนง แห่งลุ่มน้ำเพชรบุรี เป็นชีวิตที่น่าทุเรศยิ่งนัก ชราอายุกว่าร้อยปีแล้ว แต่สังคมไม่มีระบบสวัสดิการที่ดูแลคนชราหรือ senior citizen เหล่านี้เลย ปล่อยให้ปู่เย็นที่ไม่มีญาติพี่น้องไม่มีทางเลือก ต้องออกไปลอยเรือหาปลา อยู่กลางลำน้ำ หลายสิบปี
ผมเชื่อว่าปู่เย็นไม่อยากพึ่งคนอื่นที่ไม่ใช่พี่น้องของตน เพราะมันทำให้ "ศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ของปู่เย็นลดลง" เพราะถึงอย่างไรมนุษย์ที่ไปขอคนอื่นกินแบบสิ้นไร้อับจนหนทาง ย่อมคิดว่าตัวเองสูญเสียศักดิ์ศรีแห่งความเป็นคนไป ผมเข้าใจความรู้สึกทีหยิ่งทรนงของปู่เย็นดี จึงต้องออกไปใช้ชีวิตอย่างทรนงจนอายุเป็นร้อยปี
แต่หากว่า ประเทศไทยมีระบบสวัสดิการสังคมแบบยุโรป รัฐดูแลคนชราเหล่านี้ ผมเชื่อว่าปู่เย็นก็จะยอมรับพึ่งรัฐ เพราะมันคือ "สวัสดิิการ" ไม่ใช่ สังคมสงเคราะห์ และสวัสดิการสังคมไม่ได้ลดศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ลง
สวัสดิการของรัฐ คือสิทธิที่พลเมืองพึงจะได้ ไม่ใช่การสยบวิงวอนขอร้อง เพราะสิ้นท่า หรืออับจนหนทาง
เราจะเห็นได้ว่า ในตอนปลายชีวิตก่อนตาย ปู่เย็นก็ยังยินยอมรับสวัสดิการที่รัฐให้โดยผู้ว่าราชการจังหวัด ได้จัดปิ่นโตไปให้ โดยใช้งบประมาณของรัฐ ไม่ต้องออกไปหาปลาอีก
ดังนั้นชีวิตของปู่เย็น จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าชมเชย แต่น่าทุเรศมากกว่า
ผมเชื่อว่า ไม่มีคนต้องการอยู่อย่างนั้นหรอกครับ แต่ที่หลงไหลได้ปลื้ม เพราะไปคิดว่านั้นคือชีวิตที่อิสระมีศักดิศรี ไม่ต้องพึ่งใคร
แต่สังคมมีรัฐสวัสดิการได้ โดยอาจเก็บภาษีเราตอนมีเงินทำงานก่อน พอเกษียน ก็มีเงินเลี้ยงชีพ แบบข้าราชการ
ผมไม่เห็นข้าราชการที่เกษียณออกไปใช้ชีวิตแบบปู่เย็นสักคนเดียว
ปู่เย็นไม่มีทางเลือกมากกว่า
ผมไม่ได้ดูถูกปู่เย็น แต่ผมไม่หลงไหลไปกับการโปรประกันดา การโฆษณาชวนเชื่อ ให้คนไปใช้ชีวิตแบบปู่เย็น
ปู่เย็นไม่มีสวัสดิการสังคมอะไร ไม่มีลูกหลาน แกจึงไม่มีทางเลือก การออกไปใช้ชีิวิตแบบนั้น คือการดำรงอยู่ได้โดยที่ปู่เย็นจะไม่เสียศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ไป
ผมว่าสังคมสมัยใหม่ เขามีทางออกในการแก้ไขปัญหานั้นแล้ว คือ รัฐสวัสดิการ
เราลองคิดดูซิครับว่า หากสังคมปล่อยให้คนแก่ชราภาพที่ไม่มีลูกหลาน ไม่มีบำนาญ ต้องออกไปลอยเรือหาปลาอยู่ ทั้งที่่มันพ้นวัยเกษียณไปนานแล้ว สังคมแบบนี้มันทุเรศขนาดไหน นั่นไม่ใช่แบบอย่างของชีวิตที่ดี ไม่ใช่แบบอย่างของชีวิตที่มีคุณภาพและน่าภาคภูมิใจ แต่เป็นสิ่งที่สังคมต้องแก้่ไขไม่ให้เกิดกรณีแบบนั้นขึ้น