ที่มา ประชาทรรศน์
เมื่อคืนวันที่ 17 มกราคม ที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรฯ ได้กล่าวปราศรัยบนเวที “คอนเสิร์ตการเมือง”ครั้งที่ 1 ที่สนามกีฬาเทศบาลเมืองชลบุรี โดยได้ยกย่องชมเชยพันธมิตรฯ ชลบุรี ที่เป็นต้นแบบให้จังหวัดอื่นในการจัดงานของพันธมิตรฯ ซึ่งมีเป้าหมายคือสร้างพันธมิตรฯ ที่แข็งแกร่ง แบบของจริง
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า การจัดงานวันนี้แสดงว่าการปฏิรูปการเมือง การยกระดับการเมืองภาคประชาชนได้จุดขึ้นแล้ว และให้รักษามาตรฐานนี้เอาไว้ให้ทุกจังหวัดได้จัด เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่านักการเมือง นักเลือกตั้งจะรวยเป็นเศรษฐีโลก ถ้าโกงหรือทุจริต จะโดนพันธมิตรฯ ขับไล่ทุกรายไป พี่น้องชลบุรี ได้สร้างศักยภาพอันยิ่งใหญ่ ได้เปลี่ยนการเลือกตั้งของจังหวัดไปเรียบร้อยแล้ว แสดงว่า นักการเมืองนั้นถ้าเราเลือกก็ได้เป็น ถ้าเราไม่เลือกก็ไม่ได้เป็น นี่คือสิ่งที่เรียกว่าอำนาจเป็นของประชาชน นักการเมืองไม่ว่าระดับท้องถิ่นหรือระดับชาติ พวกเขาคือลูกจ้างของเรา ต้องทำตามเจตจำนงของเรา ต้องไม่โกงเงินภาษีเรา เมื่อไรก็ตามถ้าไม่ซื่อสัตย์ ไม่เสียสละ ไร้ศีลธรรม เราต้องปลดออกทันที
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า การชุมนุม 193 วัน ในปี 2551 และ 34 วัน ในปี 2549 เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่มีประเทศไหนทำได้ เราไล่นายกฯ ออกไปได้ 3 คน สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้สังคมโลก เราเอาธรรมะนำหน้า สู้ด้วยมันสมอง 2 มือ สติปัญญา ร้อยรัดพลังอันยิ่งใหญ่ของคนทุกระดับเพื่อทำหน้าที่พลเมืองดี นี่คือสาระสำคัญของการชุมนุม เราไม่ได้มาสนุกรื่นเริง แต่สร้างวัฒนธรรมใหม่ สร้างวิธีกู้ชาติให้พ้นจากทุนสามานย์ที่ทักษิณและพวกนำมา
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ถ้า ทักษิณ ยังอยู่ ก็จะโกงกินขายชาติต่อ วันนี้ทักษิณจบไปแล้ว แต่ระบอบทักษิณยังอยู่ บางคนมาอยู่ร่วมรัฐบาลกับประชาธิปัตย์ เราไม่สามรถไว้วางใจ เราต้องตรวจสอบเข้มข้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต้องเลือกเอาระหว่างประชาชนกับนักการเมืองที่เคยอยู่กับทักษิณแล้วมาอยู่ร่วมรัฐบาล ถ้ายอมให้คนพวกนี้ ไม่สนใจประชาชนที่ต่อสู้มา เขาต้องสู้กับพวกเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ จะต้องดำเนินการตามเจตนารมณ์ของประชาชน จัดการพวกจาบจ้วงอย่างเด็ดขาดไม่เกิน 3 เดือน จัดการคนฆ่าประชาชนไม่เกิน 3 เดือน ถอนพาสปอร์ตทักษิณทุกเล่มไม่ควรเกิน 1 เดือนครึ่ง เอา ปตท.คืนมาไม่เกิน 6 เดือน เลิกขายรัฐวิสาหกิจ ขายน้ำขายไฟ สร้างงานให้ประชาชนทันที ไม่ควรให้ประชาชนถูกเลิกจ้าง ต้องช่วยผู้ใช้แรงงวานโดยตรง เลิกหนี้สินเกษตรกรที่เกิดจากโครงการของรัฐที่ไม่ชอบธรรม ต้องให้มีการตรวจสอบตาม ข้อเรียกร้อง 13 ข้อที่พันธมิตรฯ แถลง ไม่ว่ารัฐบาลไหนมา ต้องให้ประชาชนตรวจสอบการทำงานตามสิทธิที่มีในรัฐธรรมนูญ
นายสมศักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับพวกลิ่วล้อระบอบทักษิณนั้น อย่าไปใส่ใจไม่มีราคา โดยเฉพาะ ดีทีวี ที่เป็นสุนัขรับใช้ทักษิณไม่ต้องกลัว สู้เอเอสทีวีไม่ได้แน่นอน และอย่าลืมว่าเราเป็นนักรบประชาชนต้องเตรียมพร้อมตลอดเวลา ไปไหนก็พกมือตบ หน้ากากกันแก๊สน้ำตา น้ำ 1 ขวดไว้ตลอด พร้อมที่จะออกมาชุมนุมทันที
อนึ่ง แกนนำพันธมิตรฯ ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 29/2551 เรื่อง "คำเตือนก่อนเข้าสู่อำนาจ" เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม โดยได้อ้างถึงการชุมนุมตลอด 193 วันว่าเป็นการเสียสละอันยิ่งใหญ่ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง พร้อมกับยื่นข้อเรียกร้อง 13 ข้อต่อรัฐบาลใหม่ ประกอบด้วย
1.เร่งรัดดำเนินคดี ดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ต่อ นายจักรภพ เพ็ญแข นายวีระ มุสิกพงศ์ เว็บไซต์ สื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุชุมชน และปราบปรามขบวนการดูหมิ่นและล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ทั้งหมด โดยด่วนที่สุดเป็นลำดับแรก
2.ขอให้แสดงจุดยืน ที่จะไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 หรือกฎหมายอื่นใดที่จะฟอกความผิดให้กับนักการเมือง ไม่แก้ไขกฎหมายเพื่อการกระทำที่ขัดกันแห่งผลประโยชน์ของนักการเมือง และไม่แก้ไขกฎหมายเพื่อลดพระราชอำนาจหรือโครงสร้างของสถาบันพระมหากษัตริย์ในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
3.ต้องส่งเสริมให้คนดีมีความสามารถมาปกครองบ้านเมือง ป้องกันมิให้คนไม่ดีมีอำนาจ บริหารราชการแผ่นดินด้วยความโปร่งใส อย่าได้นำนักการเมืองหรือข้าราชการที่มีมลทิน ไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม มีการขัดกันแห่งผลประโยชน์ในตำแหน่งหน้าที่ หรือมีพฤติกรรมที่จะแสวงหาประโยชน์ในทางมิชอบ มาร่วมบริหารราชการแผ่นดินเป็นอันขาด
4.ขอให้เร่งรัดคดีทุจริตคอร์รัปชั่นให้เข้าสู่กระบวนการในชั้นศาล โดยปราศจากการแทรกแซงทั้งทางตรงและทางอ้อม ทำการโยกย้ายข้าราชการที่รับใช้ระบอบทักษิณให้พ้นจากตำแหน่ง อาทิเช่น อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เลขาธิการองค์การอาหารและยา ฯลฯ และยึดทรัพย์สินที่โกงชาติไปกลับมาเป็นของรัฐ
ทั้งนี้ เพื่อเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง ขอให้แสดงจุดยืนที่จะเร่งรัดดำเนินคดีบุกรุกและครอบครองที่ดินกรณีเขากระโดงของการรถไฟแห่งประเทศไทย และที่ดินสาธารณะประโยชน์ใน อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ดำเนินการและยกเลิกการเช่าพื้นที่ขายสินค้าในสนามบินสุวรรณภูมิที่มิชอบ ยกเลิกและดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่รัฐและเอกชนที่ให้เช่ารายการสถานีโทรทัศน์วิทยุแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ ช่อง 11 อย่างไม่โปร่งใสโดยทันที
5.ขอให้ยกเลิกหนังสือเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีอาญาแผ่นดินโดยทันที
6.ขอให้เร่งรัดดำเนินการเพื่อให้ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ร้ายหนีอาญาแผ่นดินมาดำเนินคดีในประเทศไทยโดยทันที
7.ขอให้ประกาศยกเลิกแถลงการณ์ร่วมระหว่างไทย-กัมพูชา ที่ยกปราสาทพระวิหาร และพื้นที่โดยรอบให้กับกัมพูชาแต่เพียงฝ่ายเดียว และรักษาอธิปไตยทั้งดินแดนและแหล่งพลังงานก๊าซธรรมชาติและน้ำมันในอ่าวไทยจนถึงที่สุด
8.ขอให้เร่งรัดสลายรัฐตำรวจ โยกย้ายข้าราชการตำรวจที่ใส่ความ กลั่นแกล้ง และคุกคามประชาชน ผู้เข้าร่วมการชุมนุม และผู้สนับสนุนการชุมนุม ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ที่มีความสำคัญหรือมีส่วนได้เสียต่อคดีความ ขอให้ลงโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำร้ายสังหารประชาชนในเหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ.2551 ตลอดจนใส่ความประชาชนผู้ชุมนุมว่าเป็น กบฏ และผู้ก่อการร้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์, พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง พ.ต.อ.ลือชัย สุดยอด ฯลฯ และขอให้คืนความเป็นธรรมให้กับตำรวจที่ทำหน้าที่อย่างสุจริตและกล้าหาญเพื่อประโยชน์ของประชาชนให้เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
9.ขอให้เร่งรัดดำเนินคดีความและลงโทษผู้ที่ถูกชี้มูล โดยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและคณะกรรมาธิการในวุฒิสภาว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเข่นฆ่าประชาชน เช่น นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และเจ้าหน้าที่รัฐ และขอให้ดำเนินการเอาผิดกับอันธพาลการเมืองของรัฐบาลที่ทำร้ายและเข่นฆ่าผู้ชุมนุมจนถึงที่สุด
10.ยุติการใช้สื่อของรัฐโฆษณาชวนเชื่อ และโกหกหลอกลวงประชาชน เพื่อระบอบทักษิณโดยทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายการและผู้ดำเนินรายการความจริงวันนี้ที่สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที และขอให้ปฏิรูปสื่อ เปิดพื้นที่ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้อย่างครบถ้วน เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง
11.ขอให้ประกาศยกเลิกโครงการที่ใช้จ่ายเกินตัว และไม่โปร่งใส ที่จะทำให้ชาติล่มจม เช่น โครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน โครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ฯลฯ โดยทันที
12.ยกเลิก พ.ร.บ.ทุนรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.2542 และใช้การปฏิรูปและพัฒนารัฐวิสาหกิจแทนเพื่อประโยชน์สูงสุดของคนในชาติ และนำเอารัฐวิสาหกิจที่แปรรูปไปแล้วกลับคืนมาเป็นของรัฐดังเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปตท.
13.ขอให้แสดงจุดยืนที่จะส่งเสริม สนับสนุน ประชาชนในการสร้างการเมืองใหม่ ที่ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองเพื่อให้เป็นประชาธิปไตยทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมอย่างแท้จริง ตามแนวทางของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อป้องกันมิให้เกิดวิกฤติทางการเมืองในอนาคตอีกต่อไป